โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ฝ่ายค้านจับมือปลดล็อกประเทศ

ไทยโพสต์

อัพเดต 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 7.08 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"พรรคร่วมฝ่ายค้าน" ชื่นมื่น ประสานมือ 5 พรรค รับ "ภท." น้องใหม่ "ณัฐพงษ์" นำถกแนวทางแสวงหาจุดร่วม ได้ข้อสรุป 4 ประเด็นหลัก ปลดล็อกประเทศ จี้รัฐบาลถอนร่าง กม.กาสิโน เดินหน้าทำประชามติเพื่อแก้ รธน. ขณะที่นิรโทษกรรมยังเห็นต่าง ตั้งคณะทำงานหารือต่อ ส่วน "ซักฟอก ม.151" รอประเมินสถานการณ์ "ปชน." แจงโหวตนายกฯ เพื่อทางออก ปท. ไม่ยึดตัวบุคคล "อนุทิน" ปัดข่าวลือนั่งนายกฯ ชั่วคราว แค่พูดตามหลักการ ฟิตจัด! ฝ่ายค้านประเดิมเสนอนับองค์ประชุมสภาฯ "พิเชษฐ์" ชิงปิดประชุมก่อนล่ม

ที่รัฐสภา เวลา 09.30 น. วันที่ 3 กรกฎาคม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านนัดแรก ภายหลังเปิดสมัยประชุมสภาฯ เพื่อหารือทิศทางการทำงาน ซึ่งในช่วงเช้าได้มีการปิดห้องหารือส่วนตัวกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)

โดยแกนนำแต่ละพรรคที่เข้าร่วมมีดังนี้ แกนนำพรรคประชาชน ประกอบด้วย นายณัฐพงษ์, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค, นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค, นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค

แกนนำพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค, นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรค, น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี โฆษกพรรค เป็นต้น แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกอบด้วย นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร รองหัวหน้าพรรค และนายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา รองหัวหน้าพรรค แกนนำพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ประกอบด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค, นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด เลขาธิการพรรค เป็นต้น และแกนนำพรรคเป็นธรรม (ปธ.) ได้แก่ นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ

โดยก่อนการเริ่มประชุมได้มีการประสานมือกันระหว่างตัวแทนของทั้ง 5 พรรคร่วมฝ่ายค้าน จากนั้นนายณัฐพงษ์กล่าวว่า ในการเปิดสมัยประชุมใหม่นี้ เป็นสิ่งที่เราจะมาหารือกันว่า ในฝั่งของพรรคฝ่ายค้านมีอะไรที่สามารถขับเคลื่อนร่วมกันได้ ขณะเดียวกันพรรคฝ่ายค้านมีบางอย่างที่ไม่เหมือนพรรคร่วมรัฐบาล เราจึงให้เกียรติซึ่งกันและกัน อะไรที่เป็นจุดยืนหรือข้อแตกต่างของพรรคฝ่ายค้าน ก็จะไม่ก้าวก่ายกัน ซึ่งวัตถุประสงค์ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อแสวงหาจุดร่วมที่จะผลักดันร่วมกันได้ ภายใต้สถานการณ์ของประเทศที่วิกฤตในปัจจุบัน

ด้านนายอนุทินกล่าวว่า วันนี้เป็นครั้งแรกที่พรรค ภท.ได้มาปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรในฐานะที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน จริงๆ แล้วพวกเราทุกคนรู้จักกันหมด และเมื่อเช้านี้ตนก็มีการประชุมหารือร่วมกับผู้นำฝ่ายค้านฯ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น ยืนยันว่า ภท.จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะและบทบาทของการเป็นฝ่ายค้าน เพื่อตรวจสอบในสภาอย่างเต็มที่ร่วมกันกับพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค

ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า พรรค ทสท.จะมีความเข้มแข็งมากขึ้นในฐานะฝ่ายค้าน ที่มีโอกาสร่วมงานกับพรรค ภท. ขณะนี้ประเทศชาติอยู่ในภาวะวิกฤตหลายด้าน ฉะนั้นบทบาทของฝ่ายค้านจึงมีความสำคัญ ยืนยันจะเป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ และทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง

ภายหลังการประชุมซึ่งใช้เวลาหารือกันประมาณ 30 นาที นายณัฐพงษ์ได้เป็นตัวแทนแถลงว่า วาระในการประชุมวันนี้คือการใช้กลไกของฝ่ายค้านและสภาในการหาทางออกให้กับประเทศเป็นหลัก โดยยึดหลักการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน แสวงหาจุดร่วมที่จะสามารถผลักดันร่วมกันได้ รวมถึงให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน ในจุดยืนของแต่ละพรรค ซึ่งแต่ละพรรคอาจจะมีข้อคิดเห็นหรือจุดเด่นที่แตกต่างกันได้

ร่วมผลักดัน 4 ประเด็นหลัก

ส่วน 4 เรื่องหลักที่มีการพูดคุยกัน ซึ่งเป็นปัญหาที่ประชาชนรอฟังคำตอบอยู่ คือ 1.การเดินหน้ากลไกในสภาทุกอย่าง เพื่อกดดันให้รัฐบาลหยุดเดินหน้าหรือถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกไป โดยมีเงื่อนไขว่า จะต้องให้ความเชื่อมั่นต่อพวกเรา และประชาชนว่าจะไม่มีการเสนอร่างนี้กลับเข้ามาอีก

2.การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีรายละเอียดอีกหลายเรื่องที่ตนมองว่ายังไม่สามารถบอกได้ในตอนนี้ แต่หนึ่งอย่างที่เห็นตรงกันในหลักการ คือการจัดทำประชามติ ซึ่งในปัจจุบันยังอยู่ระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาเรื่องการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อเปิดช่องทางสรรหาสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หรือไม่ โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านจะใช้กลไกสภาในสมัยประชุมปัจจุบันตามที่เหมาะสม ในการเดินหน้าเสนอให้มีการจัดทำประชามติ พร้อมกับการเลือกตั้งใหม่

3.การพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม ที่ยังมีรายละเอียดอีกหลายส่วน ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านยังเห็นแตกต่างกันอยู่นั้น เราจะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาเรื่องนี้

4.การยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ซึ่งเราเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ภายใต้นิติสงครามที่มีการดำเนินคดีต่างๆ ยังมีความไม่แน่นอนสูง ดังนั้นต้องประเมินสถานการณ์ทางการเมือง เรื่องความชัดเจนของคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณากรณีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อยู่ ก่อนจะมีการตัดสินใจว่าจะยื่นญัตติเมื่อไหร่ ในส่วนรายละเอียดที่จะต้องมีการหารือกันต่อ รวมถึงเรื่องอื่นๆ ในอนาคต จะเป็นส่วนที่คณะทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือร่วมกันต่อไป

สำหรับกรณีกระแสข่าวการเสนอตัวนายกรัฐมนตรีชั่วคราวนั้น นายณัฐพงษ์ชี้แจงว่า ต้องให้เกียรตินายอนุทินด้วย แต่โดยหลักการขอย้อนกลับไปในสิ่งที่เราต้องมาประชุมร่วมกันว่าเราประชุมเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ ซึ่งในวันนี้อาจจะยังไม่เหมาะสมหากจะพูดอะไรไปล่วงหน้า เพราะสถานการณ์ยังไม่เกิด เนื่องจากขณะนี้นายกรัฐมนตรียังชื่อ น.ส.แพทองธาร เพียงถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ยืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกคนและหัวหน้าพรรคทุกคนมีการหารือกันว่า เราจะไม่ทำให้การเมืองเดินถึงทางตัน

ปัดโหวต 'อนุทิน' นั่งนายกฯ

ด้านนายอนุทินกล่าวเสริมว่า เรื่องกระแสข่าว ขอพูดว่ามันไม่มีการเสนอตัว เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอย่างมาก ไม่ได้มีการพูดถึงตรงนั้นเลย ตอนนี้เราพูดในหลักการ ในสถานการณ์แบบนี้ ใครที่เข้ามาก็ตาม ต้องเข้ามาด้วยระยะเวลาที่เฉพาะกิจเฉพาะกาลเพื่อมาแก้ไขปัญหาปัจจุบันและยุบสภาให้เกิดการเลือกตั้ง คืนอำนาจให้ประชาชนได้ตัดสินใจต่อไป แต่เรื่องพวกนี้เราไว้รอถึงเวลาที่เหมาะสมก่อน ตอนนี้นายกฯ ยังอยู่ในตำแหน่ง

ส่วนกรณีที่พรรค ปชน.มีมติจะโหวตให้นายกฯ คนใหม่โดยไม่ร่วมรัฐบาลแต่ต้องมีเงื่อนไขนั้น นายณัฐพงษ์ระบุว่า สิ่งที่ ปชน.เสนอ ไม่ได้เสนอว่าเราจะร่วมโหวตหรือไม่ร่วมโหวตให้ใคร เป็นข้อเสนอที่เราเชื่อว่าเป็นทางออกของประเทศจริงๆ หากวันหนึ่งสถานการณ์ทางการเมืองเดินไปถึงจุดนั้น แต่อย่างไรเรื่องนี้คิดว่ายังไม่มีความเหมาะสมที่จะนำเสนอในวันนี้ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองยังเดินไปไม่ถึงจุดนั้น

เมื่อถามว่า หากมีการเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกฯ จะมีการโหวตให้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ระบุว่า ไม่ได้อยู่ที่ว่าจะโหวตให้ใคร จะนายชัยเกษมหรือนายอนุทิน แต่เราดูที่จุดยืนร่วมกันว่าการออกเสียงของ ปชน.และพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่ละพรรคแต่ละคนมีจุดยืนของตัวเอง ในส่วนของ ปชน.เรายืนยันในหลักการว่า การโหวตให้ใครก็ตาม เราไม่ยึดติดกับตัวบุคคลหรือพรรค แต่ต้องเป็นการสร้างทางออกให้กับประเทศได้

เมื่อถามถึงจุดยืนร่วมกันระหว่าง ภท.และ ปชน.ในเรื่องการยุบสภา นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เฉพาะในส่วน ปชน.เราเชื่ออย่างนั้นอยู่แล้ว นายอนุทินกล่าวเสริมว่า ตนพูดชัดเจนแล้ว

ด้านนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ในฐานะอดีตเลขานุการคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ 2560 ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เกิดขึ้นภายในรัฐบาลปัจจุบันว่า ประเด็นดังกล่าวต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่รัฐสภาเสนอให้วินิจฉัยต่อจำนวนครั้งของการทำประชามติเพื่อแก้ รธน. คาดว่าจะรู้ผลในสัปดาห์หน้า จะมีแนวทางที่ชัดเจน ทั้งให้ทำประชามติ 2 ครั้ง และทำประชามติ 3 ครั้ง ซึ่งไม่ว่าคำวินิจฉัยจะกำหนดให้ทำประชามติกี่ครั้ง จะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการแก้ รธน.มาตรา 256 ที่บรรจุไว้ในระเบียบวาระของรัฐสภา

นายนิกรกล่าวว่า หากคำวินิจฉัยชี้ว่าต้องทำประชามติ 2 ครั้ง จะทำให้รัฐสภาเดินหน้าแก้ รธน.ตามที่บรรจุไว้ในระเบียบวาระได้ แต่เชื่อว่าจะถูกโหวตตกในวาระแรก เพราะ ภท.ไม่เห็นด้วยต่อการแก้ รธน.ที่ไม่เว้นวรรคหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งเชื่อว่าในขั้นการโหวต สว. จะไม่เห็นชอบด้วยคะแนนถึง 1 ใน 3 แน่นอน และหากคำวินิจฉัยระบุว่าทำ 3 ครั้ง ร่างแก้ไข รธน.มาตรา 256 นั้นจะถือว่าตกไป เพราะถือว่าไม่ผ่านกระบวนการทำประชามติครั้งแรกที่ต้องถามความเห็นของประชาชนก่อน

นับองค์ประชุมเย้ย รบ.ปริ่มน้ำ

นายนิกรด้วยว่า หากรัฐบาลต้องทำประชามติเพื่อสอบถามประชาชนว่าเห็นด้วยกับการแก้ รธน.โดย ส.ส.ร. เชื่อว่าจะทำได้ และผลของการทำประชามติจะผ่าน แต่จะไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการของรัฐสภาได้ทันก่อนหมดวาระ ดังนั้นทำประชามติได้เพื่อตั้งต้นให้รัฐสภาชุดใหม่ดำเนินการ ส่วนกรณีที่ ปชน.เสนอให้มีรัฐบาลชั่วคราว และแลกกับการแก้ไข รธน. เสนอได้แต่ทำไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ต้องรอคดีของ น.ส.แพทองธาร ที่ถูกคำสั่งศาลหยุดปฏิบัติหน้าที่ให้แล้วเสร็จก่อน การเสนอทางที่เป็นทางบายพาสนั้นไม่เกิดขึ้นแน่นอน

วันเดียวกัน เวลา 13.10 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปีที่ 2 ครั้งที่ 1 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ภายหลังเสร็จสิ้นกระทู้ถามสด ได้มีการอ่านพระบรมราชโองการเปิดสมัยประชุมสภาฯ จากนั้น ก่อนเข้าสู่วาระรับทราบรายงาน ปรากฏว่านายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรค พปชร. ได้เสนอให้มีการนับองค์ประชุม ทำให้นายวัชรพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ท้วงขึ้นว่า ญัตติดังกล่าวยังมีผู้รับรองไม่ครบ 5 คน โดยมีผู้รับรองเพียง 3 คนเท่านั้น หากจะเรียกสมาชิกเข้าห้องประชุมไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะญัตติดังกล่าวยังไม่ถูกต้อง แต่นายพิเชษฐ์เพียงแค่บอกว่าใจเย็นๆ ตนอยู่ข้างบน มองเห็น เจ้าหน้าที่ก็นับแล้ว ก็จะมีการเสนอให้นับองค์ประชุมอีก พวกเรารอได้ จากนั้นนายพิเชษฐ์ได้กดออดเรียกสมาชิกให้มาเข้าห้องประชุมอีกหลายครั้ง

จนต่อมานายวัชรพลได้เสนอให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ โดยมีผู้รับรองถูกต้อง และในระหว่างที่สมาชิกกำลังรอเข้าห้องประชุมอยู่นั้น นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรค พท. ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ท้วงติงนายพิเชษฐ์ว่า เมื่อมีสมาชิกเสนอให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ ก็ต้องไล่รายชื่อไปตามพยัญชนะ แต่นายพิเชษฐ์ระบุว่า ในเมื่อมีผู้เสนอให้นับองค์ประชุม 2 แบบ ทำให้ที่ประชุมต้องลงมติกันว่าจะใช้วิธีใด

ผ่านไปประมาณ 10 นาที กระทั่งนายพิเชษฐ์กล่าวว่า “วันนี้เป็นวันประชุมวันแรก ดังนั้นเราเอาแค่นี้ก่อนครับ ปิดประชุมครับ” ก่อนจะปิดการประชุมทันทีในเวลา 13.58 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรค ภท.เป็นพรรคแรกที่เดินออกจากห้องประชุมทั้งพรรคเมื่อเริ่มมีการขอนับองค์ประชุม ทั้งนี้มีรายงานว่าเนื่องจากมีรัฐมนตรีหลายคนที่เป็น สส.และต้องเดินทางเข้าประชุม ครม.นัดพิเศษที่ทำเนียบรัฐบาล แต่หลังประชุมเสร็จไม่นาน เมื่อทราบว่ามีการนับองค์ประชุมสภาฯ บรรดารัฐมนตรีต่างรีบเร่งขึ้นรถออกเดินทางมาเป็นองค์ประชุมที่รัฐสภาเพื่อป้องกันไม่ให้องค์ประชุมล่ม แต่นายพิเชษฐ์ได้สั่งปิดการประชุมก่อน.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

จับตา ‘ทักษิณ’ ให้ ‘ภูมิธรรม’ นั่งมท.1 จุดระเบิดลูกใหม่ ‘ที่ดินอัลไพน์’

24 นาทีที่แล้ว

ผลการละเมิดคำปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘แก่’แต่ยังมีของ!

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ให้พ่อดูพื้นที่

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ผัวสุดเดือด กระโดดถีบเมีย แต่กลับเจอแทงสวน ฝ่ายชายนอนร้องเจ็บปวด ฝ่ายหญิงจูงลูกสาวหนีกลับบ้านเกิด

สยามนิวส์

สรุปข่าวประจำวันที่ 4 กรกฎาคม 2568

AEC10NEWs

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก 37 จังหวัด รับมือท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

ไทยโพสต์

เช็ก 42 จังหวัดทั่วไทย ฝนฟ้าคะนอง-ฝนตกหนัก ‘กทม.-ปริมณฑล’ ฝนตก 70% ของพื้นที่

เดลินิวส์

เปิดด้านมืดของกีฬาฟุตบอล รอยเท้าคาร์บอนที่โลกต้องแบก

ฐานเศรษฐกิจ

สภาพอากาศวันนี้ ฝนตกหนัก! เหนือ-อีสาน-ตะวันออก เตือนน้ำท่วมฉับพลัน

Thai PBS
วิดีโอ

เปิดเหตุ “บัญชีม้า” ทำไมยังลักลอบข้ามแดนไปกัมพูชาต่อเนื่อง

Thai PBS

กระบะบรรทุกผลไม้ซิ่งแข่ง เหินเนินอัดเสาไฟฟ้าหัก คนขับดับสยอง

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...