“พิชัย”คาดสินค้าสหรัฐทะลักเข้าไทยเกิน 2 หมื่นล้านเหรียญ หลังลดภาษีนำเข้า 0% นับหมื่นรายการ
“พิชัย”คาดสินค้าสหรัฐทะลักเกิน 2 หมื่นล้านเหรียญ หลังลดภาษีนำเข้า 0% นับหมื่นรายการแลกกับอัตราภาษีนำเข้าที่สหรัฐคิดกับไทยในอัตรา 19% ชี้เป็นอัตราที่แข่งขันได้ ขณะที่ เตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ แนะผู้ประกอบการส่งออกสินค้าก่อน 7 ส.ค.นี้
#ทันหุ้น นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า ขณะนี้ ไทยกับสหรัฐได้มีข้อตกลงเรื่องการเก็บอัตราภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันเรียบร้อยแล้ว โดยสหรัฐจะคิดภาษีนำเข้าสินค้าต่อไทยในอัตรา 19% ซึ่งเป็นอัตราที่ไทยแข่งขันได้ ส่วนไทยจะคิดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐในอัตรา 0% ในสินค้านับหมื่นรายการ และไทยจะต้องสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐมากขึ้น ซึ่งกระบวนการหลังจากนี้ จะต้องมีการเสนอข้อสรุปดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีและสภาผู้แทนราษฎรเนื่องจาก เป็นข้อตกลงภาษีระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ดี ยังมีข้อตกลงในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษีที่ไทยกับสหรัฐยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งก็คือ เรื่องการสวมสิทธิ์ในสินค้าของไทยที่ส่งออกไปสหรัฐ เบื้องต้น สินค้าที่ส่งออกไปยังสหรัฐต้องมีโลคอลคอนเทนท์มากกว่า 40% หากต่ำกว่านี้จะถูกคิดอัตราภาษีที่อาจจะมากกว่า 40%
เขาระบุว่า การที่เรามีข้อตกลงเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 0% นั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะไทยเองก็มีข้อตกลงการค้าเอฟทีเอที่เก็บภาษีในลักษณะดังกล่าวกับประเทศอื่น เช่น ออสเตรเลียดังนั้น การที่เราลดภาษีให้สหรัฐในอัตราดังกล่าว ก็เท่ากับว่า เราเพิ่มประเทศที่เราเจรจาเอฟทีเอมาอีกหนึ่งประเทศเท่านั้น ซึ่งก็จะทำให้ไทยมีสินค้านำเข้าราคาถูกเข้ามาขายในประเทศ ขณะที่ สินค้าไทยไปสหรัฐโดนภาษีนำเข้า 19% ก็จะทำให้ราคาสินค้าในสหรัฐสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี สินค้าที่เราเปิดให้นำเข้ามาในอัตราภาษี 0% นั้น จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ 1.สินค้าที่เราไม่ได้ผลิต เช่น เชอร์รี่ ซึ่งปกติ เรานำเข้าจากออสเตรเลีย เราก็นำเข้าจากสหรัฐมาเพิ่ม 2.สินค้าที่เราผลิตบางส่วน เช่น ข้าวโพด ซึ่งเราผลิตได้เอง แต่ไม่เพียงพอ และ 3.สินค้าที่สหรัฐไม่ได้ผลิต เช่น ลำไยและปลานิล
ส่วนกรณีสินค้าหมูนั้น เราจะเปิดให้สหรัฐนำเข้ามาในอัตรา 0% เช่นกัน แต่จะเปิดให้นำเข้ามาเพียงเล็กน้อยหรือราวไม่เกิน 1% ของยอดการบริโภคในประเทศ และ จะต้องมีการพิสูจน์แหล่งผลิตว่าใช้สารเร่งเนื้อแดงหรือไม่ เป็นต้น
“ข้อตกลงภาษี 0% นั้น เหมือนเอฟทีเอ ก็หมายความว่า เราให้ภาษีใคร 0% ก็จะให้แก่สหรัฐด้วย และหมายความว่า เราให้ในสินค้าที่เราพร้อม อันไหนที่ไม่พร้อมเราก็ไม่ให้เลย หรือ ให้บางส่วน หรือ ขอเวลา3 ปี หรือ 5 ปี เป็นต้น”
เขาประเมินว่า หลังจากที่เราคิดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐในอัตรา 0% ดังกล่าว จะทำให้มูลค่านำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีมูลค่านำเข้าประมาณ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนจะทำให้ดุลการค้าของไทยที่เคยเกินดุลต่อสหรัฐลดลงหรือไม่ ต้องดูด้วยว่า เรานำเข้ามาแล้วนำมาผลิตเพื่อส่งออกไปมากน้อยแค่ไหน และรวมถึง การลงทุนที่ไทยจะไปลงทุนในสหรัฐด้วย ซึ่งขณะนี้ เรายังไม่ได้มีข้อตกลง แต่ถ้าสหรัฐเปิดให้ไทยไปลงทุน เรื่องการลงทุนสินค้าเกษตรแปรรูป ก็เป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่น่าไปลงทุน ส่วนการลงทุนด้านพลังงานนั้น เราก็คิด เพราะนอกจากเราจะซื้อพลังงานจากสหรัฐแล้ว เราก็ควรคิดเรื่องการลงทุนรวมไปด้วย
สำหรับผลกระทบต่อผู้ประกอบการและส่งออกไทยที่ถูกคิดภาษี 19% นั้น เขากล่าวว่า รัฐบาลได้เตรียมซอฟท์โลนเพื่อหนุนแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการส่งออกที่ได้รับผลกระทบและพร้อมเข้าไปช่วยเหลือในการพัฒนาด้านไอทีและเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งขณะนี้ ได้ขอให้สภาอุตสาหกรรมได้ไปสรุปว่า กลุ่มผู้ประกอบการใดได้รับผลกระทบบ้าง ทั้งนี้ สำหรับสินค้าใดที่ส่งออกไปสหรัฐก่อนวันที่ 7 ส.ค.นี้ จะถูกคิดภาษีในอัตราเดิมที่ 10% ส่วนที่ส่งออกไปตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.นี้ จะถูกคิดภาษีในอัตรา 19%
เขายังกล่าวถึงอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในปีนี้ด้วยว่า หากเราไม่ทำอะไร จีดีพีจะขยายตัวได้ที่2.2% อย่างไรก็ดี ในไตรมาสที่สองของปีนี้ ขยายตัวได้สูงที่ 3%
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/