'ชูศักดิ์' เชื่อ 'ครม.-สส.' ไม่ถูกสอยซ้ำรอย 'พิเชษฐ์' ผิดม.144
ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงการนัดประชุมสภาฯ วันที่ 13 -15 ส.ค. เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ว่า การพิจารณารายละเอียดนั้นไม่ได้กำชับในเรื่องการอภิปรายใดๆ เพราะในกรณีที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อดีตสส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ถูกตัดสิทธิการเมือง เพราะมีส่วนยุ่งเกี่ยวกับการใช้งบประมาณนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการอภิปราย และตนได้พิจารณาในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ไม่เกี่ยวกับการอภิปรายในสภาฯ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการร้องเอาผิด สส. และ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เอาผิดตามมาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญ กรณี
โยกงบประมาณ ปี2568 เพื่อทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตามที่ตนจับหลักการจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ว่า กรณีที่ พ.ร.บ.งบประมาณฯ ผ่านสภาแล้ว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธยแล้ว ศาลจะไม่ไปยุ่ง ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่รับคำร้องคดีนายพิเชษฐ์ ในส่วนของ พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2568 เนื่องจากเป็นกฎหมายแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญจึงรับคำร้องเฉพาะร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ ปี 2569 ที่กำลังพิจารณาอยู่
"ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคือ มีข้อเท็จจริงว่าผู้นั้นเกี่ยวข้องกับการแปรญัตติ หากไม่มีข้อเท็จจริงก็จบ ครม. และ สส. พิจารณาไปตามที่หน่วยรับงบประมาณเสนอ สส. พิจารณาตามที่กรรมาธิการ เสนอ คือ รับหรือไม่รับหลักการ และลงมติวาระสาม ซึ่งเป็นไปตามหน้าที่ เว้นแต่มีข้อเท็จจริงว่า มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งไม่มีข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยผู้เสนอโครงการดิจิทัลวอลเล็ตก็ไม่เข้าข่ายเช่นกัน” นายชูศักดิ์ กล่าว