รวบขบวนการขนคนจีนแก๊งคอลเซ็นเตอร์คารถหรู โดยมีรถนำดูต้นทาง
เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.วันที่ 03 สิงหาคม 2568 พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ สวญ.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) ตำรวจทางหลวงอยุธยา บูรณาการร่วมกันกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา,เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๑ บก.สส.สตม.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส.ออกตรวจความเข็มในพื้นที่ ถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพมหานคร หลังสืบทราบมาว่าจะมีขบวนการขนคนจีนแก๊งคอลเซ็นเตอร์และแรงงานเถื่อนเข้ามาในพื้นที่อย่างผิดกฎหมาย
โดยในขนวนจะมีทั้งรถนำและรถขนแรงงาน กระทั่งมาพบรถยนต์ตามเป้าหมาย เป็น รถยนต์ นำ 1 คัน เป็นกระบะโตโยต้า 4 ประตู สีขาว และรถยนต์เอนกประสงค์ ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว กรุงเทพมหานคร มาบนถนนสายเอเซีย ขาเข้า กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งมาถึงบริเวณ กม.45 – 46 ถนนสายเอเชีย (ขาเข้า) ตำบลท่าตอ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงส่งสัญญาณไฟและเสียง แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอทำการตรวจสอบ กระบะโตโยต้า 4 ประตู สีขาว มีนายเหมย อายุ 42 ปี ชาว อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นคนขับ ส่วนรถยนต์เอนกประสงค์ ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว มีนายบอย อายุ 25 ปี คนขับ เป็นชาวเมียนมา
ตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นใดที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง แต่สามารถพูดไทยได้ ภายในรถยังพบผู้โดยสารนั่งมาในรถอีก 7 คน เป็น ชาย 6 คน หญิง 1 คน พบ 3 คน เป็นคนจีน ตรวจสอบทั้งหมดไม่พบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นใดที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง และยังพบว่ารถยนต์คันที่ใช้มีการใช้แผ่นป้ายทะเบียนปลอม และยังมีทะเบียนปลอมซุกซ่อนอยู่ใต้พรมฝั่งคนขับอีกหลายชุดเพื่อสับเปลี่ยนหลบเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย จึงได้นำตัวทั้งหมดพร้อมรถของกลางมาทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถานีตำรวจภูธรมหาราช อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นาย บอย อายุ 25 ปี คนขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ให้การว่า ตนเองถูกว่าจ้างให้มาขับรถขนแรงงานทั้งหมดเข้ามา โดยที่เขาเตรียมรถไว้ให้แล้ว ในราคา 5,000 บาท เพื่อให้มาส่งแถวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พอดีตนเองก็ไม่มีบัตรไม่มีอะไรอยู่แล้วก็หวังว่าจะเข้ามาทำงานในพื้นที่ด้วย โดยมีทะเบียนที่เขาเตรียมไว้ให้เปลี่ยนตามทางที่จะบอกเป็นช่วงๆ พอถึงอยุธยาก็จอดรถทิ้งทั้งคนทั้งรถไว้และแยกย้าย ตนก็ว่าจะโทรหาเพื่อให้มารับเพื่อไปหางานทำ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อน
ด้านนายเหมย อายุ 42 ปี คนขับรถนำ เผยว่าตนเองได้ว่าจ้างให้มาขับรถนำเรื่อยๆ ถ้ามีด่านก็คอยบอก โดยให้ตนเองนำคันดังกล่าวมา ในราคา 5,000 บาท โดยจะโทรบอกเป็นระยะ ระยะ เคยทำมาแล้ว ครั้งนี้ครั้งที่ 2 แต่ก็มาถูกจับก่อน ทั้งนี้ พบว่าแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง มี 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน หลบหนีเข้ามาทาง แม่สาย เข้ามาในราคา หัวละ 5,000 บาท ส่วนแรงงาน ชาวจีน 3 คน ที่พบ สอบถามผ่านล่าม ให้ข้อมูลว่า ทั้งหมดมาจาก บ่อนหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในย่างกุ้ง ติดต่อผ่านหัวหน้าเพื่อจะไป อีกบ่อนแต่หัวหน้าให้เข้ามาในไทยก่อน เพื่อใช้ไทยเป็นทางผ่าน ง่ายต่อการเดินทาง โดยเสียค่าเดินทาง คนละ 150,000 บาท แต่ยังไม่ทันถึงที่หมายก็มาถูกจับก่อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา นายเหมย คนขับรถนำ ข้อหา “ รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ” นายบอย คนขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ข้อหา “ รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” “ปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม” ส่วนแรงงานต่างด้าว ทั้งหมดถูกแจ้งข้อกล่าวหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรมหาราช อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป