โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘มาริษ’ ซัด ‘กัมพูชา’ น่าเกลียดมาก หลังปล่อยข่าวไทยจ้องลอบสังหารผู้นำเขมร

เดลินิวส์

อัพเดต 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
‘มาริษ’ ซัด ‘กัมพูชา’ น่าเกลียดมาก เหตุปล่อยข่าวป้ายสีไทยจ้องลอบสังหารผู้นำเขมร ย้ำไทยไม่เคยรุกราน เตรียมประชุมทูตไทยทั่วโลก 7 ส.ค. กำชับชี้แจง-ตอบโต้กัมพูชาทุกเวทีนานาชาติ ชี้กาชาดสากลเยี่ยมเชลยศึก ทำให้เห็นไทยทำตาม ก.ม.ระหว่างประเทศ

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ แถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า การบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดี โดยเราได้เสนอหลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้น และย้ำกับมิตรประเทศว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ไทยต้องการ ไทยไม่เคยรุกราน แต่มีการตอบโต้อย่างเหมาะสมตามสัดส่วนที่ไทยได้รับ และไทยพยายามผลักดันอย่างต่อเนื่องให้เกิดการเจรจาทวิภาคี อีกทั้งเราเรียกร้องให้กัมพูชาเก็บศพนายทหารกัมพูชาคืนสู่ครอบครัวเพื่อให้เกียรติและแสดงความเคารพ

นายมาริษ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการปล่อยข่าวสารที่บิดเบือน อาทิ ข่าวที่อ้างว่าไทยพยายามลอบสังหารสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และสมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเกลียดมาก ไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรของสหประชาชาติ ทั้งนี้ กรมสารนิเทศได้ออกมาตอบโต้ในทันทีแล้ว และไทยทำงานอย่างเป็นทีม โดยใช้กลไกสถานเอกอัครราชทูตไทย รวมถึงกรอบพหุภาคีและทวิภาคีทั่วโลก ในการชี้แจงและเผยแพร่ข่าวสารที่ถูกต้อง ขณะเดียวกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมงานที่จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะสื่อมวลชนต่างประเทศด้วย นอกจากนี้ ตนจะประชุมผ่านระบบออนไลน์กับคณะเอกอัครราชทูตไทยที่ประจำการทั่วโลก ในวันที่ 7 ส.ค. นี้ เพื่อมอบหมายหน้าที่ชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมเน้นย้ำความสำคัญกับสงครามจิตวิทยาและสงครามข่าวสาร

รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า ส่วนการที่คณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานภูมิภาคคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ไอซีอาร์ซี) ลงพื้นที่เยี่ยมเชลยศึกชาวกัมพูชานั้น เป็นการดำเนินมาตรการเชิงรุก หลังจากที่พลรบของกัมพูชาตกค้างอยู่ หลังจากที่ปะทะกับไทย ซึ่งประสานงานโดยคณะผู้แทนถาวร ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อแสดงให้ไอซีอาร์ซีเห็นว่าไทยมีความจริงใจ ยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นไปตามอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 3 ซึ่งมีข้อบทที่อนุญาตให้ปล่อยตัวเชลยศึกได้ เมื่อสภาวะความขัดแย้งกันทางอาวุธหยุดสิ้นลง ไม่ใช่แค่การหยุดยิง ตราบใดที่มีโอกาสที่บุคคลเหล่านี้ จะปฏิบัติตัวเป็นปรปักษ์กับประเทศ ก็มีสิทธิจะคุ้มตัวไว้

นายมาริษ กล่าวว่า สำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ไทย-กัมพูชา ในวันนี้ (5 ส.ค.) เป็นวันที่ 2 ระหว่างฝ่ายเลขานุการของทั้ง 2 ประเทศ มีเป้าหมายคือการหยุดยิงถาวร รวมถึงให้มีกลไกในการตรวจสอบ และมีขั้นตอนการหยุดยิงที่โปร่งใส นอกจากนี้ รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย เสนอให้มีการหารือระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ ระหว่างไทย กัมพูชา และมาเลเซีย แต่ตนได้ปฏิเสธ เพราะต้องการให้เกิดการดำเนินงานในกรอบทวิภาคีมากที่สุด ขณะที่ รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย เห็นพ้องและขอบคุณสำหรับคำแนะนำดังกล่าว อีกทั้ง ตนได้ฝากกับ รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย ถึงเรื่องสงครามข่าวสาร โดยขอให้หาทางจัดการทำให้ฝ่ายกัมพูชาลดทอนการใช้สงครามข่าวสารให้น้อยลง เพราะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และทำให้การเจรจาของจีบีซีไม่เป็นไปในทางที่ดี

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

เปิดวันนี้! ‘ดาวรุ่งชบาแก้ว’ ล่าแชมป์อาเซียน ‘อินโด-เขมร-เวียดนาม’ คู่แข่งรอบแรก

24 นาทีที่แล้ว

“อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย” ขยายเครือข่ายทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินท้องถิ่น

34 นาทีที่แล้ว

เพื่อไทย-กล้าธรรม…แย่งเก้าอี้

39 นาทีที่แล้ว

น้ำท่วมฉับพลัน ‘รัฐอุตตราขัณฑ์’ อินเดีย เสียชีวิตแล้ว 4 ราย สูญหายกว่า 100 คน

45 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม