MEDEZE ปักธงรายได้ปี 68 แตะ 1 พันล้าน เดินหน้าวิจัย 2 โรคดันไทยสู่ Wellness Center
นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE กล่าวในงาน Market’s New Magnet : ผู้นำธุรกิจโลกยุคใหม่ จัดโดย “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่าปัจจุบันแนวคิดเรื่องการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด ได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในอเมริกา, ยุโรป, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และเกาหลี ขณะที่ในเอเชียก็เริ่มได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
"เรามีความเชื่อว่า วันนี้สามารถทำเด็กหลอดแก้วได้ รวมถึงเราสามารถแช่แข็งน้ำอสุจิหรือไข่ และนำกลับมาใช้ได้แม้เวลาผ่านไป 30 ปี ทำไมเราจะไม่สามารถเก็บรักษาสเต็มเซลล์ของเราเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อใช้ในอนาคต ในทางการแพทย์ การแช่แข็งสเต็มเซลล์เปรียบเสมือนการ “หยุดนาฬิกาชีวภาพ” (Biological Clock) เอาไว้" นายแพทย์วีรพล กล่าว
นพ.วีรพล กล่าวเสริมว่า จุดสูงสุดของคุณภาพชีวิต คือ "ตัวเซลล์ของเราเอง" ไม่ว่าวงการแพทย์จะพัฒนายาหรือสารชีวภาพใด ๆ ก็ตาม ก็ไม่สามารถทดแทนการใช้เซลล์ของเราในการซ่อมแซมตัวเราเองได้อย่างสมบูรณ์ ที่ผ่านมา 15 ปี มีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องให้ผู้ปกครองจัดเก็บสเต็มเซลล์ของเด็กตั้งแต่แรกเกิด เนื่องจากสเต็มเซลล์ที่เก็บไว้ตั้งแต่วันแรก จะคงคุณภาพความเป็น “เซลล์อายุ 0 ขวบ” เสมอ แม้เมื่อเจ้าของเซลล์มีอายุ 20, 30 หรือ 50 ปี ก็ตาม
ขณะที่ เป้าหมายการเติบโตในอนาคต MEDEZE อยากดันเป้ารายได้แตะ 1,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าสู่ธุรกิจ Biopharmaceutical อีกทั้งวิจัยเพื่อรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมและฟื้นฟูผิว หลังได้รับการอนุมัติเป็น 1 บริษัทผู้เดินหน้าโครงการ ATMPs Sandbox จากกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่ Medical and Wellness Center
โดยบริษัทยังมีความตั้งใจที่จะผลักดันให้ Health Economy (เศรษฐกิจสุขภาพ) กลายเป็นหนึ่งในกลไกหลัก หรือ Engine ตัวใหม่ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย เราเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพของภูมิภาคได้จริง
สิ่งที่เรามองเห็นคือ คนยุโรปและคนญี่ปุ่นควรจะเลือกใช้ชีวิตหลังเกษียณในประเทศไทย ใช้บริการด้านการแพทย์และสุขภาพของเรา ตราบใดที่ประเทศยังคงปลอดภัย ซึ่งเรามั่นใจว่าค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตที่ต่ำผนวกกับคุณภาพการแพทย์ที่ดีจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายที่มีความน่าสนใจยิ่ง
ในมิติของธุรกิจ เราเริ่มต้นโดยไม่ได้ตั้งเป้าที่จะเข้าสู่วงการ Biopharmaceutical โดยตรง แต่เน้นไปที่ BioBank อย่างไรก็ตาม ภายใน 5 ปีข้างหน้า เราเชื่อว่าบริษัทสามารถสร้างการเติบโตของกำไรเฉลี่ยได้ไม่ต่ำกว่า 25% ต่อปี และหากสามารถพัฒนาในสาย Biopharma ได้สำเร็จ การเติบโตย่อมสูงขึ้นอีกอย่างมีนัยสำคัญ
“เรามุ่งเน้นไม่ใช่แค่รายได้สูง แต่คือ กระแสเงินสดที่มั่นคง ความปลอดภัยของธุรกิจ และการสร้างความสุขให้กับทั้งองค์กรและสังคม พร้อมต่อยอดด้วย นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดจากจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้กับประเทศ” นายแพทย์วีรพล กล่าวทิ้งท้าย