โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 29 ก.ค. – 1 ส.ค. 68)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

อัพเดต 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาทพลิกแตะระดับอ่อนค่าสุดรอบกว่า 1 เดือน ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้นหลังเฟดส่งสัญญาณไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย ทั้งนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบค่อนข้างแคบก่อนการประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์ แต่เริ่มทยอยอ่อนค่าลงในช่วงกลางสัปดาห์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้นและบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้น หลังผลการประชุมเฟดสะท้อนว่า เฟดจะยังไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดด้วยเช่นกัน เงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องในช่วงท้ายสัปดาห์ แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนที่ 32.87 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับทิศทางอ่อนค่าของสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาค และการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อ หลังความกังวลต่อผลกระทบของภาษีสินค้านำเข้าต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่อนคลายลงบางส่วน หลังการเปิดเผยภาษี Tariffs อัตราใหม่ที่เริ่มมีผล 1 ส.ค. นี้ ซึ่งส่วนใหญ่ต่ำกว่าอัตราที่ประกาศเมื่อ 9 เม.ย.

  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 4-8 ส.ค. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.30-33.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก สถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ ผลการประชุม BOE และตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือนก.ค. อาทิ ตัวเลขการส่งออก
    สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • ดัชนีหุ้นไทยย่อตัวลงช่วงท้ายสัปดาห์ หลังรับรู้ผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นช่วงต้น-กลางสัปดาห์ โดยยังคงมีแรงหนุนต่อเนื่องจากความหวังเกี่ยวกับผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ เนื่องจากมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างอียูและสหรัฐฯ เข้ามาเพิ่มเติม ทำให้ตลาดประเมินว่า ไทยน่าจะบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ได้ทันก่อนเส้นตาย 1 ส.ค. ซึ่งกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อหุ้นทุกกลุ่ม ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นได้ช่วงสั้น ๆ ไปแตะจุดสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือนที่ 1,255.39 จุดในช่วงปลายสัปดาห์ ก่อนจะพลิกปรับตัวลงตามแรงขายทำกำไรในหุ้นทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน เทคโนโลยีและแบงก์ หลังตลาดรับรู้ข่าวที่ไทยสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ และอัตราภาษีนำเข้าถูกปรับลดลงมาเหลือ 19% ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ นอกจากนี้การปรับตัวลงของดัชนีหุ้นไทยยังสอดคล้องกับภาพรวมตลาดหุ้นภูมิภาคท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายภาษีของสหรัฐฯ

  • สัปดาห์ที่ 4-8 ส.ค. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,200 และ 1,190 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,230 และ 1,255 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของไทย ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ของบจ.ไทย ประเด็นเกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และยูโรโซน ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย. ของยูโรโซน ตลอดจนตัวเลขส่งออกเดือนก.ค. ของจีน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

ภาษี Reciprocal 19% จากสหรัฐฯ แม้กระทบส่งออกมอเตอร์ไซค์ไทยบางรุ่น แต่คาดยังโตได้ 28%

13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จีนให้เงินอุดหนุนค่าเลี้ยงบุตรทั่วประเทศเป็นครั้งแรก เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย และสนับสนุนการมีบุตรของประชากร

13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่นๆ

CEO Readyplanet โชว์วิสัยทัศน์ 25 ปี บนเวที SaaS Connect Thailand 2025 เผยเส้นทางสู่ IPO ตอกย้ำผู้นำ MarTech ไทยโตยั่งยืน

สยามรัฐ

เมเจอร์เปิด “คิดส์ ซีนีมา” เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ดูหนังฟรีวันเปิด 2 ส.ค. นี้ เอาใจครอบครัวฝั่งธนฯ

สยามรัฐ

WTI ปิดร่วง 1.93 เหรียญ กังวล “โอเปกพลัส” บรรลุข้อตกลงเพิ่มการผลิต ก.ย. ดันซัพพลายพุ่ง

ข่าวหุ้นธุรกิจ

เมื่อ‘ชายแดนไทย-กัมพูชา’เป็นสนามรบไซเบอร์ AI กับสงครามข้อมูลยุคใหม่

กรุงเทพธุรกิจ

เทียบชัดๆ สถิติการโจมตีทางไซเบอร์ แฮกเกอร์“ไทย VS กัมพูชา”

ฐานเศรษฐกิจ

“ดาวโจนส์” ปิดลบ 542 จุด หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐต่ำคาด-หุ้น Amazon ร่วงหนัก

ข่าวหุ้นธุรกิจ

“เคจีไอ” แนะหุ้นเด่น ส.ค. ชู SPRC-TOP-OSP-SYNEX-ITC น่าลงทุน

ข่าวหุ้นธุรกิจ

Tim Cook นั่งเก้าอี้ซีอีโอ Apple แซง Steve Jobs อย่างเป็นทางการ

ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...