“ชูศักดิ์” หวัง ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยปมทำประชามติ 2 ครั้งเดินหน้าต่อได้ แต่หากทำ 3 ครั้ง ต้องนับหนึ่งใหม่
เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 23 ก.ค. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ นัดวินิจฉัย ประเด็นการทำประชามติ เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญจำนวนกี่ครั้งในวันที่ 10 ก.ย. ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าต้องทำประชามติ 2 ครั้ง หมายความว่า ร่างรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยและร่างรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชน ที่ค้างอยู่ในสภาก็สามารถเดินต่อไปได้เลย เพราะมีร่างอยู่แล้ว เสนอไปแล้ว ประธานรัฐสภาสั่งบรรจุวาระแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญก่อน หากทำประชามติ 2 ครั้งก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้เลยจนถึงวาระ 3 ซึ่งในวาระ 3 ในการลงมติเห็นชอบที่จะต้องมีเสียง สว. เห็นชอบ 1 ใน 3 เราจึงต้องไปทำการบ้านว่าจะออกมาอย่างไร
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า แต่หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ต้องทำประชามติ 3 ครั้งก็หมายความว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับที่เสนอไปใช้ไม่ได้ ก็ต้องเริ่มใหม่ นับหนึ่งใหม่ ก็ไปทำประชามติถามประชาชนก่อน โดยไม่มีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ทำประชามติ 2 ครั้ง ความคาดหวังและอายุของรัฐบาล จะสำเร็จถึงขั้นตอนไหน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ความเห็นของตนมีอยู่เงื่อนไขว่า สว. จะเห็นชอบ 1 ใน 3 หรือประมาณ 67 คน หรือไม่ ซึ่งเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ตนได้ตั้งกระทู้ต่อที่ประชุม สว. และได้ขอความกรุณาว่า ถ้าเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหา ก็ต้องช่วยกันหน่อย
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามหากเรื่องนี้ไปต่อได้ การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ จะต้องมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) และยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องใช้เวลา ตนเข้าใจว่าอาจไม่ทันรัฐบาลชุดนี้ ตนจึงตั้งความหวังว่า อย่างน้อยที่สุดแม้จะไม่ทัน ไม่มีร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ขอให้มีการตั้งสสร.ให้ได้ เมื่อรัฐบาลใหม่มา สสร.ก็ทำงานไป และเสนอแก้รัฐธรรมนูญกับสภาชุดใหม่ ทั้งนี้ ที่มาของ สสร. จะเป็นการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คนตามจำนวนประชากร