ก่อนตัดสิน ‘นายกฯ’ อีกคดี
คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดไต่สวนในวันที่ 21 ส.ค.และวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค. ในคดีที่ สว. ระบุว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในการสนทนาทางโทรศัพท์กับ บิดานายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทำให้สังคมจับตาว่าผลจะออกมาอย่างไร
บีบีซีไทยเสนอบทวิเคราะห์ ที่มีความเห็นของ ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี นักวิชาการรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า รัฐธรรมนูญไทย 2540 และ 2550 ไม่ได้ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจริยธรรมนักการเมือง แต่ให้อำนาจประชาชนถอดถอนนักการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ไม่มี
นอกจากนี้ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 20,000 คน ยังสามารถรวมรายชื่อถอดถอน ได้เช่นเดียวกัน ขณะที่รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 กำหนดไว้ให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องรวมรายชื่อตั้งแต่ 50,000 คนขึ้นไป เพื่อยื่นเรื่องถอดถอน ก่อนจะมีรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 นั้น กระบวนการถอดถอนให้ไปฟ้องต่อ ป.ป.ช. เมื่อ ป.ป.ช.ไต่สวนเสร็จจะยื่นกลับมาที่วุฒิสภา จากนั้นจะเป็นกระบวนการที่คล้าย ๆ กับหลายประเทศก็คือ ให้เป็นกระบวนการรัฐสภา ให้อำนาจรัฐสภา และอย่าลืมว่าวุฒิสภาของรัฐธรรมนูญ 2540 มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด
ยังมีความเห็นจากแกนนำพรรคประชาชน ตั้งแต่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และหัวหน้าพรรคประชาชน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน หรือ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นหลายวาระโอกาส ตั้งแต่มีการสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่นายกฯ เป็นต้นมาว่าไม่เห็นด้วยที่ให้องค์กรอิสระ มีอำนาจตัดสินนักการเมือง จากการกระทำผิดที่ตีความได้กว้างขวางมาก อย่างประเด็นจริยธรรมหรือซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
โดยเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก และยุบสภา ให้ประชาชนตัดสิน แทนที่จะให้มีการพิจารณาโดยองค์กรอิสระ ที่ทำให้นายกฯ หลายคนพ้นจากตำแหน่ง ทั้งที่เป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
การเมืองไทยกลับเข้าสู่ปกติ หลังการเลือกตั้ง 2566 ก่อนหน้านั้น เป็นห้วงเวลาที่การเมืองอยู่ภายใต้อำนาจจากยุครัฐประหาร 2557 ที่ยืดยาว 9 ปี หรือเท่ากับ 2 วาระของการเมืองปกติ ที่ให้รัฐบาลทำหน้าที่ครั้งละ 4 ปี แต่การเมืองยังอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 ที่ยกร่างในยุครัฐประหาร และมีบทบัญญัติหลายเรื่องที่นักกฎหมาย นักวิชาการรัฐศาสตร์ ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะในเรื่องอำนาจขององค์กรอิสระ และที่มาของวุฒิสภา พรรคการเมืองหลายพรรค ประกาศแก้ไขและยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แต่เวลาผ่านไป 8 ปีแล้ว ยังทำไม่ได้ เพราะมีข้อจำกัดมากมาย ส่งผลต่อการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นการบ้านที่ท้าทายให้ฝ่ายประชาธิปไตย หาหนทางแก้ไขกันต่อไป
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ก่อนตัดสิน ‘นายกฯ’ อีกคดี
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net