โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

22ส.ค.ชี้ชะตาแม้ว ศาลนัดคดีหมิ่นเบื้องสูง ‘มท.อ้วน’ฮึ่มกำราบผวจ.

ไทยโพสต์

อัพเดต 33 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ศาลอาญานัดพิพากษาคดี "ทักษิณ" ผิดมาตรา 112 วันที่ 22 ส.ค.นี้ หลัง "แม้ว" สวมสูทเนกไทสีเหลืองขึ้นสืบพยานจำเลยพร้อม "วิษณุ-ธงทอง" ปากสุดท้าย ก่อนเตรียมแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 15 วัน “วิญญัติ” บอกทักษิณอารมณ์ดี มั่นใจต้องได้รับความเป็นธรรม "คปท." ตามบี้เอาผิด 2 หมอ รพ.ตำรวจ ขวางเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น "โฆษก ตร." ได้ผลชี้จริยธรรมแพทยสภาแล้ว รับปากนำเข้าพิจารณาทันที "ภูมิธรรม" ตามบี้งบท้องถิ่นโครงการกระตุ้น ศก. พบกระจุกตัวบางจังหวัด แฉ "บุรีรัมย์-สุรินทร์" อู้ฟู่เป็นร้อยๆ ล้านบาท บางแห่งถึง 700 ล้านบาท ขยี้ "อนุทิน" เซ็นเอกสารไม่ตรงกับที่ลงในระบบ เตรียมเรียกผู้ว่าฯ-ผบก.ตำรวจทั่ว ปท.ประชุม 17 ก.ค. หวานใส่ "ปลัด มท." ถือเค้กอวยพรวันเกิด "เสี่ยหนู" โต้ไม่มีงบกระจุกไม่กระจาย ขอ ปชช.ตัดสินใครฝ่ายแค้น "พีระพันธุ์" ขอ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาทางไปรษณีย์ เหตุติดภารกิจไปพบตามนัดไม่ได้

ที่ศาลอาญา วันที่ 16 ก.ค.2568 ศาลนัดสืบพยานฝ่ายจำเลย คดีหมายเลขดำที่ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 จากกรณีที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณโดยรอบอาคารศาลอาญาว่า มีบรรดามวลชนกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเดินทางมาปักหลักเพื่อรอส่งกำลังใจให้นายทักษิณ นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองคนสำคัญทยอยเดินทางมาที่ศาลอาญาเพื่อให้กำลังใจ เช่น สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.ศึกษาธิการ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล กระจายกำลังรักษาความปลอดภัยในพื้นที่บริเวณโดยรอบศาลอาญา

นายสมชายกล่าวว่า มาให้กำลังใจนายทักษิณในฐานะที่เป็นแฟนคลับตัวยงประจำ ไม่ได้เป็นพยานฝ่ายจำเลยของนายทักษิณในคดีนี้ แต่มีทีมทนายความที่เตรียมพยานหลักฐานต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ซึ่งก็ขึ้นกับดุลพินิจของศาลว่าจะวินิจฉัยอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณได้เดินทางมาถึงศาลอาญาในเวลาประมาณ 09.13 น. โดยเดินทางด้วยรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ มายบัค สีดำ-เงิน ทะเบียน ธษ 267 กรุงเทพมหานคร จอดเทียบส่งที่บริเวณประตูด้านข้างอาคารศาลอาญา ซึ่งนายทักษิณสวมชุดสูทผูกเนกไทสีเหลืองเดินทางมาคนเดียว มีนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณมาต้อนรับ ก่อนที่จะเดินขึ้นฝั่งประตูข้างอาคารศาลอาญา โดยบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่หวงห้าม และสื่อมวลชนไม่ได้รับอนุญาตให้บันทึกภาพบริเวณดังกล่าว

ทั้งนี้ สำหรับการสืบพยานพิจารณาคดีในวันนี้ จะใช้เวลาตลอดทั้งวัน และเป็นการพิจารณาคดีแบบลับ ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลได้สืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นในช่วงวันที่ 1-3 ก.ค.ที่ผ่านมา วันนี้เป็นนัดสืบพยานจำเลยนัดเเรก

ภายหลังจากการสืบพยานเสร็จสิ้นเวลา 12.00 น. ทีมทนายความได้แถลงหมดพยาน และศาลนัดพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 22 ส.ค.2568 เวลา 10.00 น. ส่วนนายทักษิณได้เดินทางกลับทางประตู 7 หน้าศาลแพ่งรัชดาภิเษก โดยระหว่างนั่งรถกลับนายทักษิณโบกมือทักทายสื่อมวลชนและคนเสื้อแดงจากภายในรถยนต์โดยไม่ลดกระจกลงมา ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงโห่ร้องด้วยความดีใจ

นายวิญญัติให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนได้นำพยานจำเลยเข้าสืบรวมทั้งหมด 3 ปาก โดยปากแรกเป็นนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ปากที่ 2 นายธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายทักษิณ ชินวัตร เป็นพยานจำเลยปากสุดท้าย หลังจากการเบิกความตนได้ปรึกษากับทางทีมงานและตัวนายทักษิณแล้ว จึงแถลงหมดพยาน และไม่ประสงค์สืบพยานอีก

22 ส.ค.ชี้ชะตาทักษิณคดี 112

"ผมจึงแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 15 วัน ศาลพิจารณาแล้วได้นัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 22 ส.ค. 2568 เวลา 10.00 น." นายวิญญัติกล่าว

ทนายความประจำตัวนายทักษิณกล่าวว่า เดิมตนได้เตรียมพยานเอาไว้ 14 ปาก แต่เนื่องจากว่าการสืบพยานที่ผ่านมาทั้งการสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยเพียงพอและเหมาะสมแล้ว จึงแถลงหมดพยาน ตนคงจะเปิดเผยรายละเอียดในคดีหรือว่ารายละเอียดการสืบพยานไม่ได้ เพราะเป็นการพิจารณาลับ ทำได้เพียงแจ้งความคืบหน้าแก่สื่อมวลชนเท่านั้น ส่วนเอกสารแถลงปิดคดี ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะนำมาพิจารณาประกอบการเขียนคำพิพากษาหรือไม่

ถามว่า ตอนนี้หลังจากสืบพยานทั้งโจทก์และจำเลยแล้วมีความหนักใจหรือไม่ ทนายความประจำตัวนายทักษิณกล่าวว่า ไม่ตอบว่ามั่นใจหรือไม่ แต่เชื่อว่าเรื่องนี้จะได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ที่ผ่านมามีหลายส่วนที่ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ และมีหลายส่วนที่เป็นพยานบุคคลที่เป็นพยานความเห็นทั้งสิ้น และทีมทนายความได้พยายามหักล้างว่าเป็นพยานที่มีความอคติและอยู่ฝ่ายตรงข้ามของนายทักษิณแทบทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ต้องเรียนตามตรงว่า โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานที่จะพิสูจน์ทราบการกระทำความผิดได้ชัดเจน

ซักว่า เหตุใดจากที่เตรียมพยานไว้ตอนแรกไว้ 14 ปาก แต่กลับเหลือแค่ 3 ปาก นายวิญญัติกล่าว่า ในส่วนนี้เป็นการประเมินคดี และได้ปรึกษาร่วมกับนายทักษิณแล้วว่าสมควรยุติการสืบพยานเท่านี้ สำหรับฝ่ายจำเลยเนื่องจากการพิจารณาคดีของศาลอาญา ศาลจะพิจารณาพยานฝั่งโจทก์เป็นหลักว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ทราบการกระทำความผิดของจำเลยได้มากน้อยเพียงใดหรือไม่ ซึ่งตนก็ได้ประเมินดูมาโดยตลอด

เมื่อถามว่า นายวิษณุและนายธงทองมาเป็นพยานและให้ความเห็นในด้านใด นายวิญญัติกล่าวว่า ทั้งคู่เป็นพยานที่เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาที่นายทักษิณถูกกล่าวหา และช่วงที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญทางกฎหมายและด้านภาษา รวมทั้งเคยแปลและรับรู้ถึงการแสดงออกการกระทำของนายทักษิณว่ามีความจงรักภักดีอย่างไรอยู่แล้ว

ถามว่า นายทักษิณจะเดินทางมาที่ศาลอีกครั้งแค่ในวันนัดฟังคำพิพากษาหรือไม่ นายวิญญัติกล่าวว่า จะต้องมาอีกครั้งในการรายงานตัวตามคำสั่งศาลในช่วงต้นเดือน เนื่องจากได้รับการปล่อยชั่วคราวเกี่ยวเนื่องจากคดีนี้ จากนั้นจะมาศาลอีกครั้งในวันที่ 22 ส.ค. ซึ่งเป็นวันพิพากษา อย่างไรก็ตาม คำสั่งกำหนดนัดรายงานตัวและห้ามออกนอกราชอาณาจักร จะมีผลสิ้นสุดลงหลังจากการฟังคำพิพากษาในศาลชั้นต้น

ถามอีกว่า ท่าทีของนายทักษิณเป็นอย่างไรหลังการสืบพยานเสร็จสิ้น นายวิญญัติกล่าวว่า วันนี้ตัวนายทักษิณอารมณ์ดี และรู้สึกว่าต้องได้รับความเป็นธรรม เมื่อถามว่าหลังจากฟังคำพิพากษาแล้วจะมีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรหรือไม่ นายวิญญัติกล่าวว่า ยังไม่ตอบในส่วนนี้ รอดูคำพิพากษาก่อนว่าผลจะเป็นอย่างไร ซึ่งหลังจากนั้นจะมีกำหนดการของการทำงานของนายทักษิณอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 22 ส.ค.2568 จะเป็นวันครบ 2 ปีที่นายทักษิณเดินทางกลับจากต่างประเทศมาเข้าสู่กระบวนการบังคับโทษพอดี

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมด้วยกองทัพธรรมและศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำมวลชนเดินทางมาติดตามทวงถามต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ที่ได้ยื่นหนังสือหนังสือเรียกร้องให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และให้มีคำสั่งไล่ออก พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ หลังมติแพทยสภาสอบจริยธรรมทางวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์ สั่งพักใบอนุญาต กรณีการรักษาตัวชั้น14 ของนายทักษิณ และตำรวจทั้ง 2 นายมีโอกาสได้เลื่อนขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร. ตามลำดับ ในการแต่งตั้งวาระนายพลปลายปีนี้

นายพิชิตกล่าวว่า กลุ่ม คปท.ขอเรียกร้องให้ตำรวจ 2 นายนี้ออกจากราชการไว้ก่อน และไม่สมควรที่จะได้รับตำแหน่งสูงขึ้น ควรที่จะไล่ออก พร้อมเรียกร้องให้ทาง ผบ.ตร.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินคดีเกี่ยวกับอาญาและวินัย โดยเฉพาะมาตรา 157 ที่เป็นความผิดร้ายแรงโดยเร็ว และ ผบ.ตร.ต้องทำอย่างตรงไปตรงมา

ต่อมา พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมารับหนังสือกับกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่งได้รับหนังสือมติจากแพทยสภา ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ 2 หน่วยดำเนินการคือ กองวินัย จะมีการประชุมพิจารณามีความเห็นให้ ผบ.ตร.ได้รับทราบและปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนที่สองเป็นงานบริหารสำนักงานกำลังพล โดยสำนักงานกำลังพลจะได้มีความเห็น มีการพิจารณาและก็มีความเห็นเสนอ ผบ.ตร.เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

"ฉะนั้นใน 2 ส่วนนี้จะดำเนินการไม่ชักช้าและเป็นไปตามหลักการทุกอย่าง และขอให้ประชาชนรับทราบว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยึดมั่นในเรื่องของกฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ที่จะต้องปฏิบัติ" พล.ต.ท.อาชยนกล่าว

โฆษก ตร.กล่าวว่า ในเรื่องของการพิจารณาความดีความชอบ มีการเลื่อนตำแหน่ง ต้องขอนำเรียนว่า ในห้วงนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังที่จะเริ่มต้นในการทำกระบวนการแต่งตั้งประจำปี ซึ่งเป็นเพียงแค่ขั้นตอนแรก ขอยืนยันว่าในเรื่องของการพิจารณาของทุกๆ ขั้นตอนจะต้องปฏิบัติไปตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติปี 2565 และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งปี 2567 รายละเอียดทุกอย่างที่เกี่ยวข้องในเรื่องของหนังสือที่มายื่นกับองค์กรต่างๆ ก็จะได้ถูกนำมาพิจารณาใช้ใน 2 ระบบกระบวนการด้วยกัน

บี้งบกระจุกตัวบุรีรัมย์-สุรินทร์

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ถึงกรณีนายทักษิณเคยระบุการเมืองขณะนี้อาจต้องมีการกลืนเลือดหลายปี๊บในอนาคตจะมีโอกาสกลับมาจับมือกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) หรือไม่ว่า เป็นทัศนะของนายทักษิณ ตนไม่ขอก้าวล่วง แต่การเมืองต้องดูสถานการณ์ ณ ขณะนั้น ถ้าเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งยวดของประเทศชาติ พรรคเพื่อไทย (พท.) ก็จำเป็นต้องกลืนเลือด

ถามถึงการขอหารือการใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทของท้องถิ่น วงเงินประมาณ 40,000 ล้านบาท ในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 15 ก.ค.เพื่ออะไร นายภูมิธรมกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ตนดำเนินการจัดการแก้ปัญหาในกรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่น เพราะที่ผ่านมา 2-3 ปี มีการปรับงบประมาณท้องถิ่นอย่างที่มีการกระจุกตัว และมีปัญหาค่อนข้างมาก ซึ่งตนได้รับการร้องเรียนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยหลายคนมาขอเข้าพบ และได้พูดว่ามีหลายเรื่อง เช่น บาง องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.), องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ขออะไรไม่เคยได้เลย บางที่ขอมาได้ 1-3 ล้านบาท แต่ได้ยินมาว่าแถวๆ พื้นที่ จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ได้เพิ่มขึ้นจากที่เคยได้เป็นร้อยๆ ล้านบาท บางแห่งได้ถึง 700 ล้านบาท ต้องดูว่าที่ตัดสินใจเช่นนั้นอยู่บนฐานอะไร

นายภูมิธรรมกล่าวว่า มีการพูดคุยในที่ประชุม ครม. โดยรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ 2 คนคือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย และนายชัยชนะ เดชเดโช รมช.สาธารณสุข มีการถามว่าเรื่องเหล่านี้มีปัญหาหรือไม่ เพราะงบเป็นการกระจุกแต่ไม่กระจาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วแต่เราคงดูต่อ แต่ในงบประมาณปี 2569 ซึ่งยังไม่ได้มีการดำเนินการโดยทางสำนักงบประมาณก็บอกว่ามีปัญหาจริง บางส่วนเราจะต้องมีการพิจารณา และอาจจะมีการตัดตอนเพิ่มหรือลด อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องในชั้นกรรมาธิการ ที่จะต้องดำเนินการ

ถามว่า ใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า จริงๆ มีการส่งเรื่อง ซึ่งเกี่ยวข้องกับงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมดกลับมากระทรวงมหาดไทยไปที่สำนักงบประมาณ ซึ่งปรากฏว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เซ็นเอกสารไม่ตรงกับที่คีย์เข้าระบบ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ จึงส่งกลับมายังกระทรวงมหาดไทยให้พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ที่สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งตนก็เป็นห่วงว่ากลัวจะไม่ทัน แต่ก็ยังมีเวลาเหลืออยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษของนายภูมิธรรมเพื่อเป็นประธานงาน “วันชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)” ประจำปี 2568 มีนายเดชอิศม์ และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ผู้บริหารกรมการปกครอง หัวหน้าส่วนราชการ ภาคีเครือข่าย และ ชรบ. จำนวน 4,000 คน เข้าร่วมงาน

จากนั้นได้ประชุมมอบนโยบายขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งก่อนจะประชุมดังกล่าวระหว่างพักรับประทานอาหารกลางวัน นายภูมิธรรมได้เป็นตัวแทนข้าราชการกระทรวงมหาดไทยถือเค้กและอวยพรวันเกิดแก่นายอรรษิษฐ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิดอายุ 54 ย่างเข้าสู่ปีที่ 55

ทั้งนี้ เค้กดังกล่าวได้ปักเทียนทั้งหมด 9 เล่ม ทำให้ผู้สื่อข่าวแซวว่า “จะได้ก้าวหน้า” ทำให้นายภูมิธรรมแซวกลับว่า “ก้าวกว่านี้จะไปไหน จะไปเป็นรัฐมนตรีหรือ”

นายภูมิธรรมกล่าวคำอวยพรนายอรรษิษฐ์ว่า ตั้งแต่ที่ตนเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย แม้จะไม่นานมาก แต่ปลัดกระทรวงก็ได้ช่วยทำงานและผลักดันนโยบายสำคัญ ก็อยากให้ช่วยและตั้งใจทำงานเพื่อให้เกิดผลประโยชน์แก่ประชาชน ขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ มีความสุขในการทำงาน และขอให้ท่านช่วยทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ก็หวังว่าจะมีสุขภาพที่ดี สมหวังปรารถนาทุกประการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอรรษิษฐ์จบการศึกษาคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือสิงห์ดำรุ่น 42 ซึ่งเป็นรุ่นน้องของนายภูมิธรรม ที่จบการศึกษาคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สิงห์ดำรุ่นที่ 25

อ้วนเรียกประชุมผู้ว่าฯ-ผบก.

ต่อมานายภูมิธรรมเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่ห้องประชุม 1 โครงการชลประทานศรีสะเกษ ตอนหนึ่งระบุว่า ในวันที่ 17 ก.ค.นี้ จะมีการนัดประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งประเทศ และผู้บังคับบัญชา ผู้การจังหวัด ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะต้องเข้าร่วมประชุมทุกจังหวัด ไม่เข้าไม่ได้ เว้นแต่เรื่องเข้าเฝ้าฯ เจ้านาย หรือป่วยหนักจริงๆ หากไม่เข้าร่วมถือว่าไม่สนองต่อนโยบาย ตนจะย้ายทันที ทำแบบนี้ไม่ได้

"สิ่งที่ผมทำ ไม่ได้เกลียดชังอะไรทั้งนั้น แต่หากไม่ทำประเทศก็จะไม่มีความสงบ ผมเอาจริงตลอด ผมดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ขณะเดียวกันจากที่ผมได้ลงพื้นที่ ผู้การฯ ไม่ทำงานก็มี หรือจะเกษียณในปีนี้ก็เฉยชาไม่มา ร้ายกว่านั้นเป็นผู้อำนวยความสะดวกหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการยาเสพติด ผมอยากเห็นการแก้ไขปัญหานี้ อยากให้ทำควบคู่กันไปเลย คือผู้มีอิทธิพลทั้งหมดแหล่งมั่วสุม เพราะมีบางส่วนบางกลุ่มบางคนเข้าไปมีส่วนร่วมหรือหาผลประโยชน์จากสิ่งต่างๆ" นายภูมิธรรมกล่าว

ส่วนนายเดชอิศม์ กล่าวถึงการใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทของท้องถิ่นว่า พบมีการกระจุก บางพื้นที่เป็น อบต.ขนาดเล็ก ได้งบประมาณถึง 60-70 ล้านบาท แต่บางพื้นที่กลับไม่มีการจัดส่งงบประมาณลงไป ตนจึงท้วงติงว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องกระจายอย่างทั่วถึงเหมือนกันทุกพื้นที่

"พื้นที่ที่มีการกระจุกของงบประมาณ อย่างพื้นที่ จ.กระบี่ สตูล และบุรีรัมย์ กระจุกตัวจนดูน่าเกลียด" นายเดชอิศม์ระบุ

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนายเดชอิศม์ระบุงบท้องถิ่นกระจุกไปที่พรรค ภท.ว่า ให้เป็นเรื่องของกรมการปกครอง ส่วนท้องถิ่นกระทรวงมหาดไทยนำเสนอขึ้นมา ซึ่งรัฐมนตรีมีหน้าที่เซ็น เพราะเมื่อท้องถิ่นมีการเสนอขึ้นมาก็จะสรุปไปยังคณะกรรมการพิจารณาในส่วนของกระทรวงการคลัง ไม่เกี่ยวกับเป็นงบประมาณกระจุกหรือกระจาย

ถามถึงกรณีที่ระบุกระจายไปที่ อบจ.ของพรรค ภท. นายอนุทินกล่าวว่า เป็นข้อความที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะเดี๋ยวนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดและเทศบาล สามารถเสนองบโดยตรงไปที่สำนักงบประมาณได้ กระทรวงมหาดไทยมีอำนาจทำได้แค่องค์การบริหารส่วนตำบลเท่านั้น

ภท.ให้ ปชช.ตัดสินใครฝ่ายแค้น

ซักว่า ดูแล้วใครเป็นฝ่ายแค้นกันแน่ นายอนุทินยิ้มก่อนระบุว่า ให้ประชาชนตัดสิน และต้องไปดูว่างบไปอยู่กระทรวงไหนเยอะที่สุด ควรไปถามตรงนั้น เมื่อถามว่าเหนื่อยหรือไม่ที่มหาดไทยโดนจองกฐินเยอะ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่เหนื่อย เพราะออกมาแล้ว ไม่เหนื่อย ไม่เกี่ยวกัน ตนไม่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว

ถามว่า ส่วนหลังจากนี้เหมือนจะมีการเช็กบิลมาเรื่อยๆ นายอนุทินถามกลับว่า เช็กบิลแปลว่า “พวกผมทำอะไรผิดเหรอ มันไม่ใช่ พวกเราไม่เคยทำอะไรผิด"

นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรค ภท. กล่าวถึงกรณีมีการสั่งให้ตรวจสอบที่ดินเขากระโดงว่า ยินดีให้ตรวจสอบตามกระบวนการกฎหมายทุกอย่าง แต่เรื่องนี้ตนมั่นใจมากๆ ว่าความจริงจะกระจ่าง และสุดท้ายจะปกป้องผู้ที่ได้รับข้อกล่าวหานี้ เนื่องจากตนมั่นใจในเชิงข้อเท็จจริงว่าเป็นสิทธิ์และเป็นที่ของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่ที่ของการรถไฟฯ ความจริงจะกระจ่างในอนาคตอันใกล้

นายไชยชนกกล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน 3 สส.ของพรรค ภท. ที่มีมติโหวตสวนทางกับมติพรรคว่า ทั้ง 3 คนที่มีการโหวตนั่งรวมตัวกัน 3 คนห่างจากจุดของพรรคนั่งในสภา เบื้องต้นจากคำชี้แจงของทั้ง 3 คนที่ระบุว่าโหวตผิด ส่วนตนไม่เชื่อ แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรม โดยทางพรรคก็มีกระบวนการตรวจสอบโดยละเอียด เพราะครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่างูเห่า โดยมอบหมายนายชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นผู้ตรวจสอบ

"ขอบคุณที่ทำให้พวกผมได้เห็นว่าใครในพรรค ภท. ที่อาจจะมองเห็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวหรือเงินสำคัญกว่าชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สำหรับผมแล้วเรื่องนี้สำคัญที่สุด และในขณะนี้ทั้ง 3 คนทางพรรคไม่ให้ทำกิจกรรมร่วมกับพรรค ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับนายเอกราช ช่างเหลา” นายไชยชนกกล่าว

ถามว่า จะตรวจเส้นทางเงินหรือไม่ เลขาฯ พรรค พท.กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการการตรวจสอบ แต่ยอมรับว่าได้มีการพูดคุย 1 ใน 3 คนเบื้องต้นไปแล้ว โดยอยากให้คณะกรรมการเป็นคนตรวจสอบ ซึ่งไม่อยากให้เกิดการรั่วไหล สำหรับเส้นทางการเงินก็เชื่อว่าประชาชนได้ตื่นรู้ตื่นตัวและติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด หวังว่าทุกพรรคจะให้เกียรติความสนใจและตั้งใจกับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน เพราะสุดท้ายไม่เห็นสิ่งนี้ก็จะเป็นภัยกับท่านเอง

วันเดียวกัน มีรายงานความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช.มีมติให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจงในกรณีถุงยังชีพวันที่ 16 ก.ค.นั้น นายพีระพันธุ์ไม่ได้เดินทางไปตามกำหนด

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ชี้แจงว่า นายพีระพันธุ์มีภารกิจสำคัญ จึงได้มีหนังสือแจ้ง ป.ป.ช.แล้ว โดยขอให้ป.ป.ช.ส่งข้อกล่าวหามาทางไปรษณีย์ตามระเบียบ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายที่สามารถทำได้

"นายพีระพันธุ์ยืนยันพร้อมจะชี้แจงข้อกล่าวหาทุกประการ เพราะไม่ได้กระทำการใดตามที่ถูกกล่าวหา" น.ส.ศศิกานต์ระบุ.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

ไทรทัน และ เอ็กซ์แพนเดอร์ คว้าสองรางวัลโดย เจ.ดี.พาวเวอร์

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

มันดูโง่ครับ ‘หัวหน้าเท้ง’

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

พฤติกรรมที่น่ารังเกียจ

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘อีนี่’ ก็เป็นได้

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

‘ชาญชัย’ ร้องค้านทนาย ‘ทักษิณ’ ขอศาลไต่สวนลับ คดีชั้น 14 ชี้อาจจะขัดรัฐธรรมนูญ

ไทยพับลิก้า

จับหนุ่มเมียนมา โชว์สะเดาะกุญแจงัดห้องเช่า ลักทอง-เงินสด 8 หมื่น เล่นสล็อตหมดเกลี้ยง

เดลินิวส์

จ.ชัยภูมิ รถนั่งส่วนบุคคลชนประสานงา กลางถนนหมายเลข 225 บาดเจ็บนับสิบราย อาสากู้ภัยเร่งนำส่ง รพ.

สวพ.FM91

จี้รัฐเร่งแก้ปัญหา ‘ผู้ลี้ภัย’ ในค่าย ก่อนจะอดตาย-พังค่ายหนีออกมาทำงานผิดกฎหมาย

เดลินิวส์
วิดีโอ

แถลงกวาดล้างยาเสพติดภาคใต้ 3 วัน จับกุม 3 เครือข่าย ยึดยาบ้ากว่า 1.7 ล้านเม็ด-ไอซ์ 317 กก.

สวพ.FM91
วิดีโอ

หญิงกัมพูชาโวยทหารไทยตาเมือน มีรายงานพบเป็นหลานของ สมเด็จพระนโรดม สีหนุ จับตาสถานการณ์

BRIGHTTV.CO.TH

มนุษย์ป้าปล่อยหมาถ่ายเกลื่อนเหม็นคลุ้งหมู่บ้าน ตร.เตือนไม่สน-วอนหน่วยงานจัดการด่วน

เดลินิวส์

ตร.เกาหลีใต้ จับกุมครูและผู้ปกครอง บุกรุกโรงเรียนเพื่อขโมยข้อสอบ

JS100

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...