5 อาหารสีม่วง ขึ้นชื่อเป็น "ราชาแห่งสารต้านอนุมูลอิสระ" ช่วยลดน้ำหนัก-ป้องกันมะเร็ง
5 อาหารสีม่วงที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "ราชาแห่งสารต้านอนุมูลอิสระ" ช่วยลดน้ำหนักและป้องกันมะเร็ง แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้
สารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบในอาหารคุ้นเคยเหล่านี้ สามารถช่วยป้องกันโรคได้หลายชนิด รวมถึงมะเร็งด้วย
ดร.กู้ ชวนหลิง รองเลขาธิการสมาคมการแพทย์ โภชนาการ และอาหารการกินแห่งกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ระบุว่า สารต้านอนุมูลอิสระมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพและอายุขัย โดยเฉพาะแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารฟลาโวนอยด์ชนิดหนึ่งและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง พบมากในผักและผลไม้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะที่มีสีม่วง
ต่อไปนี้คือ 5 อาหารสีม่วงที่อุดมด้วยแอนโทไซยานิน ซึ่งดร.กู้แนะนำให้รับประทานเป็นประจำ เพื่อเสริมสุขภาพ ช่วยควบคุมน้ำหนัก และป้องกันโรค
5 อาหารสีม่วงที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "ราชาแห่งสารต้านอนุมูลอิสระ"
1. ข้าวโพดสีม่วง
ข้าวโพดสีม่วงมีปริมาณแอนโทไซยานินสูงถึง 300–600 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ให้พลังงานมาก เทียบเท่าข้าวสวย 1–2 ถ้วยจากข้าวโพดฝักใหญ่หนึ่งฝัก ใยอาหารในข้าวโพดสีม่วงช่วยให้อิ่มนานและสนับสนุนการลดน้ำหนักได้ดี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีอะไมโลเพกตินซึ่งย่อยง่าย จึงอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งเร็ว ควรรับประทานคู่กับผักที่ไม่ใช่แป้ง (ประมาณ 1.5–2 กำมือ) และโปรตีน (1 กำมือ) เพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือด วิธีที่ดีที่สุดในการปรุงคือการนึ่งหรือการต้ม เพื่อคงคุณค่าสารอาหารไว้ได้มากที่สุด
2. มันเทศสีม่วง
มันเทศสีม่วงมีแอนโทไซยานินราว 519 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม พร้อมด้วยโพแทสเซียมและวิตามินซีสูง (20.1 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม) ช่วยต้านการอักเสบ ชะลอความเสื่อมวัย และสนับสนุนการลดน้ำหนักด้วยใยอาหารปริมาณมาก เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรรับประทานประมาณ 100 กรัมต่อมื้อ ควบคู่กับข้าวเล็กน้อย (ราว 65 กรัมเมื่อสุก) และควรปรุงโดยการต้ม หรือนึ่ง เพื่อคงคุณค่าของสารต้านอนุมูลอิสระ หลีกเลี่ยงการทอดน้ำมันมากๆ
Luiz M. Santos
3. องุ่นสีม่วง
องุ่นสีม่วงมีแอนโทไซยานิน 181–716 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม จึงเป็นตัวเลือกชั้นเยี่ยมในการต้านอนุมูลอิสระและกำจัดสารพิษอิสระ น้ำองุ่นสีม่วงคั้นพร้อมเปลือกช่วยเผาผลาญไขมันในช่องท้อง สนับสนุนการลดน้ำหนัก และคงความอ่อนเยาว์ งานวิจัยพบว่า แอนโทไซยานินและฟลาโวนอยด์ในองุ่นสีม่วงช่วยชะลอความเสื่อมวัย ลดเลือนริ้วรอย และป้องกันมะเร็ง การดื่มน้ำองุ่นสดไม่ผสมน้ำตาลวันละหนึ่งแก้ว เป็นวิธีง่ายและได้ผลดีในการรับประโยชน์สูงสุด
4. บลูเบอร์รี่
บลูเบอร์รี่มีแอนโทไซยานิน 72–325 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม โดดเด่นด้วยคุณสมบัติลดเซลล์ไขมันได้ถึง 73% และลดเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนได้ 27% ตามงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทกซัส สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังช่วยต้านการอักเสบ บำรุงผิวและเส้นผม รวมทั้งลดความเสี่ยงมะเร็ง เพื่อคงปริมาณแอนโทไซยานิน ควรเลือกผลที่สุกเต็มที่ สีม่วงอมฟ้า และมีชั้นฝ้าขาวธรรมชาติบนผิว หลีกเลี่ยงผลสีแดง (ยังไม่สุก) หรือผลที่นิ่มเป็นมัน (คุณค่าลดลงแล้ว) การรับประทานสดหรือทำเป็นสมูทตี้ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด
5. กะหล่ำปลีสีม่วง
กะหล่ำปลีสีม่วงมีแอนโทไซยานิน 90.5–322 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม พร้อมเควอซิทินและซัลโฟราเฟน ที่ช่วยปกป้องเซลล์ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและมะเร็ง เป็นผักแคลอรีต่ำและมีใยอาหารสูง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพื่อคงปริมาณแอนโทไซยานินสูงสุด ควรรับประทานสดในรูปแบบสลัดหรือซอยเป็นเส้นบาง หากรับประทานสดได้ยาก อาจลวกหรือนึ่งเบาๆ และควรหลีกเลี่ยงการทอด เพราะความร้อนสูงทำให้สารต้านอนุมูลอิสระลดลง