EEC เผยแก้สัญญา”ไฮสปีด 3 สนามบิน”ใกล้จบ ส่วน‘อู่ตะเภา”เลื่อนออก NTP เร่งเจรจาลดไซด์เฟสแรก
คาด”อัยการ”ตรวจร่างสัญญาร่วมทุนฯ”ไฮสปีด 3 สนามบิน”ใกล้เสร็จ ลุ้นชงบอร์ดรฟท. 17 ก.ค.นี้ เร่งเสนอบอร์ดอีอีซี และครม.เคาะลงนามในก.ย. ส่วน “อู่ตะเภาเมืองการบิน” เลื่อนออก NTP เร่งเจรจาลดไซด์พัฒนาเฟสแรกกรณี”ไฮสปีด” เปิดไม่พร้อมกัน
นายจุฬาสุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) หรือ EEC เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)ว่า ขณะนี้โครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ยังอยู่ในขั้นตอนอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาร่วมลงทุน ฯ ที่มีการปรับแก้ไข โดยล่าสุด ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และผู้เกี่ยวข้องได้ชี้แจงเพิ่มเติม ต่ออัยการสูงสุดถึงรายละเอียดข้อความที่ปรับแก้ของร่างสัญญาร่วมลงทุน ฯ ซึ่งคาดว่าจะครบถ้วนแล้วและน่าจะสรุปได้ในเร็วๆนี้ ซึ่ง หลังตรวจร่างสัญญาร่วมทุนฯที่ปรับแก้ไข เรียบร้อย อัยการสูงสุดจะส่งกลับมา รฟท. ซึ่งเป็นไปตามกรอบระยะเวลาการตรวจร่างสัญญาฯของ
ทั้งนี้ตามขั้นตอนหลัง อัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาร่วมทุนฯแล้ว รฟท.จะเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท. เห็นชอบได้ภายในเดือนก.ค.นี้ เพื่อส่งมาที่ คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการฯและ EEC จะนำเสนอคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) อย่างเร็วที่สุดภายในเดือนส.ค.นี้ เพื่อเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอความเห็นชอบสัญญาที่มีการปรับแก้และนำไปสู่การลงนามสัญญากับบริษัท เอเชีย เอรา วันซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงเดือนก.ย. 2568 จากนั้นจะออก NTP เริ่มการก่อสร้างต่อไป
“ตามขั้นตอนและไทม์ไลน์การแก้ไขร่างสัญญาเป็นเรื่องถ้อยคำ รายละเอียดให้ตรงกับ หลักการ ที่ บอร์ดกพอ.เห็นชอบไว้ และเป็นหลักการที่ รฟท.และซีพี ได้ตกลงกันไว้แล้วดังนั้นเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไรอีก
ดังนั้นหาก เข้าบอร์ด EEC ในส.ค.นี้ จากนั้นเสนอครม.ในก.ย.และลงนาม”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองมีความไม่แน่นอน หาก เกิดมีการเปลี่ยนแปลงหรือต้องอยู่ในภาวะครม.รักษาการ จะกระทบต่อโครงการหรือไม่ นั้น นายจุฬากล่าวว่า เรื่องนี้ เป็นประเด็นเหมือนกัน เพราะการเห็นชอบสัญญาร่วมทุนฯที่มีการปรับแก้ไข ต้องพิจารณาว่า จะเข้าข่ายเป็นการอนุมัติที่จะมีผลผูกพันไปกับรัฐบาลในต่อไปหรือไม่
ทั้งนี้ รายงานข่าวจากรฟท.แจ้งว่า ขณะนี้ อัยการสูงสุด ยังไม่ส่งร่างสัญญาร่วมทุนฯให้รฟท. แต่คาดว่าจะส่งถึงรฟท.ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งรฟท.จะเร่งเสนอบอร์ดรฟท.ให้ทันการประชุมในวันที่ 17 ก.ค.68
อย่างไรก็ตาม กรณีนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่จะใช้กับโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ด้วย ซึ่งจะมีผลทำให้การจัดเก็บรายได้โครงการเปลี่ยนแปลงไป หรือลดลง เป็นอีกประเด็นที่อาจจะต้องมีการเจรจากันในอนาคตได้
@อู่ตะเภาเมืองการบินเลื่อนออก NTP
ส่วนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งมีประเด็นกรณีที่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีความล่าช้านั้น นายจุฬากล่าวว่า เดิมทีคาดว่า จะ ออก NTP ให้เริ่มงานวันที่ 15 ก.ค. 2568 ต้องขยายกำหนดออกไปอีก เนื่องจากการเจรจากับ บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่นจำกัด (UTA) ผู้รับสัมปทานฯ ยังไม่จบ ในเงื่อนไขให้ก่อสร้างไปก่อน บนสมมุติฐานที่ยังไม่มีรถไฟความเร็วสูง
ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเจรจาปรับแผนการพัฒนาจาก 4 ระยะ เป็น 6 ระยะแล้ว แต่เมื่อยังไม่มีรถไฟความเร็วสูงจึงมีการเสนอที่จะปรับการพัฒนา ในระยะแรก เพื่อลดการลงทุนให้เหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสาร เช่น ระยะแรกกำหนดไว้ที่ 6 -8 ล้านคนก็อาจจะเริ่มต้นที่ 3 ล้านคนก่อน แล้วค่อยพัฒนาให้เต็มเฟสเมื่อมีรถไฟความเร็วสูงเข้ามา และเมื่อมีผู้โดยสารถึงระดับ 80% ของขีดความสามารถระยะแรก หรือมีจำนวน 2.4 ล้านคน จึงดำเนินการพัฒนาในระยะที่ 2 และต่อไป จนรองรับผู้โดยสาร 60 ล้านคนตามเป้าหมาย
“เป็นข้อเสนอเพิ่มเติม ที่ยังมีการเจรจากันอยู่ เพราะหากไม่มีรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ผู้โดยสารก็จะไม่เป็นไปตามคาดหมาย ขณะที่การพัฒนาสนามบิน กรณีทำเล็กเกินไป ก็เป็นอีกปัจจัยที่อาจจะไม่ดึงดูดให้สายการบินและผู้โดยสารมาใช้บริการได้เช่นกัน จึงต้องคิดในหลายๆ มุมซึ่งในการก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก นั้น ในส่วนของเอกชน มีการลงทุนหลายส่วน ไม่ใช่แค่อาคารผู้โดยสาร แต่ยังมีเมืองการบิน ที่มีธุรกิจเกี่ยวเนื่องอีก เพื่อยกระดับสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศอีกแห่ง”
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO