อยากรวยต้องจ่าย ? เพื่อลงทุนใน “ความรู้การเงิน” ที่ “เขาว่าคุ้ม” มันคุ้มแค่ไหน

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

เคยสงสัยไหมว่าทำไมเส้นทางสู่ความมั่งคั่ง ถึงดูเหมือนต้องปูด้วยธนบัตรอยู่เสมอ ในยุคที่ใครๆ ก็พูดถึงอิสรภาพทางการเงิน แต่ดูเหมือนว่ากุญแจสำคัญอย่าง “ความรู้” กลับมีป้ายราคาแปะอยู่เสมอ ราวกับเป็นสินค้า Exclusive ที่ต้องจ่ายก่อนถึงจะมีสิทธิ์ครอบครอง

Thairath Money ขอชวนมาตั้งคำถามว่า ทำไมก่อนจะมีเงิน เราถึงต้องเสียเงินมากมายขนาดนี้ แล้วที่เขาว่าคุ้มน่ะ มันคุ้มจริงหรือแค่คำปลอบใจของคนเพิ่งจ่ายเงินไป?

1. กองหนังสือและคลังสื่อออนไลน์ - จ่ายหลักร้อย หวังหลักล้าน

เริ่มต้นกันเบาๆ กับค่าใช้จ่ายที่ดูเข้าถึงง่ายที่สุด แต่ก็สะสมเป็นเงินก้อนได้ไม่น้อยหน้าใคร ตั้งแต่หนังสือการเงินปกสวยๆ ที่วางเรียงรายท้าทายฝันอยากรวยของเรา

หรือแม้แต่ค่าสมาชิก Podcast Premium ที่กระซิบข้างหูทุกเช้าว่าต้องทำอย่างไรถึงจะ “เกษียณเร็ว” หรือค่าสมาชิกนิตยสารเศรษฐกิจต่างๆ ที่ซื้อมาดองไว้ เพราะหวังว่าจะได้อัปเดตเทรนด์เศรษฐกิจโลกกับเขาสักที

ทั้งหมดนี้สนนราคาตั้งแต่ 300 - 2,000 บาทต่อเดือน หลายคนบอกว่านี่คือการ “ซื้อประสบการณ์” ของผู้เขียนในราคาหลักร้อย เพื่อเลี่ยงความผิดพลาดหลักล้านในอนาคต… ฟังดูก็เข้าท่า

แต่คำถามคือ เราได้เปิดอ่านมันจริงๆ จังๆ หรือแค่ซื้อมาเพื่อความสบายใจว่า “ฉันได้ลงทุนในความรู้แล้วนะ” ?

2. คอร์สเรียนสารพัดนึก - ทางลัดสู่ความสำเร็จ (ที่ต้องจ่ายค่าผ่านทาง)

เมื่ออ่านเองแล้วยังงงๆ สเต็ปถัดไปคือการลงเรียนคอร์สเรียนการลงทุนตั้งแต่หุ้น, กองทุน, ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์ ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด พร้อมคำโปรยที่ว่า “สร้าง Passive Income ใน xxx วัน”

ค่าเสียหายมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลายหมื่นบาทต่อคอร์ส ยังไม่รวมเวิร์กชอปจัดการหนี้, วางแผนภาษี, หรือคอร์สทักษะเสริมอย่างการอ่านงบการเงิน ที่ดูจะเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐาน แต่สิ่งเหล่านี้ กลับไม่มีสอนฟรีในโรงเรียน

ทำไมความรู้ที่ควรจะเป็นพื้นฐานในการเอาตัวรอดในโลกทุนนิยม ถึงกลายเป็นสินค้าที่เราต้องควักเงินจ่ายเพิ่ม เพื่อให้ไม่ต้อง “ลองผิดลองถูก” ด้วยตัวเอง แล้วที่เงินที่เราจ่ายไปนั้น คุ้มค่าจริงหรือไม่ ?

3. เครือข่ายและ Community - จ่ายเงินซื้อ Connection หรือแค่เข้าไปฟัง “คนอวดพอร์ต”

“คอนเนคชันคือสิ่งสำคัญ” ประโยคสุดคลาสสิกที่นำมาสู่ค่าใช้จ่ายกลุ่มที่สาม ตั้งแต่ค่าสมาชิกกลุ่มนักลงทุนในกลุ่มส่วนตัว, ค่าตั๋วเข้าร่วมงานสัมมนาการเงินสุดหรู ที่บางครั้งสิ่งที่คุณได้อาจไม่ใช่ความรู้ใหม่ แต่เป็นโอกาสในการเจอ “คนที่ใช่” ที่อาจนำไปสู่ดีลพันล้านในอนาคต

ค่าใช้จ่ายส่วนนี้อาจเริ่มต้นที่ 500 ถึง 10,000 บาทต่อปี หรือมากกว่านั้น คำถามคือ เรากำลังจ่ายเงินเพื่อเข้าไปหาโอกาสจริงๆ หรือแค่จ่ายเพื่อเข้าไปอยู่ในแวดวงที่ทำให้เรารู้สึกว่า “เข้าใกล้ความสำเร็จ” มากขึ้นอีกนิด แล้วโอกาสที่ว่า มันมีอยู่จริงสำหรับทุกคนที่จ่าย หรือเป็นเพียงรางวัลสำหรับคนไม่กี่คนในงานกันแน่

4. บริการ “ข่าววงใน” และห้อง VIP - จ่ายเงินซื้อความลับ หรือเป็นแค่เครื่องมือของ “รายใหญ่”

นี่คือหนึ่งในการลงทุนที่เย้ายวนใจที่สุดสำหรับนักลงทุนที่อยากรวยเร็ว ค่า Subscription บริการข้อมูลเชิงลึก 1,000 – 20,000 บาทต่อเดือน หรือมากกว่านั้นสำหรับกลุ่ม Exclusive ที่อ้างว่าส่งตรงจากวงใน รู้ข่าวลึก ข่าวจริงก่อนใคร

ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไลน์ VIP, ห้อง Discord ลับเฉพาะ, หรือ Newsletter รายเดือนที่กระซิบชื่อหุ้น "ที่จะวิ่ง" พร้อมเป้าราคาเสร็จสรรพ มันคือทางลัดในฝันที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกุมความลับของตลาดไว้ในมือ

แต่คำถามที่ต้องตะโกนถามดังๆ ก็คือถ้าข้อมูลมันดีและลับขนาดนั้น ทำไมเขาไม่เก็บไว้รวยคนเดียว ทำไมต้องมาแบ่งปันให้คุณในราคาหลักพันหลักหมื่น

เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า "ข่าววงใน" ที่ได้มา ไม่ใช่แค่ข่าวโคมลอยที่ถูกปล่อยออกมาเพื่อสร้างกระแส หรือเลวร้ายที่สุด เรากำลังจ่ายเงินเพื่อเข้าไปเป็น "เม่า" ที่รับซื้อหุ้นต่อจากพวกเขาในราคาสูงอยู่หรือเปล่า

5. บทเรียนราคาแพงจากการลงสนามจริง

งบประมาณหลักพันถึงหลักล้าน… แล้วแต่ว่าบทเรียนจะเจ็บแค่ไหน นี่คือค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้อยู่ในแผน แต่กลับเป็นสิ่งที่นักลงทุนแทบทุกคนต้องเจอ มันคือเงินที่เสียไปกับการ “ลองผิด” ของตัวเอง หรือที่เรามักเรียกกันสวยหรูว่า “ค่าครู”

ไม่ว่าจะเป็นการขาดทุนจากหุ้นตัวแรกที่ซื้อตามเพื่อน การติดดอยเพราะทนกระแส FOMO ไม่ไหว หรือเงินที่จมไปกับธุรกิจเสริมที่ฝันไว้แต่ไปไม่รอด ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เจ็บปวดที่สุด เพราะมันคือความผิดพลาดของเราเองล้วนๆ

เรามักจะยกย่องบทเรียนนี้ว่าคือ “ประสบการณ์ที่ดีที่สุด” คำถามคือมันเป็นบทเรียนหรือเป็นแค่ค่าปรับราคาแพงจากความโลภและความไม่รู้ของเราเอง ที่เรานำมาเล่าต่อเพื่อปลอบใจตัวเองว่า “อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์”

ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าคุณจะเคยจ่ายเงินให้กับอะไร คำถามสำคัญที่ต้องตอบตัวเองให้ได้ก็คือ มันคุ้มค่าหรือไม่ ความรู้ที่ได้มานั้นถูกนำไปต่อยอดจนเกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรมหรือไม่

บางทีการ “เสียเงิน” ก่อนจะ “มีเงิน” อาจเป็นบททดสอบด่านแรกที่คัดกรองว่า เรามีความมุ่งมั่นและวินัยมากพอที่จะเปลี่ยน “ต้นทุน” เหล่านั้นให้กลายเป็น “กำไร” ในชีวิตได้จริงหรือไม่…

แล้วคุณหล่ะ เคยเสียเงินกับอะไรไปมากที่สุด ?

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : อยากรวยต้องจ่าย ? เพื่อลงทุนใน “ความรู้การเงิน” ที่ “เขาว่าคุ้ม” มันคุ้มแค่ไหน