ดึงเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพ ผลผลิตข้าวโพดต่อไร่สูงขึ้น
นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศท.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จากการติดตามของ สศท.7 พบว่า กลุ่มแปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตำบลหินซ้อนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ตั้งแต่ปี 2561 ปัจจุบันมีสมาชิก 95 ราย พื้นที่ปลูก 5,000 ไร่ (ปลูกเฉลี่ย 50 ไร่/ครัวเรือน) โดยมีนายกิตติศักดิ์ เมฆา เป็นประธาน ด้านการดำเนินงานของกลุ่ม มีการให้สมาชิกที่มีแหล่งน้ำสำรองใช้ระบบน้ำหยด เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้ปุ๋ย ทำให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ดีและเร็วขึ้น ประหยัดเวลาในการรดน้ำและใส่ปุ๋ย สามารถควบคุมความชื้นได้ ส่งผลให้ต้นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เจริญเติบโตสม่ำเสมอ ลดปัญหาโรคที่เกิดจากความชื้นแฉะ อีกทั้งได้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการความร่วมมือ ไทย - เยอรมัน ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภาคเกษตรกรรม สนับสนุนให้ปรับระดับพื้นที่ด้วย Laser land leveler ให้ดินได้ระดับ ลดการพังทลายของหน้าดิน เก็บสะสมน้ำ ความชื้นในดินได้ดี และได้รับการสนับสนุนเครื่องตีใบข้าวโพดซึ่งช่วยให้ใบข้าวโพดป่น ลดการเผาในพื้นที่เกษตร เป็นปุ๋ยบำรุงดิน
ด้านผลดำเนินงานจากการประยุกต์ใช้ระบบน้ำหยดและเทคโนโลยี Laser land leveler ของกลุ่ม พบว่า เกษตรกรสามารถเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ตลอดทั้งปี ในรอบปีสามารถให้ผลผลิตได้ 2 รุ่น โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น 1 ปลูกช่วงเดือนเมษายน และเก็บเกี่ยวช่วงเดือนสิงหาคม ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น 2 ปลูกช่วงเดือนพฤศจิกายน และเก็บเกี่ยวช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้ง 2 รุ่นแล้ว มีการปลูกถั่วเขียวคั่นเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน ส่งผลให้เกษตรกรมีผลผลิตต่อไร่สูงขึ้นเฉลี่ย 1,800 กิโลกรัม/ไร่/รอบการผลิต หรือผลผลิตของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รวมทั้ง 2 รุ่น3.60 ตัน/ไร่ เมื่อเทียบกับเกษตรกรนอกกลุ่มที่ได้ผลผลิตเฉลี่ย 921 กิโลกรัม/ไร่/รอบการผลิต ผลผลิตรวม 1.84 ตัน/ไร่ ด้านการตลาด กลุ่มแปลงใหญ่ได้ดำเนินการจำหน่ายผลผลิตให้กับบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน ในปริมาณร้อยละ 50 ของผลผลิต โดยมีสำนักงานเกษตรอำเภอแก่งคอยให้คำแนะนำ ซึ่งบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) มีข้อตกลงการรับซื้อผลผลิตสูงกว่าลานรับซื้อทั่วไป ความชื้น 14.5% อยู่ที่ 100 บาท/ตัน หรือ 0.1 บาท/กิโลกรัม โดยจำกัดการรับซื้อไร่ละไม่เกิน 900 กิโลกรัม ส่วนผลผลิตอีกร้อยละ 50 กลุ่มแปลงใหญ่จำหน่ายให้กับลานรับซื้อทั่วไปในพื้นที่
นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังได้ดำเนินการทดสอบสายพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยนำเมล็ดพันธุ์ในพื้นที่มาทดลองปลูก และร่วมกันวิเคราะห์ผล เพื่อคัดเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ มีอัตราการงอกสูง และสามารถต้านทานโรคได้ดีอีกทั้งยังส่งเสริมให้สมาชิกใช้ปุ๋ยสั่งตัด ซึ่งเป็นการผสมปุ๋ยให้มีปริมาณธาตุอาหารตรงกับความต้องการของพืชช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ย ลดต้นทุนจากการใช้ปุ๋ยเกินความจำเป็น และยังส่งผลให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพดีขึ้นอีกด้วย
“กลุ่มแปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตำบลหินซ้อน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ถือเป็นต้นแบบในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การหลีกเลี่ยงการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของเกษตรกรในพื้นที่ที่สามารถพัฒนาแนวทางการเพาะปลูกให้ก้าวสู่ระบบการเกษตรที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง “
นอกจากนี้ กลุ่มยังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่สำคัญสำหรับเกษตรกรในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง เป็นศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรอำเภอแก่งคอย ทั้งในด้านการคัดเลือกสายพันธุ์ การใช้ปัจจัยการผลิตอย่างเหมาะสม และการพัฒนาองค์ความรู้ร่วมกันภายในกลุ่ม ส่งผลให้เกิดการพัฒนาทั้งในด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของสมาชิกอย่างเป็นรูปธรรม หากท่านใดสนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อหรือสอบถามรายละเอียดได้ที่กลุ่มแปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตำบลหินซ้อน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี หรือสามารถ ขอคำแนะนำได้ที่ นายกิตติศักดิ์ เมฆา ประธานกลุ่ม โทร 08 6-083- 4717