โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สภาพัฒน์ เผย ตลาดแรงงานไทยไตรมาส2 จ้างงานเพิ่มเล็กน้อย แต่ค่าจ้างลด เหตุองค์กรใช้แรงงานชั่วคราวแทน

MATICHON ONLINE

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สภาพัฒน์ เผย ตลาดแรงงานไทยไตรมาส2 จ้างงานเพิ่มเล็กน้อย แต่ค่าจ้างลด-องค์กรปรับจ้างงานแรงงานชั่วคราวแทนประจำมากขึ้น เหตุจากความไม่แน่นอนเศรษฐกิจเพิ่ม ลดต้นทุน พร้อมเปิด 4 ปัจจัยเสี่ยงตลาดแรงงานไทย

วันที่ 25 สิงหาคม นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ แถลงรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 2 ปี 2568 ว่า ภาพรวมตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย การจ้างงานเพิ่มขึ้น 0.02% อยู่ที่ 39.5 ล้านคน โดยแรงงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 0.4% ขณะที่แรงงานภาคเกษตรลดลง 0.9% ชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยอยู่ที่ 42.7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่วนแรงงานในภาคเอกชนอยู่ที่ 46.9 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ผู้ทำงานล่วงเวลาลดลง 8% เหลือ 6.3 ล้านคน

ด้านค่าจ้างแรงงานโดยรวมลดลง 1.9% แต่แรงงานในระบบเพิ่มขึ้น 2.5% ขณะที่ภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้น 2.4% อยู่ที่ 14,370 บาทต่อเดือน อัตราการว่างงานอยู่ที่ 0.91% หรือ 3.7 แสนคน ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า โดยผู้ว่างงานที่จบอุดมศึกษายังมีสัดส่วนสูงเกือบ 2% ส่วนผู้เสมือนว่างงานอยู่ที่ 2.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5% ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตร

ขณะที่องค์กรต่างๆ ปรับสัญญาการจ้างงานจาก พนักงานประจำเป็นสัญญา จ้างชั่วคราว โดย 2 ปีที่ผ่านมามีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน มองว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวและต้องการลดต้นทุนองค์กรในยุคที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้า ส่วนชั่วโมงการทำงานที่ลดลง ในภาคเอกชนยังไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก โดยเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามหากแนวโน้มการส่งออกยังคงอยู่ในระดับเดิม ชั่วโมงการทำงานจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม

นายดนุชา กล่าวว่า ส่วนกรณีที่องค์กรใหญ่เปิดโครงการสมัครใจลาออก นั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องพิจารณาว่าพนักงานดังกล่าวอยู่ในกลุ่มอายุเท่าไร ลาออกแล้วมีแผนรองรับต่อจากนี้หรือไม่ เพราะเงินที่ได้จากการสมัครใจลาออกอาจไม่สามารถรองรับการใช้ชีวิตได้ได้ในระยะยาว ขณะเดียวกันก็มองว่าเป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจขององค์กรนั้นๆ ที่ต้องการแรงงานใหม่ และค่าจ้างต่ำกว่าพนักงานที่ลาออกไป

สำหรับประเด็นที่ต้องเฝ้าระวัง

1. ผลกระทบจากการปรับอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาต่อการจ้างงาน โดยสหรัฐฯ มีการเรียกเก็บภาษีหลายรูปแบบ ทั้งการจัดเก็บภาษีเฉพาะในสินค้าบางรายการ (Specific Tarffs) การกำหนดภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ที่ไทยถูกจัดเก็บที่ 19% รวมทั้ง ยังมีมาตรการในการป้องกันการสวมสิทธิ์แหล่งกำเนิดสินค้า (Rule of Ongin) นอกจากนี้ไทยยังต้องปรับภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐกว่าหมื่นรายการเป็น 0% โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยแข่งขันยากขึ้น และกระทบต่อการจ้างงานหรือชั่วโมงการทำงานของแรงงาน ดังนั้นภาครัฐจึงควรสนับสนุนการเปิดตลาตใหม่ มีมาตรการปกป้องสินค้าไทย รวมถึงการตรวจสอบการสวมสิทธิของสินค้า

2. การปรับรูปแบบการจ้างงานของสถานประกอบการจากสภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน โดยใน ปี 2567 องค์กรในไทย 25% มีแนวโน้มจะลดพนักงานและปรับโครงสร้างองค์กร โดยจะลดการจ้างงานพนักงานประจำเต็มเวลา และหันไปจ้างแบบพนักงานประจำไม่เต็มเวลา รวมถึงพนักงานสัญญาจ้าง/พนักงานชั่วคราวไม่เต็มเวลา ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงในการทำงาน ระดับรายได้ ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายต่าง ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงควรตรวจสอบให้การดำเนินการของสถานประกอบการเป็นไปตามกฎหมาย

3.การขาดแคลนแรงงานต่างต่างด้าวที่ปัจจุบันแรงงานต่างด้าว 3.88 แสนคน ไม่มาต่ออายุใบอนุญาตทำงานหรือดำเนินการไม่ครบถ้วบถ้วน อีกทั้งรัฐบาลกัมพูชายังมีการดำเนินมาตรการเชิงบังคับให้กลับประเทศ ทำให้สถานประกอบการในการก่อสร้าง ภาคการผลิต รวมถึงภาคเกษตร มีความเสี่ยงที่จะขาดแคลนแรงงานเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบัน ครม. มีมติให้นำเข้าแรงงานสัญชาติอื่นเพิ่มเติม โดยเฉพาะแรงงานศรีลังกา รวมทั้งเนปาล ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียมาทดแทนในอุตสาหกรรมที่ขาดแคลน

4. การเกิดอันตรายจากการทำงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แม้ว่าการประสบอันตรายกรณีร้ายแรงจะมีสัดส่วนไม่มาก แต่งานวิจัยของมหาวิทยาลัยศิลปากร พบว่า การสูญเสียเพียงนิ้วมือ หรือแขน จะทำให้แรงงานมีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมแย่ลง อีกทั้งยังเกิดผลกระทบทางด้านจิดตใจที่ไม่อาจชดเชยได้อย่างครอบคลุม สถานประกอบการจึงควรบำรุงรักษา เครื่องมือ/เครื่องจักรอย่างครอบคลุม สถานประกอบการจึงควรบำรุงรักษา เครื่องมือ/เครื่องจักรอย่างสม่ำเสมอ อบรมพนักงานเกี่ยวกับความปลอดภัย และการชดเชยให้แก่แรงงานอาจต้องคำนึงถึงค่าเสียโอกาส

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สภาพัฒน์ เผย ตลาดแรงงานไทยไตรมาส2 จ้างงานเพิ่มเล็กน้อย แต่ค่าจ้างลด เหตุองค์กรใช้แรงงานชั่วคราวแทน

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก MATICHON ONLINE

มทภ.2 ไฟเขียวตอบโต้ทันที หากพบทหารกัมพูชา ลอบวางทุ่นระเบิด

19 นาทีที่แล้ว

กองบัญชาการชายแดนฯ ถกกองทัพบกเขมร แก้ปัญหาด้วยสันติวิธี เตรียมพร้อมประชุมRBC เม.ย.ปีหน้า

27 นาทีที่แล้ว

เตรียมเข้าครม.เพิ่มอัดฉีดซีเกมส์ ทองรับรวม 5 แสน - วางมาตรการตรวจพาสปอร์ตเข้มข้น

29 นาทีที่แล้ว

ศาลรธน. จ่อเอาผิด คนเผยแพร่คลิป 'นั่งลงลูก' วันไต่สวนนายกฯ ยันชัด บิดเบือน-ทำเสียหาย

32 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ส่งออกไทย 7 เดือนขยายตัว 14.4% ลุ้น 5 เดือนสุดท้าย ทั้งปีโอกาสโตเกินเป้า 2-3%

ประชาชาติธุรกิจ

SAM เปิดรับผู้แนะนำทรัพย์ รับค่าตอบแทนสูงถึง 3 ล้านต่อรายการ

ฐานเศรษฐกิจ

ต่างชาติแห่เที่ยวจีน-ญี่ปุ่น พุ่งเพิ่มแรงกว่า 20% เข้าไทยหดวูบกว่า 6% | คุยกับบัญชา | 22 ส.ค. 68

BTimes

ส่งออกไทยยังทำสถิติบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 เฉลี่ย 7 เดือนโต 14%

The Better

RT เร่งเจาะทะลุอุโมงค์คลองทวีวัฒนา มูลค่ากว่า 1.8 พันล.

Manager Online

"สภาพัฒน์" เผย จ้างงานในไทยทรงตัว-หนี้ครัวเรือนหดตัวครั้งแรก ระวังผลกระทบภาษีทรัมป์-ขาดแคลนแรงงาน

TNN ช่อง16

SBI Group จับมือ Chainlink ปฏิวัติวงการการเงินเอเชียด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน

Manager Online

ทองพุ่ง รับเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย "หมอกฤชรัตน์" ย้ำกลยุทธ์ "ย่อซื้อ"

TNN ช่อง16

ข่าวและบทความยอดนิยม

สภาพัฒน์ เผย ตลาดแรงงานไทยไตรมาส2 จ้างงานเพิ่มเล็กน้อย แต่ค่าจ้างลด เหตุองค์กรใช้แรงงานชั่วคราวแทน

MATICHON ONLINE

รวมใจสามัคคีเดิน-วิ่ง ประถมสาธิตประสานมิตร ครั้งที่ 19 จัดยิ่งใหญ่ ที่ มศว

MATICHON ONLINE

กต.แจงยิบ! ข้อดี MOU43 กำหนดห้ามเปลี่ยนแปลงพื้นที่ ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมกู้ทุ่นระเบิด ไม่ดึงปท.ที่3 มาแก้ปัญหา

MATICHON ONLINE
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...