"NASA" พบ "ดวงจันทร์ใหม่ของดาวยูเรนัส" ด้วยกล้องโทรทรรศน์เจมส์ เวบบ์

เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

การค้นพบดวงจันทร์ดวงใหม่ของดาวยูเรนัส ซึ่งมีขนาดเพียง 10 กิโลเมตร ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องทึ่งในความสามารถของกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ ของ NASA

นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัย Southwest Research Institute (SwRI) ได้ประกาศการค้นพบครั้งสำคัญ โดยระบุว่าพบ ดวงจันทร์ดวงใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อน ซึ่งโคจรรอบดาวยูเรนัส ด้วยความช่วยเหลือจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (James Webb Space Telescope) ขององค์การ NASA โดยการค้นพบนี้เกิดระหว่างการสังเกตการณ์ด้วยกล้องเวบบ์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2025

การค้นพบครั้งนี้ทำให้ดาวยูเรนัสมีจำนวนดวงจันทร์เพิ่มขึ้นเป็น29 ดวง ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่ายานอวกาศ โวเอเจอร์ 2 (Voyager 2) ที่เคยบินผ่านดาวยูเรนัสเมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว ยังไม่สามารถตรวจจับดวงจันทร์ดวงนี้ได้

เบื้องหลังการค้นพบ

ทีมวิจัยนำโดย มารียาม เอล มูตอมิด (Maryame El Moutamid)หัวหน้านักวิทยาศาสตร์จากสถาบัน Southwest Research Institute (SwRI) เปิดเผยว่า การค้นพบนี้เกิดขึ้นจากการใช้กล้อง Near-Infrared Camera (NIRCam) ของกล้องเวบบ์ (Webb) ในการถ่ายภาพชุดที่มีการเปิดรับแสงนานเป็นพิเศษ จนพบว่าดวงจันทร์ดวงนี้มีขนาดเล็กมาก คาดว่ามีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น ทั้งนี้ด้วยขนาดที่เล็กและแสงที่จางมาก ทำให้ไม่ถูกพบมาก่อนจากภารกิจในอดีต

ที่มาของภาพ
NASA

ตำแหน่งและลักษณะพิเศษของดวงจันทร์ใหม่ S/2025 U1

ดวงจันทร์ดวงใหม่นี้มีได้รับการตั้งชื่อเบื้องต้นว่า S/2025 U1 ซึ่งวงโคจรอยู่ระหว่างดวงจันทร์โอฟีเลีย (Ophelia) และเบียงกา (Bianca) ห่างจากศูนย์กลางของดาวยูเรนัสประมาณ 56,000 กิโลเมตร ซึ่งวงโคจรที่เกือบจะเป็นวงกลมบ่งชี้ว่ามันอาจจะก่อตัวขึ้นในบริเวณดังกล่าว

แมทธิว ทิสกาเรโน (Matthew Tiscareno) จากสถาบันวิจัยเซติ(SETI Institute) ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมวิจัย ชี้ให้เห็นว่าระบบดวงจันทร์ของดาวยูเรนัสมีความซับซ้อนอย่างยิ่ง โดยกล่าวว่า "ดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่มีดวงจันทร์ขนาดเล็กจำนวนมากในวงโคจรชั้นใน และดวงจันทร์ดวงใหม่นี้มีขนาดเล็กและจางกว่าดวงที่เคยรู้จักกันมาก่อนเสียอีก ทำให้การค้นพบนี้จึงเป็นการยืนยันว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่รอการค้นพบในระบบสุริยะชั้นนอกของเรา"

การค้นพบดวงจันทร์ดวงนี้มาจากโปรแกรม General Observer ของกล้องเวบบ์ (Webb) ซึ่งเปิดโอกาสให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกสามารถใช้เครื่องมือที่ล้ำสมัยของกล้องเวบบ์เพื่อทำการวิจัยได้ การทำงานร่วมกันระหว่างภารกิจในอดีตอย่าง โวเอเจอร์ 2 (Voyager 2) กับเทคโนโลยีอันก้าวหน้าของ กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (James Webb Space Telescope) ในปัจจุบันได้เปิดหน้าต่างบานใหม่ให้แก่มนุษยชาติ ทำให้เราสามารถมองเห็นรายละเอียดของโลกอันลึกลับของดาวยูเรนัส (Uranus) ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ทั้งนี้สำหรับชื่อของดวงจันทร์ที่ค้นพบใหม่นี้ จะต้องรอการอนุมัติจาก สหพันธ์ดาราศาสตร์นานาชาติ (IAU) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่มีอำนาจในการตั้งชื่อวัตถุทางดาราศาสตร์อย่างเป็นทางการ และข้อมูลในบทความของทาง NASA ยังระบุว่าเป็นข้อมูลเบื้องต้นจากงานวิจัยที่กำลังดำเนินการของกล้องเวบบ์ ซึ่งยังไม่ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ (peer-review) อยู่ในระหว่างการดำเนินการต่อไป

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของการค้นพบครั้งนี้ได้ที่ NASA

ข่าวที่เกี่ยวข้อง