อัพเดต สส.เพื่อไทยลาออก รับตำแหน่งใหม่ ครม.แพทองธาร 1/1 จับตาว่าที่รองประธานสภาฯ
บรรดา สส. พรรคเพื่อไทยทยอยลาออก หลังจากถูกกดดันจากบุคลากรการเมืองในพรรค ให้ สส.ที่รับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี ต้องลาออก จาก สส. บัญชีรายชื่อ เพื่อเลื่อนอันดับ สส. ใหม่ขึ้นมาแทน จับตาตำแหน่งรองประธานสภาจากกลุ่ม สส.อีสาน
…
การกดดดัน ให้ สส.พรรคเพื่อไทยลาออก ขับเคลื่อนเป็นระบบมาตั้งแต่การจัดตั้งรัฐบาลแพทองธาร 1/1 จบสิ้นลง ตามการประกาศราชกิจจานุเบกษา โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี 1 กรกฏาคม 2568
5 วันถัดจากนั้น เสียงเรียกร้องให้ สส.ลาออกดังขึ้นทันทีใน-นอกห้องประชุมพรรค โดยเริ่มต้นจากกลุ่ม สส.อีสานจำนวนหนึ่งตั้งวงทั้งออฟไลน์-ออนไลน์
ข้อใหญ่ใจความคือ ให้ สส.บัญชีรายชื่อลาออก เพื่อให้บัญชีรายชื่อถัดไปได้ขึ้นมาทำหน้าที่ เป้าหมายการเคลื่อนไหวพุ่งหอกตรงไปที่ 2 รัฐมนตรีใหม่ คือ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ จากสส.บัญชีรายชื่อ ขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสุชาติ ตันเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ ที่ขึ้นเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ การปรับคณะรัฐมนตรี “แพทองธาร 1/1” มีรัฐมนตรีใหม่ที่ไม่เคยดำรงตำแหน่ง 3 รายคือ นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรค หลานชายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม เป็น รมว.แรงงาน
และนายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ ได้เป็น รมช.ศึกษาธิการ
จากเดิมคณะรัฐบาลแพทองธาร 1 มีรัฐมนตรีทั้งหมด 17 คน 21 ตำแหน่ง เป็นรัฐมนตรีว่าการ 9 กระทรวง และเป็นรัฐมนตรีช่วย 5 คน ใน 3 กระทรวง และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 2 คน
ในคณะรัฐมนตรีแพทองธาร 1/1 ได้โควตารัฐมนตรี 19 คน 24 ตำแหน่ง แบ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการ 9 กระทรวง รัฐมนตรีช่วย 6 คน ใน 4 กระทรวง และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 3 คน มี สส.บัญชีรายชื่อ 37 คน
รัฐมนตรีที่ยังคงเป็น สส.บัญชีรายชื่อ 4 ราย ประกอบด้วย 1. นายชูศักดิ์ ศิรินิล 2.นายสุชาติ ตันเจริญ 3.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 4. นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์
ในช่วงต้นปี 2567 ช่วงรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี มี สส.บัญชีรายชื่อ 2 ราย ลาออก ตามประกาศราชกิจจานุเบกษาวันที่ 16 มกราคม 2567 ระบุว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส. ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2567 และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 11 ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส. ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2567
ช่วงกลางปี 2567 สส.ที่ได้เป็นรัฐมนตรี และลาออกจาก สส.ระบบบัญชีรายชื่อแล้ว คือ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ลาออกจาก สส. ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567
เมื่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในพรรคผ่านไปเพียง 9 วัน มีรัฐมนตรีลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ 1 ราย คือ นายสุชาติ ตันเจริญ ลาออกเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ในวันดังกล่าวเปลี่ยนแปลงจำนวน สส.เท่าที่มีอยู่และปฏิบัติหน้าที่ได้มีจำนวน 492 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่งจำนวน 246 คน
ล่าสุด สส.พรรคเพื่อไทย ปฏิบัติการลาออก อีก 2 ราย คือ นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ และ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ มีผลตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568
เป็นไปตามที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ แจ้งต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ก่อนเข้าสู่วาระได้แจ้งถึงการลาออกของ นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ และน.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ จากสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ส่งผลต่อการเลื่อนลำดับของ สส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคเพื่อไทยแทน ได้แก่ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย และ นายธนพงศ์ ธนเดชากุล
สรุปจำนวน สส.ที่ ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ คือ 493 เสียง และองค์ประชุมเท่ากับ 247 เสียง
สำหรับ รายชื่อ สส.ในระบบบัญชีรายชื่อ ที่จะได้เลื่อนขึ้นมาแทน 5 อันดับ หากมีการลาออกเพิ่มเติมเรียงตามลำดับ ดังนี้
- ลำดับที่ 41 ดร.รุ่งเรือง พิทยศิริ
- ลำดับที่ 42 นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์
- ลำดับที่ 43 นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์
- ลำดับที่ 44 นายสมชัย อัศวชัยโสภณ
- ลำดับที่ 44 นายสมชัย อัศวชัยโสภณ
สำหรับ รายชื่อ สส.ในระบบบัญชีรายชื่อ ที่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่ยังไม่ได้ลาออกจากตำแหน่ง สส. ดังนี้
- นายชูศักดิ์ ศิรินิล
- นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
หลังจากนี้ต้องจับตา ว่าบุคลากรการเมืองของพรรคเพื่อไทย ใครจะได้รับการจัดสรรตำแหน่งอะไรเพิ่ม และตำแหน่งใหม่ที่ชวนชิงชัย คือ ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร จะตกเป็นของกลุ่ม สส.ภาคอีสานในสังกัดพรรคเพื่อไทยหรือไม่
ล่าสุด การเสนอรายชื่อ สส. พรรคเพื่อไทยเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2 แทนนายภราดร ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ที่ลาออกไป
โดยที่ประชุม สส. อีสานได้แสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางโดยเห็นตรงกันว่าควรเป็น สส. อีสานที่มีความอาวุโส ซึ่งมองกันแล้วมี 2 คนคือนายไชยา พรหมา สส. หนองบัวลำภู และนายฉลาด ขามช่วง สส. ร้อยเอ็ด
และในที่สุด ที่ประชุมมีมติว่าจะเสนอชื่อนายฉลาดขึ้นเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2 และจะมีการเสนอต่อที่ประชุมสภาฯ ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568