ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 29 ก.ค. – 1 ส.ค. 68)
สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
เงินบาทพลิกแตะระดับอ่อนค่าสุดรอบกว่า 1 เดือน ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้นหลังเฟดส่งสัญญาณไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย ทั้งนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบค่อนข้างแคบก่อนการประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์ แต่เริ่มทยอยอ่อนค่าลงในช่วงกลางสัปดาห์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้นและบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้น หลังผลการประชุมเฟดสะท้อนว่า เฟดจะยังไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดด้วยเช่นกัน เงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องในช่วงท้ายสัปดาห์ แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนที่ 32.87 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับทิศทางอ่อนค่าของสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาค และการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อ หลังความกังวลต่อผลกระทบของภาษีสินค้านำเข้าต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่อนคลายลงบางส่วน หลังการเปิดเผยภาษี Tariffs อัตราใหม่ที่เริ่มมีผล 1 ส.ค. นี้ ซึ่งส่วนใหญ่ต่ำกว่าอัตราที่ประกาศเมื่อ 9 เม.ย.
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 4-8 ส.ค. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.30-33.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก สถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ ผลการประชุม BOE และตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือนก.ค. อาทิ ตัวเลขการส่งออก
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยดัชนีหุ้นไทยย่อตัวลงช่วงท้ายสัปดาห์ หลังรับรู้ผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นช่วงต้น-กลางสัปดาห์ โดยยังคงมีแรงหนุนต่อเนื่องจากความหวังเกี่ยวกับผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ เนื่องจากมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างอียูและสหรัฐฯ เข้ามาเพิ่มเติม ทำให้ตลาดประเมินว่า ไทยน่าจะบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ได้ทันก่อนเส้นตาย 1 ส.ค. ซึ่งกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นได้ช่วงสั้น ๆ ไปแตะจุดสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือนที่ 1,255.39 จุดในช่วงปลายสัปดาห์ ก่อนจะพลิกปรับตัวลงตามแรงขายทำกำไรในหุ้นทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน เทคโนโลยีและแบงก์ หลังตลาดรับรู้ข่าวที่ไทยสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ และอัตราภาษีนำเข้าถูกปรับลดลงมาเหลือ 19% ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ นอกจากนี้การปรับตัวลงของดัชนีหุ้นไทยยังสอดคล้องกับภาพรวมตลาดหุ้นภูมิภาคท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายภาษีของสหรัฐฯ
สัปดาห์ที่ 4-8 ส.ค. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,200 และ 1,190 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,230 และ 1,255 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของไทย ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ของบจ.ไทย ประเด็นเกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และยูโรโซน ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย. ของยูโรโซน ตลอดจนตัวเลขส่งออกเดือนก.ค. ของจีน