น้ำตาลทรายดีกว่าสารให้ความหวานจริงไหม แบบไหนทำลายสุขภาพมากกว่ากัน
จากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศว่า บริษัท โคคา-โคล่า หรือที่คนไทยคุ้นเคยกันในชื่อ “โค้ก” จะเปลี่ยนจากการใช้น้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง (HFCS) มาเป็นน้ำตาลอ้อย หรือน้ำตาลทราย (Cane Sugar) ในการผลิตโค้กในสหรัฐอเมริกา โดยทรัมป์อ้างว่าได้หารือกับบริษัทแล้วว่าน้ำตาลอ้อยเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพกว่า อย่างไรก็ตาม โคคา-โคล่ายังไม่ได้ยืนยันการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างเป็นทางการ
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก่อให้เกิดการตั้งคำถามในหมู่คนรักสุขภาพว่า สารให้ความหวานทั้งสองชนิดนี้ ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่ และแบบไหนกระทบต่อร่างกายมากกว่ากัน
น้ำตาลทราย (Cane Sugar) และน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง (HFCS) ต่างกันอย่างไร
น้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง (High-Fructose Corn Syrup หรือ HFCS) และน้ำตาลอ้อยหรือน้ำตาลทราย (Cane Sugar) มีความคล้ายคลึงกันมากและส่งผลเสียต่อสุขภาพเหมือนกัน ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าการบริโภคเครื่องดื่มและอาหารที่ใส่น้ำตาลมากเกินไปเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลชนิดใดก็ตาม
จากบทความของ CBS News ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการได้ให้คำตอบที่ชัดเจนว่า การเปลี่ยนจากน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง (High-Fructose Corn Syrup) มาใช้น้ำตาลอ้อยหรือน้ำตาลทราย (Cane Sugar) ไม่ได้ทำให้น้ำอัดลมดีต่อสุขภาพขึ้นเลย
ทำไมทั้งสองแบบจึงไม่ต่างกันในสายตาของผู้เชี่ยวชาญ?
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลอ้อยหรือน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง ทั้งคู่ก็คือ "น้ำตาล" ในสายตาของร่างกาย เมื่อเราดื่มเข้าไป ร่างกายจะทำการย่อยและดูดซึมในลักษณะที่คล้ายคลึงกันมาก
น้ำตาลอ้อยหรือน้ำตาลทราย (Cane Sugar) และน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง (High-Fructose Corn Syrup) ชนิดที่ใช้ในการผลิตน้ำอัดลมมีองค์ประกอบหลักเหมือนกัน คือ ฟรุกโตส และกลูโคส ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน (ประมาณ 50:50)
แม้ว่าน้ำตาลทรายจะเป็นโมเลกุลคู่ที่รวมฟรุกโตสและกลูโคสเข้าด้วยกัน แต่เมื่อเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารของเราแล้ว ร่างกายจะสลายพันธะและแยกโมเลกุลทั้งสองออกจากกันในทันที ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ต่างจากการบริโภคน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง ซึ่งเป็นของเหลวที่ฟรุกโตสและกลูโคสไม่ได้เชื่อมติดกันอยู่แล้ว
ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่าประเด็นสำคัญที่ควรให้ความสนใจไม่ใช่ชนิดของน้ำตาลที่ใช้ แต่เป็นปริมาณน้ำตาลโดยรวมที่ร่างกายได้รับ การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากเกินไปเป็นประจำมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ได้แก่
- น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นและโรคอ้วน
- โรคเบาหวานชนิดที่ 2
- โรคหัวใจ
คริสโตเฟอร์ การ์ดเนอร์ นักวิทยาศาสตร์ด้านโภชนาการและศาสตราจารย์ด้านการแพทย์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้สรุปไว้อย่างชัดเจนว่า "ไม่ว่าจะเป็นน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูงหรือน้ำตาลทราย มันก็คือน้ำอัดลม และเราควรต้องดื่มให้น้อยลงมากๆ"
ดังนั้น การเลือกดื่มโซดาที่ใช้น้ำตาลอ้อยจึงไม่ได้เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพกว่า และไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆ ข้างต้นแต่อย่างใด
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : น้ำตาลทรายดีกว่าสารให้ความหวานจริงไหม แบบไหนทำลายสุขภาพมากกว่ากัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- น้ำตาล ชลิตา เสิร์ฟโนบราสวมชุดกรอบพระเครื่อง ลั่นซูมดีๆ อย่าเพิ่งดราม่า
- น้ำตาลทรายดีกว่าสารให้ความหวานจริงไหม แบบไหนทำลายสุขภาพมากกว่ากัน
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath