โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘อังคณา’ หนุนถก GBC แก้ปัญหา 2 ฝ่าย ซัดเขมรไม่เก็บศพทหาร ผิดอนุสัญญาการบังคับสูญหาย

ไทยโพสต์

อัพเดต 4 สิงหาคม 2568 เวลา 19.00 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อังคณามอง ประชุม GBC เป็นโอกาสดีทั้ง 2 ฝ่ายแก้ไขอุปสรรค ห่วง ข่าวปลอมแทรกแซงการหารือ ถามหาความจริงใจ กัมพูชา ให้ทำตามสัญญา หวังจบบนโต๊ะเจรจา ชี้หากเขมรไม่เก็บศพทหารแจ้งให้ญาติทราบ ผิดอนุสัญญาการบังคับสูญหาย บอก รมว.กต.เคลื่อนไหวเร็วขึ้น เปิดโอกาสให้OHCHR - ICRC เยี่ยม 20 ทหารในไทย

4 ส.ค.2568-ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา (GBC) เรื่องปัญหาชายแดนวันนี้ ว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองฝ่ายได้เผชิญหน้าและแก้ปัญหาร่วมกัน แต่ในความเป็นคู่ขัดแย้งแม้มีสัญญาให้หยุดยิงแต่ก็อาจมีการก่อเหตุการรุนแรงขึ้นได้อยู่ ซึ่งในส่วนของไทยได้ปฏิบัติตามหลักการระหว่างประเทศซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง และเป็นความชอบธรรมของไทยในการต่อรองในส่วนของกัมพูชาเราก็เรียกร้องให้ปฏิบัติตามข้อตกลงเช่นกัน ดังนั้น การประชุมในวันนี้ควรจะมีการแลกเปลี่ยน และแก้ปัญหาร่วมกันว่าอะไรบ้างที่ยังเป็นอุปสรรค ตอนนี้สิ่งสำคัญที่ควรแก้ไขคือการใช้โซเชียลมีเดียของอินฟลูเอนเซอร์ต่าง ๆ รวมถึงข่าวปลอมที่ออกมาเยอะ เราไม่สามารถพิสูจน์ได้เลยว่าเกิดจากฝ่ายไหน และคนที่เสพสื่อส่วนใหญ่ก็พร้อมที่จะเชื่อ ตรงนี้ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่จะเป็นการยั่วยุและอาจเป็นการแทรกแซงการหารือกันอย่างสร้างสรรค์

ถามว่าแม้กัมพูชาจะร่วมโต๊ะเจรจาแต่เหมือนมีนัยยะบางอย่างที่ไม่จริงใจกับไทยนั้น นางอังคณา กล่าวว่า กัมพูชาเป็นประเทศที่ผ่านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มาแล้วผ่านเหตุการณ์ความรุนแรงมาเยอะมาก สิ่งหนึ่งที่เราเจอคือการนำแทคติกต่าง ๆ มาใช้ที่ทุกฝ่ายเห็นกันอยู่ และเชื่อว่าฝ่ายไทยคงจะต้องหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารือ บนโต๊ะเจรจาเช่นกัน เช่น เมื่อรับปากว่าหยุดยิงแต่ทำไมไม่หยุด หรือยังมีระเบิดที่ตกอยู่กลางถนน ดังนั้นกัมพูชาจำเป็นที่จะต้องยอมรับข้อตกลงบนพื้นที่เจรจาเพราะมีสักขีพยาน อย่างมาเลเซียที่เสนอตัวเป็นคนกลาง ให้ไทยกับกัมพูชาได้พูดคุยกันแต่สิ่งสำคัญคือเรื่องความจริงใจ

" ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านทั้งไทยและกัมพูชายังไงก็ย้ายประเทศหนีกันไม่ได้ ยังไงก็ต้องอยู่ด้วยกันตรงนี้ การแก้ปัญหาร่วมกันจึงเป็นเรื่องสำคัญ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือชีวิตของประชาชนของทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะต้องได้รับความเคารพ "

กรณีที่กัมพูชาไม่ได้จัดการกับศพของทหารของตัวเองสะท้อนปัญหาอะไรบ้าง นางอังคณา กล่าวว่า ทางกัมพูชาได้ให้สัญญาสัตยาบัน อนุสัญญาการบังคับสูญหาย ดังนั้นกรณีทหารที่เสียชีวิตและไม่ได้พิสูจน์ทราบ ว่าเป็นใครและบอกญาติไม่ได้เลยว่าคนเหล่านี้หายไปไหนหรือเสียชีวิตที่ไหน ตรงนี้ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญา ซึ่งกัมพูชาต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ เพราะวันนี้ถ้าญาติยังไม่รู้ว่าทหารได้เสียชีวิตไปแล้วญาติก็จะคิดว่าเขาคือผู้สูญหาย ซึ่งจะขัดต่ออนุสัญญา ในส่วนของทางการไทยคงจะเข้าไปช่วยในการเก็บศพไม่ได้ เนื่องจากไม่ใช่พื้นที่ของไทย ดังนั้นกัมพูชาต้องมีความรับผิดชอบต่อพลเมืองของตนเอง เพราะกัมพูชาหลังศึกสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ได้ลงนามอนุสัญญาระหว่างประเทศเยอะมาก แต่ปัญหาคือไม่มีการปฏิบัติตาม ข้อกฎหมายหรืออนุสัญญาระหว่างประเทศที่ตนเองเป็นทวิภาคีดังนั้นเรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่ากังวล ตนเองขอเรียกร้องรัฐบาลกัมพูชา ว่าควรที่จะให้เกียรติกับคนที่เสียชีวิต ถึงแม้จะเป็นทหารฉันผู้น้อยการเคารพศพคืนศพให้กับญาติ มีความสำคัญมากที่รัฐบาลกัมพูชาควรจะรีบเร่งดำเนินการ

เมื่อถามว่าการที่ไม่ได้ดำเนินการกับศพเป็นยุทธศาสตร์ของทางกัมพูชาหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ทางการไทยได้ถ่ายภาพทหารที่เสียชีวิตแล้ว และพื้นที่ตรงนั้นไทยไม่สามารถก้าวล่วงไปได้ และไม่รู้ว่าจะมีการฝังกับระเบิดอะไรไว้อีกหรือไม่ แต่เรามีภาพถ่ายยืนยัน กัมพูชาจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามควรที่จะพิสูจน์ ว่าพื้นที่ตรงนั้นมีศพทหารกัมพูชาอยู่จริงหรือไม่ พร้อมฝากไปถึงประชาชนกัมพูชาโดยเฉพาะครอบครัวของทหารให้มีการเรียกร้องกับกองทัพกัมพูชาและรัฐบาลกัมพูชาในการตรวจสอบเรื่องนี้

ส่วนการสื่อสารของไทยยังตามหลังกัมพูชาอยู่หรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการเริ่มต้นความขัดแย้งและการใช้ความรุนแรงต่อกัน ไทยช้ามากในการสื่อสารไปยังประชาคมโลก แต่จากการแถลงของกระทรวงการต่างประเทศเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาก็ถือว่ามีความก้าวหน้า ทันต่อเหตุการณ์ เช่น กรณีที่กรรมการสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาประณามไทย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงข้อเท็จจริงไปแล้วว่าไม่ได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และกรรมการสิทธิมนุษยชนของกัมพูชา ไม่ได้เป็นสถาบันสิทธิมนุษยชนระดับชาติซึ่งรัฐบาลกัมพูชาเป็นคนตั้งเองไม่ได้เป็นอิสระเหมือนของไทย ซึ่งประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์เปิดโอกาสเชิญทางสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) และผู้แทนกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC)เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้เข้าไปเยี่ยมทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 20 นายโดยการเปิดโอกาสให้เข้าไปเยี่ยมเป็นการสร้างหลักประกัน ให้ทหารทั้ง 20 นายที่ถูกควบคุมตัว จะได้รับการปฏิบัติตามหลักมาตรฐานสากลและจะไม่มีการละเมิด สิทธิมนุษยชน นี่ถือเป็นการตอบสนองที่ทันท่วงทีของกระทรวงการต่างประเทศ ถึงแม้ที่ผ่านมาช่วงแรกจะดูช้ามาก

เมื่อถามว่าปัญหาไทยกัมพูชาคาดว่าจะไม่จบลงโดยง่ายหรือไม่เพราะอาจมีประเทศมหาอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้อง นางอังคณา กล่าวว่า เท่าที่สังเกตการณ์จีนหรือสหรัฐอเมริกา ไม่ได้ยืนอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง เนื่องจากประเทศมหาอำนาจเหล่านี้ก็มีผลประโยชน์ทั้งในกัมพูชาและไทยด้วย แต่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องจับตา

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

มวยไทยซอฟต์พาวเวอร์สุดบูม อเมริกันแห่เรียน800คน ‘แสนชัย-ยอดแสนไกล’เปิดสอนถึงสหรัฐ

21 นาทีที่แล้ว

พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (12)

36 นาทีที่แล้ว

ภูมิธรรม เซ็นคำสั่งมหาดไทย ปลดล็อกพนันโป๊กเกอร์ ถูกกฎหมาย มีผลแล้วตั้งแต่ 30 ก.ค.

42 นาทีที่แล้ว

เนทันยาฮูขอความช่วยเหลือจาก ICRC หลังฮามาสปล่อยภาพน่าตกใจเกี่ยวกับตัวประกัน

54 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

“ชูศักดิ์” ซัดแนวคิด “นายกฯ คนนอก” เป็นพวกนอกระบบ ถามกลับยังมี “ชัยเกษม” หรือแคนดิเดตนายกฯ คนอื่นอีก

สยามรัฐ

“ภูมิธรรม” แจง ปมที่ดินเขากระโดง–อัลไพน์ ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง

THE ROOM 44 CHANNEL

“หมอพรหมินทร์” เผย ส่งคำชี้แจงศาลคดีคลิปเสียงนายกฯ แล้ว ย้ำ บริสุทธิ์ใจ- ปกป้องอธิปไตยไทย ปัดข่าว “อิ๊งค์” ชิงลาออก

สยามรัฐ

'ชูศักดิ์' เชื่อ 'ครม.-สส.' ไม่ถูกสอยซ้ำรอย 'พิเชษฐ์' ผิดม.144

กรุงเทพธุรกิจ

มทภ.2 ลั่น ไม่ถอยกำลังทหาร หวัง GBC ได้ข้อสรุปที่ดี แต่ก็ยังเดาอะไรไม่ได้

MATICHON ONLINE

สห.จับชาวกัมพูชา ลอบเข้าไทยบินโดรนทิ้งจีพีเอส กองบิน5

INN News

ข่าวและบทความยอดนิยม