"รมว.คลัง" ขอบคุณสภาฯไฟเขียวร่าง พรบ.งบประมาณปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านลบ.
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม ก่อนลงมติเมื่อคืนวานนี้ (15 ส.ค.)
ทั้งนี้ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติวาระ 3 ด้วยคะแนน เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 229 เสียง งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนนเสียง 0 จากจำนวนผู้ลงมติ 487 คน ผลการลงมติในครั้งนี้ถือว่าสภาฯ ผ่าน ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2569
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วาระที่ 2-3 ภายในกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่าย จำนวน 3,780,600 ล้านบาท
รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่ 2-3 ว่า ในฐานะผู้แทนรัฐบาล ขอขอบคุณท่านประธานและ ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติทุกท่าน ที่ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ และ การดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยรับงบประมาณให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงความจำเป็น ความต้องการในพื้นที่ และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ และผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการ
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าสำหรับข้อคิดเห็น คำแนะนำ ข้อเสนอ รวมทั้งความห่วงใย ที่ท่านสมาชิก ได้เสนอแนะไว้ตลอดระยะเวลาการประชุม รัฐบาลขอรับไว้ ด้วยความขอบคุณ และจะได้นำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงาน เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายงบประมาณมากที่สุด
นอกจากนั้น ขอขอบคุณท่านกรรมาธิการวิสามัญฯ ทุกท่านที่ได้เสียสละเวลา และร่วมมือกันในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายฉบับนี้ อย่างเต็มที่ จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการ รัฐบาลจะได้นำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงาน เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณมีความคุ้มค่าและ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน
"ผมขอให้ความมั่นใจว่า นโยบาย มาตรการ และงบประมาณ ที่ได้ผ่านการพิจารณาในครั้งนี้ จะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์และแผนงาน ที่กำหนด โดยรัฐบาลจะกำกับดูแล เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายที่กำหนดไว้ เพื่อขับเคลื่อนประเทศภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลและความมุ่งมั่นของท่านสมาชิกทุกท่าน ณ ที่แห่งนี้ต่อไป" รองนายกรัฐมนตรีย้ำ