สรุปกรณี ‘รพ.สรรพสิทธิประสงค์’ หลังถูกวิจารณ์เรื่องนโยบายคนไข้กัมพูชา และคำชี้แจงล่าสุดจากโรงพยาบาล
โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี กำลังกลายเป็นอีกประเด็นที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกกรุ่น เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มีกระแสข่าวว่า ทางโรงพยาบาลออกมาประกาศว่าจะยกเลิกปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารชาวกัมพูชา และการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา
เรื่องราวที่ผ่านมาเป็นอย่างไร? และมีข้อชี้แจงอะไรออกมาบ้าง?
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือประกาศลงวันที่ 30 ก.ค. 68 โดยระบุเรื่องว่า ขอยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา โดยในรายละเอียดเนื้อหาระบุเพิ่มเติมว่า ทางโรงพยาบาลได้ให้การรักษาทั้งผู้ป่วยชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงชาวกัมพูชาที่เดินทางมารักษาอย่างต่อเนื่องเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ ขณะที่โรงพยาบาลได้มีมติว่า ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ, ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว, ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ ผู้ป่วยชาวกัมพูชา และผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. - 10 ส.ค.2568 หลังจากที่ประกาศดังกล่าวถูกปล่อยออกมา ทำให้เกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากที่มีไม่เห็นด้วยโดยสะท้อนว่าทางโรงพยาบาลกำลังเลือกปฏิบัติ สร้างความเกลียดชัง เพื่อเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ทางการเมือง ขณะที่ในมุมของผู้ที่เห็นด้วยมองว่า อยากให้เก็บทรัพยากรเหล่านั้นไว้รักษาคนในประเทศมากกว่า และเห็นด้วยกับการตัดสินใจของโรงพยาบาล เนื่องจากกังวลว่าชาวกัมพูชาที่มารับการรักษาจะมีเจตนาแฝง ไม่สามารถไว้ใจได้อีกต่อไปแล้ว จนล่าสุดเมื่อประมาณ 13.00 น. ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลได้ออกแถลงการณ์อีกหนึ่งฉบับ ซึ่งเป็นเอกสารชี้แจงโดยระบุว่า จากประเด็นการเผยแพร่ภาพและข้อความที่เกี่ยวข้องกับหนังสือแจ้งเวียนภายในโรงพยาบาล เรื่อง การยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชาและการให้บริการผู้ป่วยชาวก้มพูชา และมีการแชร์ตามสื่อโชเชียล ต่างๆ ทำให้เกิดการสื่อสารคลาดเคลื่อน ทางโรงพยาบาล ชี้แจงว่า โรงพยาบาลให้การดูแลผู้ป่วยกัมพูชา เป็นไปตามหลักมนุษยธรรม ผู้ป่วยรายเดิมที่ยังนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ให้บริการโดยปกติให้เหมาะสมกับสถานการณ์เพื่อความปลอดภัย ขณะที่การงดรับยาแทน เนื่องจากมีข้อจำกัดการจัดส่งยาข้ามแดน ทำให้มียาตกค้างจำนวนมาก ส่วนกรณีหากมีผู้ป่วยกัมพูชารายใหม่ พร้อมให้บริการตามหลักมนุษยธรรม โดยเฉพาะกรณีฉุกเฉิน โดยโรงพยาบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ญาติ และบุคลากรโรงพยาบาล โรงพยาบาลระบุอีกว่า การให้บริการของโรงพยาบาลในสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดน ทำให้ต้องปรับการให้บริการที่ไม่เร่งด่วนบางประการลง เช่น การเลื่อนผ่าตัดกรณีที่ไม่ฉุกเฉิน งดบริการคลินิกพิเศษเฉพาะทางนอกเวลาราชการ (SMC Premium) ซึ่งเป็นการบริหารทรัพยากรภายในเพื่อปรับภารกิจและรูปแบบการให้บริการ ส่วนการงดปฏิบัติงานของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชาชั่วคราวนั้น เนื่องมาจากมีผู้ป่วยชาวกัมพูชาจำนวนน้อยมาก แน่นอนว่าหลังจากที่ประกาศฉบับนี้ถูกเผยแพร่ออกมา มีประชาชนเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว โดยฝั่งหนึ่งบอกว่า ควรจะยึดใช้มาตรการดังกล่าวนี้แบบถาวร ขณะที่อีกฝั่งแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ บุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ขณะนี้