นักวิชาการ เปิดผลศึกษา สหรัฐฯ เก็บภาษีเวียดนาม 20% กระทบส่งออกไทย
สหรัฐฯ เก็บภาษีเวียดนาม 20% กระทบส่งออกไทย
1.ภาษีทรัมป์แลกการเปิดตลาด 0%
ทรัมป์ออกคำสั่งผู้บริหาร 14257 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 เพื่อเก็บภาษีตอบโต้ (reciprocal tariff) กับทุกประเทศทั่วโลก คำสั่งนี้ถือเป็น “สารตั้งต้นของภาษีทรัมป์” (ตาม Annex 1) หรือ “วันประกาศอิสรภาพ (Liberation Day)” คำสั่งนี้อ้างอิง 3 กฎหมาย คือ International Emergency Economic Powers Act (IEEPA 1977) (ประกาศภาวะฉุกเฉินกับต่างประเทศ) National Emergencies Act (1976) (ประกาศภาวะฉุกเฉินในประเทศ) และ Trade Act of 1974 (Section 604) (ให้อำนาจ ปธน.ในการออกคำสั่ง) คำสั่งนี้ แยกเป็นภาษีพื้นฐาน 10% มีผลวันที่ 5 เม.ย 2568 และภาษีตอบโต้ มีผล 9 เม.ย 2568 (ให้เวลาเจรจา 90 วัน สิ้นสุดวันที่ 9 ก.ค. 2568 หลังจากนั้น ทรัมป์ประกาศวันที่ 1 ส.ค. 2568 เป็นวันสิ้นสุดการเจรจา) ต่อมามีคำสั่งผู้บริหารเพิ่มเติมจาก EO 14257 ลงวันที่ 31 ก.ค. 2568 “ FURTHER MODIFYING THE RECIPROCAL TARIFF RATES, Executive Orders 31 July 2025”
สหรัฐฯ เก็บภาษีสินค้าจากประเทศต้นทางตั้งแต่ในวันที่ 8 ส.ค. 2568 และจะเก็บภาษีเมื่อสินค้าออกจากคลังสินค้าสหรัฐหลังวันที่ 5 ต.ต. 2568 (ประโยชน์สำหรับสินค้าที่ใช้เวลาเดินทางนาน 2 เดือน อย่างไรก็ ตาม สินค้าต้นทางที่ออกหลังวันที่ 8 ก็ต้องเสียภาษีอยู่ดี) ก่อนการจบดีลการค้าของทั้งไทยและเวียดนาม สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าเฉลี่ย 2.5-3% ในขณะที่ภาษีนำเข้าของไทยและเวียดนามมีการเก็บสูงกว่าภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ (ตารางที่ 1)
ตารางที่ 1: อัตราภาษี MFN ไทยกับเวียดนามที่เก็บจากสินค้านำเข้า (ก่อนภาษีทรัมป์) (%)
รายการ ไทย เวียดนาม สินค้าเกษตร 27 17.1 สินค้าอุตสาหกรรม 7.1 8.1 เฉลี่ย 9.8 9.4
ที่มา : 2025 National Trade Estimate Report on FOREIGN TRADE BARRIERS of the President of the United States on the Trade Agreements Program, USTR
2.สินค้าเวียดนามแข่งดุกับสินค้าไทยในตลาดสหรัฐฯ
วันพุธที่ 2 ก.ค. 2568 เวียดนามกับสหรัฐฯ จบดีลการค้า โดยสหรัฐฯ เก็บภาษีสินค้าทั่วไปเวียดนาม 20% และ 40% สินค้าสวมสิทธิ ส่วนเวียดนามเปิดตลาดสินค้า 0% ให้สินค้าสหรัฐฯ มีการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ และซื้อเครื่องบิน Boeing จำนวน 50 ลำ มูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ ปี 2024 เวียดนามส่งออกไปสหรัฐฯ 136.6 พันล้านเหรียญ (สัดส่วน 30 ของการส่งออกรวมเวียดนาม) นำเข้า 13.1 พันล้านเหรียญ เวียดนามได้ดุลการค้า 123.5 พันล้านเหรียญ สินค้าส่งออกเวียดนามไปสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าสูงสุดคือ “คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ โทรศัพท์และอุปกรณ์ ชิป และเก้าอี้สำนักงาน และเฟอร์นิเจอร์” คิดเป็น 36% ของการส่งออกทั้งหมดไปสหรัฐฯ ส่วนสินค้าไทยส่งไปสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าสูง 5 อันดับแรกคือ “โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ยางล้อรถยนต์ ชิป และหม้อแปลงไฟฟ้า” คิดเป็น 39% ของการส่งออกไทยไปสหรัฐฯ จะเห็นได้ว่าสินค้าส่งออกเวียดนามกับไทย “ทับไลน์” กันในตลาดสหรัฐฯ หลายรายการ ที่น่าสนใจคือ สินค้าเวียดนามส่วนใหญ่มีส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ สูงกว่าไทย เฉลี่ยส่วนแบ่งตลาดเวียดนามอยู่ที่ 72% และส่วนแบ่งตลาดสินค้าไทยอยู่ที่ 28%
ตารางที่ 2 : ส่วนแบ่งตลาดสินค้าเวียดนามกับไทยในตลาดสหรัฐฯ (%) ปี 2568
รายการสินค้า เวียดนาม ไทย รวม คอมพิวเตอร์ 69.5 30.5 100 โทรศัพท์ 62.5 37.5 100 เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน 92.7 7.3 100 ชิ้นส่วนและอุปกรณ์เสริม (อิเลกทรอนิกและเครื่องจักร) 79.7 20.3 100 เซมิคอนดักเตอร์ 61.9 38.1 100 เก้าอี้ (ไม่รวมทางการแพทย์) 96.6 3.4 100 ไมโครโฟน 93.4 6.6 100 รองเท้าที่มีพื้นรองเท้าด้านนอกทำจากยาง พลาสติก หนัง 99.7 0.3 100 อุปกรณ์ส่งสัญญาณสำหรับการกระจายเสียงทางวิทยุหรือโทรทัศน์ 65.0 35.0 100 เสื้อเจอร์ซีย์ เสื้อสเวตเตอร์ เสื้อคาร์ดิแกน เสื้อกั๊ก 93.1 6.9 100 จอภาพและเครื่องฉาย 85.9 14.1 100 สินค้าที่ไม่ได้ระบุไว้ในหมวดหมู่อื่น 73.5 26.5 100 สูทของสตรีหรือเด็กหญิง 99.1 0.9 100 ลวดและสายเคเบิลหุ้มฉนวน 87.0 13.0 100 แผ่นดิสก์ เทป อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล 73.8 26.2 100 วัสดุปูพื้นทำจากพลาสติก 93.6 6.4 100 สูท ชุดเซ็ต เสื้อแจ็คเก็ตของผู้หญิงและเด็ก 97.0 3.0 100 หม้อแปลงไฟฟ้า อุปกรณ์ 39.9 60.1 100 รถสามล้อ สกู๊ตเตอร์ รถถีบเด็ก 91.3 8.7 100 ล้อยางรถยนต์ 27.6 72.4 100 ข้าว 3.4 96.6 100 ผลไม้สด 14.2 85.8 100 อาหารทะเลแช่แข็ง 17.2 82.8 100 ถุงมือยาง 11.5 88.5 100
หมายเหตุ: เทียบส่วนแบ่งตลาดของ 2 ประเทศไทยกับเวียดนามเท่านั้น ที่มา : คำนวณจากฐานข้อมูล Trade Map โดย อัทธ์ พิศาลวานิช 2568
3.สินค้าไทยโอกาสเจอภาษีสวมสิทธิ 40%
ในจำนวนมูลค่าสินค้าเวียดนามที่ส่งไปสหรัฐฯ นายปีเตอร์ นาโวโร ที่ปรึกษาทางการค้าทรัมป์ ระบุว่า สินค้าส่งออกเวียดนาม 30% เป็นสินค้าสวมสิทธิ ในขณะที่ Techcombank ธนาคารสัญชาติเวียดนาม (Hanoi, 03/07/2025) ระบุมีสัดส่วนเพียง 17% ปี 2024 จีนส่งออกเครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้าไปเวียดนาม เพิ่มเป็น 77 พันล้านเหรียญ (เพิ่มจาก 27 พันล้านเหรียญ, 2017) คิดเป็น 48% (เพิ่มจาก คิดเป็น 17%, 2017) ของการส่งออกจีนไปเวียดนาม ขณะเดียวกันเวียดนามส่งออก เครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้าไปสหรัฐฯ มูลค่า 45 พันล้านเหรียญ (เพิ่มจาก 6 พันล้านเหรียญ, 2017) คิดเป็น 41% (เพิ่มจาก 5%,2017) ของการส่งออกเวียดนามไปสหรัฐ เมื่อเวียดนามส่งออกไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น พบว่ามีการนำเข้าสินค้าเพิ่มจากจีนเช่นกัน สินค้าไทยหลายรายการก็มีทิศทางและรูปแบบเหมือนกับสินค้าเวียดนามที่ส่งออกไปสหรัฐฯ ทำให้มี “โอกาสสูงที่สินค้าไทยเจอภาษีสวมสิทธิ 40% เหมือนสินค้าเวียดนาม”
4.ภาษีเวียดนาม 20% กระทบส่งออกไทย
ผมวิเคราะห์ 24 สินค้าส่งออกหลักของไทยกับเวียดนามที่ส่งไปขายในตลาดสหรัฐฯ ใช้ข้อมูลปี 2024 ไทยคิดเป็นสัดส่วน 53% ของการส่งออกไทยทั้งหมดไปสหรัฐฯ และเวียดนามคิดเป็น 65% ของการส่งออกเวียดนามไปสหรัฐฯ “ส่วนแบ่งตลาดโดยรวม เวียดนาม 72% ไทย 28%” กรอบการวิเคราะห์คือ 1.ไทยได้เปรียบภาษีนำเข้า 1% (สหรัฐฯ เก็บเวียดนาม 20% เก็บไทย 19%) 2.ส่วนแบ่งตลาดสินค้าไทยกับเวียดนาม และ 3.ราคาสินค้าที่ขายในสหรัฐฯ (วิเคราะห์จากต้นทุนแรงงาน และต้นทุนน้ำมันและไฟฟ้า พบว่าต้นทุนแรงงานเวียดนามถูกกว่าไทย 18-25% ราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้าเวียดนามถูกกว่าไทย 10-15% ทำให้ราคาสินค้าเวียดนามถูกกว่าไทย 5-10% ส่งผลต่อการทดแทนระหว่างสินค้าไทยกับเวียดนาม) ผลการศึกษาพบว่าผลกระทบจากภาษีทรัมป์ทำให้การส่งออกเวียดนามลดลง 18,909 ล้านเหรียญ และไทยลดลง 8,161 ล้านเหรียญ เมื่อรวมถึงผลกระทบสินค้าทดแทนระหว่างไทยกับเวียดนาม ทำให้ทั้งปี มูลค่าการส่งออกไทยลดลง 457,380 ล้านบาท และทำให้การส่งออกไทยกับเวลาที่เหลืออีก 5 เดือน (สิงหาคม ถึง ธันวาคม 2568) ลดลงไป190,575 ล้านบาท คิดเป็น 1.9% ของการส่งออกรวมของไทย
ตารางที่ 3 : เปรียบเทียบต้นทุนการผลิตเวียดนามกับไทยที่ส่งผลต่อราคาขายสินค้าในตลาดสหรัฐฯ
รายการ เวียดนามถูกกว่าไทย (%) แหล่งอ้างอิง ต้นทุนแรงงาน 18–25 ILO, JETRO, World Bank (2022–2024) ต้นทุนพลังงาน 10–15 IEA, ERIA, ASEAN Outlook (2023) เฉลี่ย 10–20
ที่มา : รวบรวมโดย อัทธ์ พิศาลวานิช
ตารางที่ 4 : ผลกระทบการส่งออกไทยและเวียดนาม ปี 2568 (หลังภาษีทรัมป์)
ประเทศ ผลกระทบจากภาษีทรัมป์1 (ล้านเหรียญ) ผลกระทบจากราคา2 (ล้านเหรียญ) ผลกระทบรวม
(ล้านเหรียญ)
ผลกระทบรวม
(ล้านบาท)
ผลกระทบ 5 เดือนที่เหลือ3
ปี 2568
(ล้านบาท)
เวียดนาม -18,909 5,699 -13,210 435,930 181,637 ไทย -8,161 -5,699 -13,860 457,380 190,575
หมายเหตุ : 1เวียดนามถูกเก็บภาษีนำเข้าไปสหรัฐฯ 20% และไทยถูกเก็บภาษีนำเข้าไปสหรัฐฯ 19%
2ใช้ค่าความยืดหยุ่นการทดแทนสินค้าเวียดนามแทนสินค้าไทยที่ 0.8%
3ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 33 บาท/ดอลล่าร์ ณ.วันที่ 5 ส.ค.2568 และ 5 เดือน (ส.ค ถึง ธ.ค 2568)
ที่มา : ประเมินโดย อัทธ์ พิศาลวานิช สิงหาคม 2568
5.ข้อเสนอแนะ
1.เร่งวางยุทธศาสตร์ชาติเพื่อการจัดการสินค้าสวมสิทธิ และสินค้าที่ใช้แหล่งกำเนิดสินค้าภายในประเทศไทยต่ำกว่า 40% นอกจากนี้ร่วมมือกับ USTR ในการจัดทำระบบการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าสวมสิทธิ ที่เรียกว่า “Digital Traceability”
2.สร้างห่วงโซ่การผลิตอุตสาหกรรมไทยใหม่ ที่สามารถกระจายและเชื่อมโยงกับตลาดอื่น และยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดสหรัฐฯ ไม่ให้ลดลง
3.ปรับโครงสร้างภาคการผลิตอย่างยิ่งจริงจัง โดยการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมตามเทรนด์โลก
4.สร้างระเบียบการลงทุนใหม่ ที่กำหนดให้ทุนต่างชาติเชื่อมโยงและใช้วัสดุจาก SMEs และเกษตรกรไทย ให้เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : นักวิชาการ เปิดผลศึกษา สหรัฐฯ เก็บภาษีเวียดนาม 20% กระทบส่งออกไทย
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th