จ่อแก้กฎหมาย “พระ มั่ว สีกา” ต้องเจอยาแรง! โทษจำคุกทั้งคู่

จากกรณี เรื่องราวข่าวฉาวในวงการพระสงฆ์ เกี่ยวกับสีกากอล์ฟ ที่เข้าไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง กับพระชั้นผู้ใหญ่หลายวัด รวมถึงมีเรื่องของเงินที่มีการโอนให้กับสีกากอล์ฟ รวม ๆ แล้วหลายล้านบาท โดยมีคลิปและภาพถ่ายในโทรศัพท์มือถือของสีกากอล์ฟเป็นหลักฐานยืนยันในพฤติกรรมของตัวสีกากอล์ฟเอง และ พระผู้ใหญ่หลายรูป จนเป็นเหตุให้พระผู้ใหญ่ ต้องลาสิกขา แล้ว 8 รูป

จากเรื่องราวดังกล่าว นอกจากจะทำให้พุทธศาสนิกชน หมดศรัทธากับอดีตพระผู้ใหญ่ที่เคยเคารพกราบไหว้แล้ว ยังทำให้สังคมตั้งคำถาม ตัวโตๆ เกี่ยวกับการแสดงความรับผิดชอบ ของอดีตพระผู้ใหญ่ ว่ามีเพียงแค่การลาสิกขา แล้ว เรื่องราวก็จะจบลงเพียงแค่นั้นหรือไม่ เพราะพฤติการณ์ในลักษณะนี้ ควรที่จะมีบทลงโทษที่รุนแรงเป็นรูปธรรม ต่อผู้ทรงศีลที่ทำผิดศีลเสียเอง

นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้หารือกับ ผู้แทนมหาเถรสมาคม (มส.) แล้ว
เห็นว่าควรเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสด้วยการเสนอ พ.ร.บ.ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์ และคุ้มครองพระพุทธศาสนา มานำเสนออีกครั้ง

โดย สาระสำคัญของ พ.ร.บ.ดังกล่าว จะมีบทลงโทษดังนี้

--พระสงฆ์ที่ต้องอาบัติปาราชิก หรือประพฤติลวงละเมิดพระธรรมวินัย โทษจำคุก 1-7 ปี ปรับ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
--หญิงหรือชายสมัครใจเสพเมถุนกับพระภิกษุหรือสามเณร โทษจำคุก 1-7 ปี ปรับ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
--พระอวดอุตริ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปีปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นต้น

ขณะที่ นายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สมาชิกวุฒิสภา ได้ตั้งกระทู้สอบถามนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับ วิกฤติศรัทธาในพุทธศาสนา พระชั้นผู้ใหญ่มีพฤติกรรมเลวทรามให้ศาสนาเสื่อมเสีย อยากทราบรัฐบาล และสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะวางแผนปัญหาอย่างไร จะการดำเนินคดีกับสมีทั้งหลายได้หรือไม่ ทั้งเรื่องการมีเพศสัมพันธ์และเรื่องเงิน ควรผลักดันพ.ร.บ.คุ้มครองพระพุทธศาสนา ลงโทษพระ ที่ทำให้พุทธศาสนาเสื่อมเสีย ต้องมีโทษอาญาคือการจำคุก

โดย นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ได้ชี้แจง ว่า ได้มอบนโยบาย ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำงานเชิงรุกตรวจสอบพระที่ปฏิบัติไม่ดี เรื่องการควบคุมพระสงฆ์เป็นการดำเนินการของมหาเถรสมาคม

ส่วนการดำเนินคดีพระประพฤติผิดพระธรรมวินัย หรือสมี ยังไม่มีบทบัญญัติกฎหมายใดเอาผิด พระเสพเมถุน หรือสีกาที่ไปเสพเมถุนกับพระ ต้องรีบแก้ไขพ.ร.บ.สงฆ์ โดยด่วน เพิ่มโทษพระผิดพระธรรมวินัยให้จำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ ปรับหลายหมื่นถึงหลักแสนบาท สีกาก็ต้องมีความผิดด้วย

ขณะนี้แม้เอาความผิดสีกาไม่ได้ แต่หากพบว่า ไปล่อลวง ข่มขู่ ก็เอาผิดกฎหมายอาญาอื่น ๆ ได้ ขณะนี้เริ่มร่างกฎหมายแล้ว ภายใน 3-4เดือนจะมีการแก้กฎหมาย อาจรวมถึงการเอาผิดการเรี่ยไร การบริจาค เรื่องการบริจาคเงินให้วัดนั้น มหาเถรสมาคมออกเป็นกฎกระทรวงแล้ว จะเริ่มใช้ 1 ต.ค.นี้ว่า ต่อไปทุกวัดที่มีเงินบริจาค ต้องนำเงินเข้าสู่บัญชีธนาคารในพื้นที่วัดตั้งอยู่ วัดห้ามถือเงินสดเกิน 1 แสนบาท เป็นการแก้ไขปัญหาไปได้ส่วนหนึ่ง

นายสุชาติ ยังกล่าวเพิ่มเติม ขณะที่เข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม ว่า พ.ร.บ.สงฆ์ ที่จะมีการแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องเงินวัด ต้นตอของปัญหา ที่ก่อให้เกิดกระบวนการหลอกพระ ก็มาจากการที่พระมีเงิน มีทรัพย์เยอะ และหลอกง่ายที่สุด เมื่อพระถูกแบล็คเมล์ ก็ต้องโอนเงินให้ พฤติการณ์นี้ทำเป็นขบวนการ

ซึ่งเราก็พยามที่จะทำ เพื่อแก้ปัญหาต้นเหตุ เมื่อพระมีทรัพย์มาก และมีการใช้จ่ายโดยไม่มีการควบคุม ก็ต้องแก้ด้วยการออกกฎกระทรวง ว่าทุกบาททุกสตางค์ของวัด ต้องเอาเข้าบัญชีธนาคารในท้องที่เงินสดที่วัดจะถือได้ก็ต้องห้ามเกิน 100,000 บาท ไว้สำหรับค่าใช้จ่าย ทั้งค่าน้ำค่าไฟ และทุกบัญชีนั้นก็ต้องฝากธนาคารทั้งหมด และทุกเดือน จะต้องทำบัญชีรายรับรายจ่าย

และต้องสรุปรายงานบัญชีประจำปีด้วย ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการร่างแบบฟอร์มไว้หมดแล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป ซึ่งวัดทุกวัดจะต้องปฏิบัติตามหากไม่ปฏิบัติก็ถือว่าเป็นการฝ่าฝืน

รวมทั้งจะให้สำนักพระพุทธศาสนา จะดำเนินการย้อนดูธุรกรรม สำหรับวัด ที่พบความผิดปกติ ซึ่งตนก็เคยให้นโยบายกับสำนักพุทธฯ ไว้ว่าต้องทำงานเชิงรุก ไม่ใช่ทำงานเชิงรับ ทุกวันนี้ทำงานเชิงรับให้ตำรวจไปจับเพียงอย่างเดียว หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ จะต้องไปสอดส่องดูพฤติกรรมของพระในทุกวัดทุกพื้นที่กับชาวบ้านและชุมชน ไม่ใช่รอให้ตำรวจทำคดีอย่างเดียว
จะต้องไปปราบก่อนเหตุบานปลาย

แต่ในขณะนี้แม้ยังไม่มีมีการตั้งชุดทำงานดังกล่าว ก็ขอให้พุทธศาสนาจังหวัดดำเนินการตรวจสอบ พฤติกรรมของพระในแต่ละวัดจากข่าวซุบซิบของชาวบ้าน ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ จะครอบคลุมไปถึงพฤติกรรมของพระสงฆ์ ที่มีการล่วงละเมิดทางเพศทั้งหญิงและชาย ซึ่งจะมีความผิดวินัยสงฆ์ และส่งดำเนินคดีอาญาด้วย

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews