ITC กำไร Q2 หด 32.7% รับผลบันทึกภาษี Global Minimum Tax

หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ITC) เปิดเผยผลการดำเนินงาน ไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 4,473 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) แต่ลดลงเล็กน้อย2.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยการเติบโต QoQ มาจากความต้องการที่แข็งแกร่งจากลูกค้าหลักในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และบริษัทฯอาหารสัตว์ชั้นนำระดับโลก อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงเวลาดังกล่าวส่งผลกระทบด้านอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ยอดขายเมื่อแปลงเป็นเงินบาทลดลง YoY แม้ว่าความต้องการพื้นฐานจะสูงกว่าปีก่อนก็ตาม อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังสามารถรักษาประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อย่างแข็งแกร่ง และขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

รายได้ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ รายได้อยู่ที่ 126 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4.8% QoQ และ 6.9% YoY โดยได้รับแรงสนับสนุนจากปริมาณการขายสุทธิ (NWT) ที่เพิ่มขึ้น 6.9% QoQ และ 9.7% YoY สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25.0% ลดลง 5.0 จุด YoY จาก 30.0% ในไตรมาส 2 ปี 2567 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทฯมีสัดส่วนการขายสินค้าพรีเมียมสูงกว่าระดับปกติและมีการกลับรายการตั้งสำรองสินค้าคงเหลือ ส่งผลให้อัตรากำไรสูงกว่าปกติและไม่สามารถใช้เป็นฐานเปรียบเทียบที่ยั่งยืนได้ อย่างไรก็ตาม สัดส่วนผลิตภัณฑ์ในไตรมาสนี้ยังอยู่ในระดับเป้าหมายของบริษัทฯ โดยมีสินค้าพรีเมียม 46.3% และสินค้าระดับกลาง 53.7% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น QoQ ปรับตัวดีขึ้น 0.9 จุด จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น

กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 659 ล้านบาท ลดลง 32.7% YoY สาเหตุหลักมาจากกำไรขั้นต้นที่ลดลงจากสัดส่วนสินค้าพรีเมียมที่ลดลง และค่าที่ปรึกษาที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม กำไรจากการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.7% QoQ

กำไรสุทธิปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 803 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ปรึกษา) ลดลง 25.8% YoY แต่เพิ่มขึ้น 1.2% QoQ โดยมีอัตรากำไรสุทธิปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 17.9% เทียบกับ 23.7% ในไตรมาส 2 ปี 2567 และ 18.7% ในไตรมาส 1 ปี 2568

กำไรสุทธิที่สำหรับงวด อยู่ที่ 696 ล้านบาท ลดลง 31.1% YoY แต่เพิ่มขึ้น 3.0% QoQ โดยมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 15.6% เทียบกับ 22.1% ในไตรมาส 2 ปี 2567 การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสอดคล้องกับกำไรจากการดำเนินงานที่ลดลง และได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากภาระภาษีที่สูงขึ้น ซึ่งเกิดจากการบันทึกภาษี Global Minimum Tax เป็นครั้งแรกในไตรมาสนี้

การประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 87% ของกำไรสุทธิต่อหุ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้วันขึ้นเครื่องหมาย XD: 13 สิงหาคม 2568 วัน กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date): 14 สิงหาคม 2568 วันจ่ายเงินปันผล: 27 สิงหาคม 2568

ในครึ่งปีแรกของปี 2568 i-Tail มีรายได้จากการขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.1% YoY จากความต้องการที่แข็งแกร่งของลูกค้าหลักและบริษัทอาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลกในตลาดสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตามการแข็งค่าของเงินบาทจำกัดการเติบโตของ รายได้ในสกุลเงินบาท โดยยอดขายในสกุลเงินบาทเพิ่มขึ้นเพียง 1.5% YoY อยู่ที่ 8,722 ล้านบาท แม้ว่าปริมาณการขายสุทธิ (NWT) จะ เพิ่มขึ้นถึง 12.2% YoY อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 24.6% ลดลง 3.4 จุด YoY จากสัดส่วนสินค้าพรีเมียมที่ลดลง ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้น 29.5% YoY จากค่าที่ปรึกษาและค่าใช้จ่ายบุคลากรที่สูงขึ้น

ในด้านบวก ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน สุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 82.1% YoY สะท้อนถึงกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่มี ประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามรายได้อื่นลดลง 21.7% YoY จากรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง และภาระภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 88.0% YoY จากการบันทึกภาษี Global Minimum Tax เป็นครั้งแรก ส่งผลให้กำไรสุทธิที่รายงานลดลง 25.0% YoY อยู่ที่ 1,373 ล้านบาท จาก 1,831 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

แนวโน้มปี 2568ปรับประมาณการผลประกอบการจากผลกระทบของภาษีนำเข้าสหรัฐฯ โดยอิงจากข้อมูลปัจจุบันซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูง