โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ชัวร์ก่อนแชร์ : 12 สัญญาณผิดปกติของลูกแรกเกิดที่ควรรีบพบแพทย์ จริงหรือ ?

ชัวร์ก่อนแชร์

อัพเดต 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 2.09 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์ 12 สัญญาณผิดปกติของลูกแรกเกิดที่ควรรีบพบแพทย์ ตั้งแต่ตัวเหลืองผิดสังเกต ไปจนถึงมีน้ำไหลออกจากรูหู จริงหรือ ?

🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ พญ.ลลิตวดี ทังสุภูติ กลุ่มงานกุมารเวชศาสตร์ – งานทารกแรกเกิด สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

“12 สัญญาณผิดปกติของลูกแรกเกิดที่ควรรีบพบแพทย์” สามารถเชื่อถือได้บางส่วน และต้องมีการลงรายละเอียดเพิ่มเติมในแต่ละอาการ

สัญญาณข้อ 1 : ตัวเหลืองผิดสังเกต ?

“ตัวเหลือง” เป็นอาการปกติที่สามารถพบได้ในเด็กทารกแรกเกิด แต่การดูเด็กทารกแรกเกิด “ตัวเหลือง” ด้วยสายตานั้น ความน่าเชื่อถือค่อนข้างน้อย เนื่องจากแต่ละคนมีการประเมินไม่เท่ากัน

อาการตัวเหลืองของเด็กทารกแรกเกิดที่พบมักจะเหลืองจากศีรษะลงไปที่เท้า ดังนั้น ถ้าเห็นว่าลูกมีอาการตัวเหลืองมากขึ้น แนะนำว่าควรพาไปพบแพทย์

สัญญาณข้อ 2: สะดือมีกลิ่นเหม็น มีหนองหรือมีเลือดออก ?

ภาวะนี้จะต้องสงสัยเรื่องของ “สะดืออักเสบ” เป็นอาการที่จะต้องพาไปพบแพทย์

สัญญาณข้อ 3: ลูกซึม ไม่ยอมดูดนม ?

“ซึม” และ “ไม่ยอมดูดนม” เป็นอาการที่ค่อนข้างกว้าง เกิดได้จากหลาย ๆ สาเหตุ

สาเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นได้จากอาการ “ซึม” และ “ไม่ยอมดูดนม” ก็คือเรื่องการติดเชื้อ ความเจ็บป่วย ไม่สบาย

ถ้าเด็กมีอาการซึมลง คุณแม่ปลุกลูกแล้วลูกไม่ยอมรับนมเลย หรือว่าดูดนมได้น้อยลง และเวลาดูดนมหลับตลอดเวลา ก็ควรพาไปพบแพทย์

สัญญาณข้อ 4 : อาเจียน ?

การอาเจียนของเด็กทารกพบได้หลากหลาย ในเด็กบางคนอาเจียนแหวะนมเป็นปกติ แต่ถ้าเด็กอาเจียนร่วมกับมีอาการท้องอืดมาก ซึม ไม่ถ่ายอุจจาระด้วย พวกนี้เป็นอาการที่ควรไปพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุว่ามีเรื่องภาวะลำไส้อุดตันร่วมด้วยหรือไม่

สัญญาณข้อ 5: ท้องเสีย ถ่ายหลายครั้งต่อวัน ?

เรื่องนี้ต้องเข้าใจก่อนว่าปกติเด็กทารกแรกเกิดจะมีอาการถ่ายได้บ่อยอยู่แล้ว

โดยเฉลี่ยเด็กทารกแรกเกิดอาจจะถ่ายประมาณ 4-8 ครั้งต่อวัน แต่การสังเกตลักษณะของอุจจาระเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เช่น อุจจาระที่มีเลือดปน มีมูกปน ลักษณะของสีที่เปลี่ยนไป เช่น สีซีดลง ควรพาไปพบแพทย์เพื่อประเมินดูว่ามีความผิดปกติอะไรบ้าง

สัญญาณข้อ 6: ท้องอืด ?

อาการ “ท้องอืด” ของเด็กทารกเกิดได้จากหลายสาเหตุมาก เช่น เด็กที่ดูดนมจะดูดลมเข้าไปด้วย จึงทำให้มีอาการท้องอืดได้ สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยการอุ้มเรอ หรือจัดท่าการเข้าเต้าให้ถูกต้อง

หลังจากแก้ไขเบื้องต้นแล้วอาการท้องอืดยังไม่ดีขึ้น ร่วมกับมีอาเจียน ไม่ถ่ายอุจจาระ อาจจะเป็นเรื่องของลำไส้อุดตัน

อาการท้องอืดในเด็กทารกที่เกิดขึ้นนั้นเด็กมักร้องกวนตลอดเวลา ไม่ยอมรับนม ดูดนมไม่ได้เลย ควรพาไปพบแพทย์

สัญญาณข้อ 7: ฝ้าขาวในปาก ?

“ฝ้าขาวในปาก” ที่พบมีทั้งเป็นลักษณะปกติและผิดปกติ

ปกติมักพบฝ้าขาวในเด็กที่กินนมแล้วเหลือคราบนมติดอยู่บริเวณลิ้น เบื้องต้นแนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดออก แต่ถ้าเป็นฝ้าขาวจำนวนมาก หนา เช็ดไม่ออก จะต้องเฝ้าระวังภาวะการติดเชื้อราในช่องปากและควรพาไปพบแพทย์

สัญญาณข้อ 8: มีน้ำไหลออกจากรูหู ?

เด็กทารกที่พบ “น้ำไหลออกจากรูหู” ถือว่าเป็นเรื่องไม่ปกติ

พ่อแม่จะต้องสังเกตลักษณะของน้ำที่ไหลออกมา ว่ามีกลิ่นผิดปกติหรือไม่ ลักษณะเป็นหนองหรือไม่ เพราะโดยปกติหูไม่ควรจะมีน้ำไหลออกมาได้

ดังนั้น ถ้ามีน้ำไหลออกมาได้ต้องสงสัยเรื่องภาวะการอักเสบติดเชื้อในช่องหู ควรพาไปพบแพทย์

สัญญาณข้อ 9: มีไข้สูง หรืออุณหภูมิต่ำผิดปกติ ?

อุณหภูมิปกติของเด็กทารกแรกเกิด อยู่ที่ประมาณ 36.5-37.5 องศาเซลเซียส

เมื่อไหร่ก็ตามที่อุณหภูมิสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับมีอาการอื่น ๆ เช่น ร้องกวน งอแง ซึมลง บ่งชี้ได้ว่าน่าจะมีเรื่องของการติดเชื้อเกิดขึ้น

ในขณะเดียวกัน อุณหภูมิต่ำผิดปกติของเด็กทารกแรกเกิดก็เป็นสัญญาณอันตรายสำหรับเรื่องของการติดเชื้อเหมือนกัน

สัญญาณข้อ 10: มีอาการชัก ?

ทารกแรกเกิดบางคนอาจจะมีอาการกระตุก ขยับสั่น หรือผวาเกิดขึ้นได้ แต่อาการเหล่านี้ต้องแยกออกจากอาการ “ชัก”

ถ้าเป็นอาการ “ปกติ” จับแล้วมักจะหยุด ถ้าเป็นอาการ “ชัก” ให้สังเกตว่าเด็กทารกอาจจะเกร็งเฉย ๆ มีลักษณะตาลอยค้าง หรืออาจจะมีลักษณะปั่นจักรยานหรือว่ายน้ำ เพราะฉะนั้น ถ้าพบลักษณะแบบนี้แนะนำให้จับลูกนอน ถ้าในปากมีนมหรือมีอะไรอยู่ให้พยายามจับเด็กตะแคง เพื่อป้องกันการสำลัก ถ้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็นอาการชักหรือไม่ ให้รีบพาลูกไปโรงพยาบาล

สัญญาณข้อ 11: ลูกดูดนมจนเหนื่อยหอบ ?

เด็กทารกแรกเกิด ถ้าดูดนมแล้วมีอาการแตกต่างไปจากเดิม เช่น ระหว่างดูดนมเด็กมีอาการตัวเขียว หรือดูดนมแล้วหายใจหอบมากขึ้น แสดงว่าอาจจะมีภาวะผิดปกติเกี่ยวกับปอดหรือหัวใจเกิดขึ้นได้ จะต้องรีบพาลูกไปโรงพยาบาลทันที

สัญญาณข้อ 12 : โรคตาที่พบในเด็ก ?

พ่อแม่จะต้องระวังเรื่องภาวะ “เยื่อบุตาขาวอักเสบ” ให้สังเกตจากขี้ตา ดูว่ามีสีเหลือง หรือสีเขียว และบริเวณตาขาวเปลี่ยนเป็นสีแดง หรือเปลือกตาบวม จะต้องพาไปพบแพทย์

📌สรุป : จริงสามารถแชร์ต่อได้ ✅ แต่มีรายละเอียดเพิ่มเติมที่พ่อแม่ดูแล้วควรจะต้องปรึกษากุมารแพทย์ควบคู่กัน เพื่อจะได้แก้ไขอาการต่าง ๆ ที่เกิดกับเด็กทารกได้อย่างถูกต้องและทันเวลา

สัมภาษณ์โดย ณัฐวัฒน์ จิตรมั่น

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : 12 สัญญาณผิดปกติของลูกแรกเกิดที่ควรรีบพบแพทย์ จริงหรือ ?

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ชัวร์ก่อนแชร์

ชัวร์ก่อนแชร์: เพนตากอนยืนยันพบโดรนจากนอกโลก จริงหรือ?

1 วันที่แล้ว

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : สาเหตุภาวะตาดับ

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วิดีโอ

รมว.กลาโหมกัมพูชา ย้ำตรึงกำลังชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ถอนทหาร-อาวุธ เว้นแต่ไทยถอยเช่นกัน เตรียมกำลังสำรอง หากบานปลาย

BRIGHTTV.CO.TH

กกพ.เสนอ 3 ทางเลือก ค่าไฟงวดสุดท้ายปี’68 ต่ำสุด 3.98 สูงสุด 5.10 บาท/หน่วย

ไทยพับลิก้า

“หมอเจด” เปิด 15 สัญญาณเตือนมะเร็ง! ท้องผูก–ตกขาว–ไอเรื้อรัง อาจไม่ใช่แค่อาการธรรมดา

เดลินิวส์

ยอมสึกแล้ว เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท อ้างเพื่อความสบายใจ ยังปัดไม่ปาราชิก

Khaosod

ทุนสำรองทองคำจากเหมืองในประเทศ หนุนเศรษฐกิจ–ท้าทาย Net Zero

ฐานเศรษฐกิจ

พิกัด กทม. สมุทรปราการ นนทบุรี ไฟฟ้าดับวันนี้ 18-20 ก.ค.นี้

ฐานเศรษฐกิจ

หมอชี้อาการนี้เป็นสัญญาณเงียบก่อนพาร์กินสัน อาจเตือนล่วงหน้าได้เป็นสิบปี!

เดลินิวส์

ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ ทุ่นระเบิดเขมร จับตาเป็นของใหม่ชัวร์มั้ย

BRIGHTTV.CO.TH

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...