'อ.เบียร์ คนตื่นธรรม' แนะวิธีรับมือข่าวสารสื่อโซเชียล

ท่ามกลางกระแสสังคมข่าวสารไหลบ่า โซเชียลมีเดีย หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งเศรษฐกิจ สงคราม และการสูญเสีย ทำคนส่วนใหญ่ในสังคม จิตตก เครียด อารมณ์เสีย

ในเรื่องนี้ อ.เบียร์ คนตื่นธรรม มีข้อคิดมาฝาก จากงาน Praew Talk 2025 : The Empowering Conversation โดย นิตยสารแพรว ร่วมกับ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้แนวคิด ทุกเรื่องราวมีพลังเปลี่ยนแปลงชีวิต

เปิดเวทีทอล์คแชร์เรื่องราวของคนดัง นักธุรกิจ และอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและมุมมองที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมวันที่ 26-27 กรกฎาคม ณ โซน Eden เซ็นทรัลเวิลด์

• แสงธรรมนำทางชีวิตดิจิทัล

การใช้ชีวิตในโลกปัจจุบัน ทุกอย่างล้วนสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

Cr. Kanok Shokjaratkul

อ.เบียร์ คนตื่นธรรม เล่าว่า ที่เพิ่งด่าไปหมาด ๆ คือ วัยรุ่นบางกลุ่มบางคนทำคอนเทนต์ไปทำร้ายคนกัมพูชา โกรธแทนประเทศชาติบ้านเมือง แล้วก็ไปทำร้ายคนกัมพูชาที่อยู่ในประเทศไทย นี่เป็นคอนเทนต์ไม่ดี ที่ไม่ควรเกิดขึ้น

"อินฟลูเอนเซอร์ในปัจจุบันชอบทำอะไรตามกระแส สร้างคอนเทนต์ให้เป็นกระแสแบบผิด ๆ อันตรายต่อความคิดของเด็กยุคใหม่ในปัจจุบันมาก สร้างความเชื่อมั่น เอาพวกมากลากไป แทนที่จะเอาความรู้ลากไปแทน

ถ้าเราเสพคอนเทนต์แบบไม่ถูกต้อง สุดท้ายแล้วเราเองจะเป็นคนร่อนเร่เตลิดอยู่ในกระแสของสังคมที่ไม่ถูกต้อง โลกเราในปัจจุบันมันจะไหลสู่กิเลสตัณหามากกว่าไหลสู่คุณธรรมจริยธรรม

คอนเทนต์ส่วนใหญ่ตอบสนองต่อความต้องการของคนมาเป็นอันดับแรก แต่ไม่ได้ตอบสนองต่อปัญญาความรู้หรือทักษะในการใช้ชีวิต เพื่อให้เราผ่านพ้นจากอุปสรรคปัญหาหรือความทุกข์ไปได้

Cr. Kanok Shokjaratkul

คนเรามักสนใจอะไรที่คนติดตามเยอะ คนพูดถึงเยอะ มีไวรัลเยอะ เราจะทำอันนั้นก่อนเป็นอันดับแรก

ส่วนคนทำคอนเทนต์ก็ปรารถนายอดไลก์ยอดแชร์เยอะ ๆ เพราะมันเป็นฟีดแบ็ก เป็นเครื่องตอบรับได้ว่าคนให้ความสนใจกับคอนเทนต์นั้นมากน้อยขนาดไหน

อย่างอาจารย์ทำไลฟ์สดมา 3 ปี โด่งดังมีชื่อเสียงแค่ 10 กว่าเดือนเท่านั้นเอง อาจารย์ไม่เคยสนใจเลยว่ายอดไลก์ ยอดแชร์จะเยอะ อาจารย์ไม่เคยทำโฆษณา ไม่เคยโปรโมท นั่งไลฟ์สดอยู่บ้านใต้ต้นไม้แค่นั้น แล้วก็นั่งด่า ๆ ๆ แต่คำที่เราพูดออกไป ด่าออกไป มันกระแทกสังคมได้

คอนเทนต์ที่เราใช้มันกระตุกเตือนสติสัมปชัญญะคนให้รู้สึกตัวว่า เฮ้ย สิ่งที่อาจารย์พูดมันเป็นเหตุเป็นผล สิ่งที่กำลังเดินตามอยู่มันเป็นความเห็นผิดนะ

Cr. Kanok Shokjaratkul

ถ้าเราให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ให้ข้อมูลที่เป็นอรรถเป็นธรรม เมื่อประกาศออกไปแล้ว มันทัชใจ มันแตะต้องใจคน เขาจะไปบอกปากต่อปากกันเอง

อาจารย์โด่งดังได้เพราะสอนธรรมะตามสไตล์ของตัวเอง สอนเสร็จแล้ว คนเอาคลิปวิดีโอไปตัดแล้วไปแชร์กันเอง จนเป็นไวรัล

โดยที่อาจารย์ไม่ได้ทำอะไรเลย นั่งไลฟ์สดปกติ ช่องตัวเองยังไม่ดังเท่ากับอีกช่องที่คนเอาไปตัดลงด้วยซ้ำไป ยอดวิวเยอะกว่าอีก ช่องอาจารย์ยอดวิวสูงสุดประมาณ 12 ล้าน คนติดตามใน TikTok 3.4 ล้าน

เราโตมาจาก TikTok เวลาเสิร์ฟคอนเทนต์ ไม่ได้สนใจกับยอดไลก์ แต่ยอดไลก์มันมาเอง เราเข้าใจความมีกิเลสของเรา ความอยากมันเกิดขึ้น เราเริ่มยึดแล้วว่ามันต้องได้เป้าเท่านี้

Cr. Kanok Shokjaratkul

เราเอาตาเราไปมองคนอื่น ทำไมเขาได้คอนเทนต์ได้ยอดไลก์มันเยอะจังเลย ทั้ง ๆ ที่คอนเทนต์โคตรขยะเลย ทำไมคนติดตามเยอะ ซึ่งในกลุ่มวัยรุ่น มันจะเป็นกลุ่มใครกลุ่มมัน

คนสนใจธรรมะฐานมันน้อย แต่ธรรมะของเรามันเป็นแบบกระแทก สไตล์วัยรุ่น ปกติธรรมะจะเป็นแบบคนแก่ ๆ ห่มสบเฉียง นุ่งขาวห่มขาว พอเราเริ่มเปลี่ยนสไตล์ใหม่เข้าถึงคนได้ มันเลยเป็นเหตุให้เราได้เก็บวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาด้วย

เวลาอาจารย์ไปบรรยายตามโรงเรียน นักเรียนจะกรี๊ด ๆ วิ่งเข้ามาหา ขอถ่ายรูป เพราะเขารู้สึกว่าฟังธรรมะแล้วมันสนุก เพราะฉะนั้น คอนเทนต์มันอยู่ที่เนื้อหาที่เราจะเสิร์ฟไปให้

อาจารย์มั่นใจว่าถ้าเราถามอินฟลูเอนเซอร์ เราจะพบว่า เขาไม่ได้ตั้งใจให้มันดัง แต่มันดันมีคนมาติดตามอันนี้เยอะมากเลย แต่อันที่เราจงใจกลับไม่มีคนติดตาม ไม่มีคนดูเยอะ มันเป็นไปตามเหตุของมัน ยิ่งอยากมากบางทีอาจจะไม่ได้อะไรเลย ก็ต้องสร้างเหตุไปตามความถูกต้องที่ควรจะเป็น"

Cr. Kanok Shokjaratkul

สำหรับคนที่ทำคอนเทนต์ จะทำยังไงไม่ให้เป็นคอนเทนต์ขยะ ? อ.เบียร์ตอบว่า

"เราต้องกลับมาดูคอนเทนต์ที่เป็นกระแสว่า มันเกิดประโยชน์กับตนเอง เพราะเราได้เงินทอง ได้ชื่อเสียง ได้ยอดไลก์ได้ยอดแชร์ แล้วมันเกิดประโยชน์กับผู้อื่นด้วยมั้ย ถ้าเราสร้างคอนเทนต์แบบมีคุณค่าตั้งแต่แรก ตัวเราเองก็จะเป็นคนที่มีคุณค่าในสังคม

ถ้าอาจารย์ไปทำคอนเทนต์ขยะตามกระแสที่มันไม่สมควรแก่โลก แก่ปัญญาชน ก็จะไม่มีใครนับถือศรัทธาอาจารย์ ไม่มีใครให้เกียรติอาจารย์ ในทางกลับกันวันนี้อาจารย์เดินเข้ามาที่นี่มีคนขอถ่ายรูปมาตลอดทาง เพราะเราให้คอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์

หลายคนเจออาจารย์ บอกว่าชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมาก ชีวิตดีขึ้นเยอะเลย แสดงว่าคอนเทนต์เรากำลังเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้

สังคมไหนเสพคอนเทนต์ขยะมาก แสดงว่าสังคมนั้นกำลังตกต่ำลงเรื่อย ๆ

แต่ถ้าสังคมเริ่มเสพข้อมูลที่เป็นข่าวสารมากขึ้น ความรู้มากขึ้น แก้ไขตัวเองมากขึ้น ดีกว่าไปแก้ไขคนอื่น แสดงให้เห็นว่าสังคมเรากำลังเติบโตในด้านคุณธรรมจริยธรรมด้านปัญญามากยิ่งขึ้น

ดูได้เลยว่าสังคมเราคอนเทนต์เป็นแบบไหนโดยมาก แสดงว่าสังคมเราจะเป็นแบบนั้นโดยมากเช่นเดียวกัน"

Cr. Kanok Shokjaratkul

สถานการณ์ตอนนี้ ควรนำหลักธรรมไหนมาปรับใช้ อ.เบียร์ ตอบว่า

"จริง ๆ ธรรมะ มันใช้ได้ทั้งหมด ธรรมะเป็นสัจจะความจริงที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ เราสามารถนำสัจจะเหล่านี้มาใช้ในชีวิต

สังคมยุคปัจจุบันในภาวะที่กำลังมีสงคราม เรากำลังเสพสื่อทั้งจริงไม่จริงเต็มไปหมดเลย ไม่รู้ข้อมูลไหนจริง ข้อมูลไหนเท็จ

พระพุทธเจ้าสอนว่า เวลาเราได้ยินได้ฟังอะไรมา อย่าเพิ่งรับรองว่ามันถูกต้อง และอย่าเพิ่งคัดค้านว่ามันผิด ให้รับไว้แล้วนำไปตรวจสอบก่อน

ในยุคปัจจุบันอาจารย์ขอ คุณธรรม จริยธรรม ให้สังคมไทยเราและสังคมกัมพูชาด้วยว่าควรมี

สิ่งสำคัญที่สุดคือ พรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

• เมตตา ความปรารถนาดีต่อทุกคน ไม่ว่าเขาจะดีกับเราหรือไม่ก็ตาม
• กรุณา การช่วยเหลือและเยียวยาผู้อื่นเมื่อสามารถทำได้
• มุทิตา การรู้จักยินดีกับผู้อื่นที่ทำดี ไม่ใช่เอาแต่ตำหนิวิพากษ์วิจารณ์
• อุเบกขา การวางเฉย เมื่อทำทุกอย่างอย่างดีและเต็มที่แล้ว ยังแก้ไขไม่ได้ ก็ต้องปล่อยวาง

หากเสพสื่อแล้วเกิดความเครียด ควรเลื่อนผ่านเลย ไม่ใช่เข้าไปด่าหรือต่อต้าน เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ทุกข์ร้อนที่สุดคือ ตัวเราเอง

อยู่กับปัจจุบันขณะ อย่ามัวขวนขวายอยู่กับอดีตที่จบไปแล้ว หรือรอคอยความหวังอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ให้โฟกัสอยู่กับปัจจุบันว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น

การแก้ปัญหาชีวิตที่ดีที่สุด คือ การกระทำของตัวเราเอง และฝากชีวิตไว้กับธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้า เพราะสิ่งนี้สามารถแก้ไขสันดานและการกระทำของเราได้

ที่พึ่งอันเกษม คือ พึ่งตนเองกับพึ่งธรรมะ

อยากให้ทุกคนมีสติ เพราะมีข่าวปลอม (Fake News) จำนวนมาก หากมีสติสัมปชัญญะในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะตื่นหรือหลับก็เป็นสุข

ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกจะเดินสู่ความเสื่อม ไม่มีอะไรเกิดแล้วไม่ดับ สงครามที่เกิดขึ้นก็ย่อมผ่านพ้นไป คนเราทุกคนล้วนต้องตาย หากนำธรรมะมาเยียวยาจิตใจได้ ความทุกข์ก็จะเบาบางลง"