TU คาดฟื้นต่อ ลูกค้ากลับมา หลังจบภาษีสหรัฐฯ
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 6 สิงหาคม 2568 เวลา 18.38 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - บล.หยวนต้า ประเมินหุ้น TU มองระยะสั้นเราประเมินแนวโน้มกำไรปกติ 3Q25 ฟื้นตัวขึ้นต่อ QoQ จากปัจจัยฤดูกาลที่เริ่มเข้าสู่ช่วง HighSeason ของธุรกิจ และมีโอกาสกลับมาเติบโต YoY ได้ โดยคาดหวังรายได้กลับมาเติบโต YoY หลังสถานการณ์ด้านอัตราภาษีมีความชัดเจนมากขึ้น หนุนให้ลูกค้ากลับมาสั่งซื้อ ประกอบกับบริษัทจะรับรู้ผลของราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับลดลงต่อ และเริ่มเห็นผลจากการทำ Transformation ธุรกิจ หนุน GPM คาดปรับขึ้นต่อทั้ง QoQ และ YoY แม้ค่าเงินบาทเทียบ USD จะแข็งค่าขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ เราคาดค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาจะทยอยลดลงในช่วงที่เหลือของปีทำให้ SG&A/Sales คาดปรับลดลง
อัตราภาษีสหรัฐฯ มีความชัดเจนจะทำให้ลูกค้ากล้าสั่งมากขึ้น
หลังจากอัตราภาษีของสหรัฐฯ มีความชัดเจน เรามองเป็นบวก 1) ลูกค้ากลุ่ม OEM จากเดิมที่ชะลอคำสั่งซื้อจะกลับมาสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น ขณะที่ลูกค้าจะเป็นผู้รับภาระ Tariff และอาจส่งผ่านไปยังราคาขายปลีกที่สูงขึ้นทำให้ต้องติดตาม Demand ในตลาดสหรัฐฯ ในระยะถัดไป 2) ในด้านการแข่งขัน ความห่างของอัตราภาษีเทียบกับคู่แข่งยังใกล้เคียงเดิม อาทิ เวียดนาม, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เอกวาดอร์และอาจได้ประโยชน์จากอินเดียและจีนที่มีอัตราภาษีสูงกว่าไทย หนุนความสามารถในการแข่งขันของ TUโดยเฉพาะในธุรกิจ Frozen
Mitsubishi Corp. เข้าซื้อหุ้นเพิ่ม มองเป็นบวกระยะยาว ต้องติดตามต่อ
การเสนอเข้าซื้อหุ้นเพิ่มของ Mitsubishi Corp. (MC) ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Timeline และรายละเอียดการ Synergy ร่วมกัน แต่คาดจะมีความชัดเจนมากขึ้นใน 4Q25 เป็นต้นไป โดยผู้บริหารยืนยันว่าจะเห็นความร่วมมือในธุรกิจร่วมกันมากขึ้นในระยะยาว ทั้งในด้านการขยายตลาด, R&D พัฒนาสินค้าใหม่ และด้านการจัดซื้อวัตถุดิบที่ราคาต่ำลง เพราะเดิม MC เป็นลูกค้ารายหลักของ TU (Top 5) และมีเครือข่ายในตลาดต่างประเทศที่แข็งแกร่ง เราคาดจะเริ่มเห็นผลการ Synergy ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ผู้บริหารยืนยันไม่มีแผนการขายหุ้น TU รวมถึงจะไม่นำหุ้นซื้อคืน (Treasury Stock) มาขายให้กับ MC กรณีที่รับซื้อได้ไม่ถึง 20%
ปรับไปใช้ราคาเหมาะสมกลางปี 2026 คงคำแนะนำ TRADING
เราปรับไปใช้ราคาเหมาะสมกลางปี 2026 อิงวิธี SOTP และเพิ่ม PER ในการประเมินมูลค่าธุรกิจหลักของ TU ขึ้นเป็น 13.8 เท่า (เดิม 12.5 เท่า) เพื่อสะท้อนความเสี่ยงด้านความไม่แน่นอนของอัตราภาษีที่คลี่คลายลง ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 12.50 บาท มองว่าราคาหุ้นปัจจุบันฟื้นตัวขึ้นมาสะท้อนปัจจัยบวกไป พอสมควรแล้ว แนะนำ “TRADING” เชิงกลยุทธ์แนะนำซื้อช่วงที่ราคาหุ้นย่อตัว