โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

Second-order thinking ฝึกคิดให้แตกต่าง กุญแจลับสู่ความสำเร็จในการลงทุน

Stock2morrow

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • Stock2morrow
Second-order thinking ฝึกคิดให้แตกต่าง กุญแจลับสู่ความสำเร็จในการลงทุน

Second-order thinking ฝึกคิดให้แตกต่าง

กุญแจลับสู่ความสำเร็จในการลงทุน

.

ครั้งหนึ่ง โฮเวิร์ด มาร์คส์ นักลงทุนชื่อดัง ผู้ก่อตั้ง Oaktree Capital Management เคยกล่าวไว้ว่า …

"First-level thinkers look for simple formulas and easy answers.

Second-level thinkers know that success in investing is the antithesis of simple"

แปลว่า นักคิดระดับแรกมองหาสูตรสำเร็จที่เรียบง่ายและคำตอบที่ง่ายดาย

ส่วนนักคิดระดับสองรู้ดีว่าความสำเร็จในการลงทุนนั้นตรงกันข้ามกับความเรียบง่ายโดยสิ้นเชิง

.

เราเคยสงสัยไหมว่า ทำไมนักลงทุนบางคนถึงประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น ในขณะที่คนส่วนใหญ่กลับได้ผลตอบแทนเพียงแค่ "ค่าเฉลี่ย" ของตลาด ?

เคล็ดลับไม่ได้อยู่ที่การเป็นคนฉลาดที่สุด หรือทำงานหนักที่สุดเสมอไป แต่คือการ "คิดและทำในสิ่งที่แตกต่าง"

โฮเวิร์ด มาร์คส์ ได้อธิบายแนวคิดสำคัญนี้ไว้อย่างน่าสนใจ เขาชี้ให้เห็นว่าความสำเร็จที่แท้จริงในการลงทุนนั้น "ตรงกันข้ามกับความเรียบง่ายโดยสิ้นเชิง"

.

โฮเวิร์ด มาร์คส์ แบ่งนักลงทุนออกเป็น 2 ประเภทตามวิธีการคิด คือ

1. นักคิดระดับแรก (First-level thinkers)

ลักษณะ: มองหาสูตรสำเร็จ หรือคำตอบง่ายๆ สำหรับการลงทุน

แนวคิด: เชื่อว่ามีวิธีง่ายๆ ที่จะทำเงินได้เร็ว หรือทำตามกระแสที่ทุกคนกำลังทำ

ผลลัพธ์: มักจะได้ผลตอบแทนแค่ "เฉลี่ย" หรือแย่กว่านั้น เพราะสิ่งที่ง่ายและชัดเจนนั้น มักจะถูกสะท้อนเข้าไปในราคาตลาดเรียบร้อยแล้ว

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ เราอาจจะเห็นบริษัทที่ดี ซื้อเลย! หรือ "เศรษฐกิจแย่แล้ว ขายหุ้นทิ้งดีกว่า"

.

2. นักคิดระดับสอง (Second-level thinkers)

ลักษณะ: เข้าใจความซับซ้อนของการลงทุน และไม่เชื่อในทางลัด

แนวคิด: ตระหนักว่าการจะเอาชนะตลาดได้ ต้องคิดและทำในสิ่งที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ พวกเขามองลึกลงไปในสิ่งที่คนอื่นมองข้าม

ผลลัพธ์: มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าค่าเฉลี่ย เพราะพวกเขากล้าที่จะ "สวนทาง" และ "ถูก" ในสิ่งที่คนอื่นผิด

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ "บริษัทนี้ดีนะ แต่ทุกคนคิดว่ามันดีเยี่ยมเกินจริง หุ้นเลยแพงไปแล้ว ขายดีกว่า"

หรือ "เศรษฐกิจดูแย่ แต่ทุกคนกำลังตื่นตระหนกและขายทิ้ง นี่แหละโอกาสที่จะ 'ซื้อ'!"

.

จะเห็นได้ว่า นักคิดระดับสอง คิดแตกต่างและไม่เหมือนกับวิธีคิดระดับแรก

แต่แค่นั้นอาจจะไม่เพียงพอ การคิดแบบระดับสองให้ได้อย่างครอบคลุม ต้องประกอบไปด้วยหลายอย่าง คือ

1. คิดให้ลึกซึ้งกว่า: ไม่ใช่แค่สรุปง่ายๆ แต่ต้องวิเคราะห์เจาะลึกไปถึงแก่น

2. มองเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น: หาจุดเด่นที่นักลงทุนส่วนใหญ่พลาดไป

3. กล้าที่จะแตกต่างและถูกต้อง: การทำในสิ่งที่สวนทางกับคนหมู่มากต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมาก และที่สำคัญคือต้องเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

4. ความอดทนและวินัย: แม้จะคิดถูกต้อง แต่บางครั้งผลลัพธ์อาจไม่มาในทันที นักคิดระดับแรกอาจขับเคลื่อนตลาดได้ในระยะสั้น

แต่การคิดระดับสองจะช่วยปกป้องคุณจากความผิดพลาดครั้งใหญ่ในท้ายที่สุด

.

โฮเวิร์ด มาร์คส์ เน้นย้ำอีกด้วยว่า เป้าหมายของเราในการลงทุนไม่ใช่การสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย แต่เราต้องทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ย

และวิธีเดียวจะที่ทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ย คือ การคิดที่แตกต่าง เพราะถ้าเราคิดเหมือนคนอื่น เราก็จะได้ผลลัพธ์เฉลี่ยเหมือนคนอื่น

สรุปแล้ว การเป็นนักคิดระดับสองนั้นยาก เพราะมันต้องใช้ความพยายาม คิดวิเคราะห์ และความกล้าที่จะสวนกระแส

แต่การเอาชนะตลาดได้ก็ไม่เคยเป็นเรื่องง่ายหรือชัดเจนมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว

โอกาสที่ดีที่สุดมักจะมาจากช่องว่างที่เกิดจากการคิดแบบ "ระดับแรก" ของคนส่วนใหญ่นั่นเอง ..

#Stock2morrow #สื่อสถาบันความรู้ของนักลงทุน #Mindset

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Stock2morrow

"ROIC" ตัวเลขคัดกรองหุ้นคุณภาพอย่างไรให้ไม่พลาด

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กรณีศึกษา BJC หุ้นไม่แพง แต่ทำไมนักลงทุนถึงไม่ซื้อ ?

2 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...