โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

รบ.ห่วง ปชช. เริ่มเครียด เหตุความไม่สงบชายแดนไทย – กัมพูชา แนะ ดูแลสุขภาพจิต สร้างความเข้าใจ โทรปรึกษาที่ 1323

สยามรัฐ

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันที่ 23 ส.ค. 68 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลห่วงใยประชาชน จากการติดตามสถานการณ์เหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชาในช่วงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนต้องเผชิญต่อความกดดันทั้งร่างกาย จิตใจ ความหวาดกลัว ความตื่นตระหนก จากการพลัดพรากจากครอบครัว การอยู่ห่างบ้าน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนบางกลุ่มที่ต้องได้รับผลกระทบต่อจิตใจอย่างรุนแรงจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก จากเหตุการณ์ความไม่สงบในครั้งนี้

สำหรับปัจจัยและสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของประชาชน ทำให้เผชิญภาวะความเครียดและความกดดัน ประกอบด้วย 1.ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ไม่รู้ว่าปัญหาจะยุติลงเมื่อใด ทำให้เกิดความกังวลและความรู้สึกไร้ความมั่นคง 2. การพลัดพรากและการสูญเสีย แยกจากบุคคลอันเป็นที่รักสูญเสียบ้านหรือทรัพย์สิน เป็นการสูญเสียทั้งสิ่งที่ผูกพันทางใจและฐานะความเป็นอยู่ 3. แรงกดดันทางเศรษฐกิจ รายได้ลดลง การทำงานหยุดชะงัก ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายกลายเป็นความเครียดสะสม 4. สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการฟื้นฟูจิตใจ ที่อยู่อาศัยชั่วคราวหรือพื้นที่แออัด ขาดความเป็นส่วนตัว ทำให้ผ่อนคลายได้ยาก และ 5. ความกลัวและข่าวสารที่กระทบใจ การรับข่าวสารซ้ำ ๆ หรือข่าวลือที่ไม่เป็นจริง อาจทำให้เกิดความวิตกกังวลเกินจริง สถานการณ์เช่นนี้ หากขาดการดูแลที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะเครียดเรื้อรัง นำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหรือปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆ

นายอนุกูล กล่าวว่า กรมสุขภาพจิต แนะนำประชาชนสามารถสังเกตสัญญาณความเครียด ได้จากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรม เช่น นอนไม่หลับ เบื่ออาหารหรือกินมากผิดปกติ หงุดหงิดง่าย ใจสั่น ร้องไห้บ่อย หรือถอนตัวจากสังคม ไม่อยากพูดคุยกับใคร ซึ่งมีวิธีการดูแลตนเองเบื้องต้น ดังนี้ 1. ดูแลร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ 2. จำกัดการเสพข่าวสารที่กระทบใจ เลือกรับข่าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และกำหนดเวลาเสพข่าว เพื่อลดความตึงเครียด 3. ใช้เทคนิคผ่อนคลายจิตใจ หรือทำกิจกรรมที่ชอบ พูดคุยและขอความช่วยเหลือ เปิดใจเล่าความรู้สึกกับคนที่ไว้ใจ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญผ่านสายด่วนสุขภาพจิต 1323 และ 4. สร้างกิจวัตรประจำวันที่มีความหมาย วางแผนทำสิ่งเล็ก ๆ ที่สำเร็จได้ในแต่ละวัน เพื่อสร้างกำลังใจและความรู้สึกควบคุมชีวิต การดูแลจิตใจของเราเองคือการเสริมภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ และหากพบว่าความเครียดรบกวนชีวิตประจำวัน ควรขอความช่วยเหลือโดยไม่ลังเล

“รัฐบาลห่วงใยประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องในพื้นที่จังหวัดชายแดน ขอให้ประชาชนทุกคนเฝ้าระวังสุขภาพจิตของตนเองและคนใกล้ชิด และใช้ความเข้าใจเป็นพื้นฐานของการช่วยเหลือ เพื่อให้สังคมไทยผ่านพ้นความตึงเครียดในครั้งนี้ไปได้อย่างเข้มแข็งและปลอดภัย ทั้งนี้ หากรู้สึกเครียดหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” นายอนุกูล ระบุ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

กรมอุตุฯ เตือน! ฉ.4 พายุ “คาจิกิ” เข้าใกล้ไทย ฝนตกหนัก ลมแรง คลื่นสูง

25 นาทีที่แล้ว

วันหยุดสุดสัปดาห์สัมพัสการศึกษาดูงานการพัฒนาระบบบริหารงานกองบังคับการตำรวจนครบาล 9

33 นาทีที่แล้ว

อยากหุ่นสวยด้วยปากกาลดน้ำหนัก รู้ข้อเท็จจริงก่อนตัดสินใจ!

34 นาทีที่แล้ว

"ตม." บุกจับ 2 หนุ่มเลบานอน ซุก "ยาอี-โคเคน-เคตามีน" ยึดเสื้อเกราะ-อุปกรณ์ฝังเข็มคาร้านอาหารเกาะสมุย

52 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

พายุดีเปรสชันจ่อกระทบไทย ‘กรมชลประทาน’ ยกระดับเฝ้าระวัง 24-28 ส.ค.

The Bangkok Insight

ไชยาขอโทษสั่งปิดสภาฯ ยันทำงานเป็นกลาง ไม่เป็นเครื่องมือใคร

Thai PBS

เพื่อไทยมั่นใจ ‘อิ๊งค์’ กำชัยคดีคลิปเสียง ไม่เชื่อเก้าอี้นายกฯหลุดถึง ‘บิ๊กตู่-อนุทิน’

ไทยโพสต์

รัฐบาลเคาะเก็บค่าไฟฟ้าบ้านไม่เกิน 3.94 บาท/หน่วย ในงวดกันยายน-ธันวาคม 68

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

ไชยายันปิดประชุมสภา ไม่ใช่เกมการเมือง ขอโทษหากทำสังคมเข้าใจผิด

PostToday

‘รัชนก’ จวกการเคหะฯ ส่อป้องเอกชนงบซ่อม 303 ล้านไร้ความโปร่งใส

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม