กมธ.พาณิชย์ฯ วุฒิฯ เตือนรัฐคิดรอบด้านภาษีทรัปม์ อย่าตาม "อินโด-เวียดนาม" เสี่ยง SME พัง-กระทบความมั่นคง
"วิวรรธน์" ปธ.กมธ.พาณิชย์ฯวุฒิฯ ออกโรงเตือนรัฐบาลไทย อย่าได้เลียนแบบกลยุทธ์ "ยอมทุกอย่าง" เหมือนเวียดนาม-อินโดนีเซียทุ่มสุดตัวลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ จนเหลือ 0% แลกลดภาษีเหลือ 19% จากเดิม 32% ชี้ชัดส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อ SME ไทยนับแสนราย หวั่นลามไปถึงความมั่นคงของชาติ! แนะลดภาษีให้ผู้ส่งออก 10 % หรือนำเข้าสินค้าอย่างปุ๋ย 0%ได้
วันที่ 17 ก.ค.68 นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่อินโดนีเซียยอมหั่นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เหลือ 0% ซึ่งส่งผลให้สหรัฐฯ ลดภาษีให้เหลือ 19% จาก 32% ว่า ตนมีความเห็นว่าการเลียนแบบกลยุทธ์ของอินโดนีเซียและเวียดนามที่ "ยอมทุกอย่าง" นั้น จะส่งผลกระทบต่อ SME ของไทยอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในภาคเกษตรและปศุสัตว์ ซึ่งเป็นห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญของประเทศ หากเปิดเสรีมากเกินไป จะทำให้ SME ไทยที่อยู่ในภาวะลำบากอยู่แล้ว จากการที่เศรษฐกิจตกต่ำมาหลายปี ยิ่งประสบปัญหาหนักขึ้นไปอีก จนอาจถึงขั้นล้มหายตายจาก และกระทบถึงความมั่นคงทางทหารของประเทศได้
"ผมคิดว่าการเจรจาที่เปิดให้ซะหมดเลย แล้วไม่ได้มองถึง SME ของชาติ ของประชาชนที่กำลังลำบาก เพราะเศรษฐกิจของเราตกต่ำมาหลายปี เราต้องแก้ไขเรื่อง SME ให้สามารถอยู่รอดได้ เพราะหนี้สาธารณะเราเยอะ แม้มูลค่าการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 1.9 ล้านล้านบาท คิดเป็น 18% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด แต่เมื่อเทียบกับเวียดนามที่ส่งออกไปสหรัฐฯ ถึง 30% ผมคิดว่าไทยไม่ควรเลียนแบบเวียดนาม เนื่องจากต้องต่อรองในหลายสิ่งที่ไทยเสียเปรียบ ซึ่งจะกระทบกลุ่ม SME หรือความมั่นคงของภูมิภาค นายวิวรรธน์กล่าว
ประธานกมธ.พาณิชย์ฯ กล่าวอีกว่า ไทยควรยอมรับการถูกเก็บภาษีที่ 36% ซึ่งไทยสามารถชดเชยให้ผู้ส่งออกไปสหรัฐฯ ได้ ด้วยการลดภาษีช่วยเหลือ 10% และหาแหล่งเงินกู้ราคาถูกมาชดเชย โดยรัฐบาลต้องแบกรับภาระส่วนหนึ่ง เอกชนผู้ส่งออกต้องบูรณาการส่วนหนึ่ง และธนาคารต้องให้ความช่วยเหลืออีกส่วนหนึ่ง ซึ่งจะดีกว่าการยอมทุกอย่างแล้วมากระทบวงกว้าง โดยเฉพาะกับ SME ของไทย เพราะมีสินค้าบางประเภทจากสหรัฐฯ ที่ไทยสามารถให้ภาษี 0% ได้อย่างไม่มีปัญหา คือ ปุ๋ยเคมี ซึ่งจะส่งผลดีต่อเกษตรกรไทย ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง และช่วยแก้ปัญหา PM 2.5 ที่เกิดจากการขยายพื้นที่ปลูกข้าวโพดตามตะเข็บชายแดน เพื่อชดเชยการขาดแคลนในประเทศได้ เนื่องจากไทยมีความต้องการปุ๋ยเคมีประมาณ 7 ล้านตันต่อปี แต่ผลิตได้เพียง 4 ล้านล้านตันต่อปี การนำเข้า 3 ล้านล้านตันต่อปี จะช่วยลดการบุกรุกพื้นที่ป่า และลดฝุ่น PM 2.5 ได้ นอกจากนี้การเปิดเสรีในส่วนของ พลังงาน และ เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เครื่องยนต์หรือเครื่องบิน ก็เป็นสิ่งที่ไทยขาดแคลนและจำเป็นต้องนำเข้าอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยลดการเกินดุลการค้าได้
"ผมอยากให้ทีมประเทศไทยทำอะไรด้วยความรอบคอบ อย่าเร่งรีบ ผมว่าทั้งอินโดฯ หรือเวียดนาม มีส่วนเร่งรีบ และเลยกลายเป็นว่าสิ่งที่อยากจะได้ อย่างที่ทราบข่าวมาว่าเวียดนามต่อรองขอให้เหลือ 11% เท่านั้น แต่ได้มา 20% ตัวเองเสนอทุกอย่างเลย ในระยะยาว ไทยสามารถหาตลาดใหม่ๆ ได้ เช่น ตลาด EU หรือตลาดแอฟริกา ซึ่งอาจทดแทนตลาดสหรัฐฯ ได้บางส่วน แต่หากรัฐบาลสามารถชดเชยเรื่องภาษี หรือเรื่องดอกเบี้ย ทำให้ต้นทุนถูกลง 16% แต่ยังสามารถขายสินค้าได้ในราคาเดิม ก็ไม่จำเป็นต้องยอมทุกอย่าง เพราะจะกระทบ SME ไทยในที่สุด"นายวิวรรธน์กล่าว
#SMEไทย #ภาษีสหรัฐฯ #นโยบายการค้าของไทย #พาณิชย์ #เศรษฐกิจไทย #การค้าระหว่างประเทศ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์