จิรายุยันชายแดนสงบ แต่บึ้มสนั่น! ทหารลาดตระเวนเจ็บสาหัส
12 สิงหาคม 2568 เวลา 07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และในฐานะคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 11 สิงหาคม จนถึงช่วงเช้าของวันที่ 12 สิงหาคม 2568 สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนที่ครอบคลุม 7 จังหวัดยังคงอยู่ในภาวะสงบ ไม่มีเหตุปะทะหรือความรุนแรงใด ๆ เกิดขึ้นเพิ่มเติม
นายจิรายุระบุว่า กำลังพลจากทั้งสองประเทศยังคงตรึงกำลังตามแนวพื้นที่มั่นของแต่ละฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายไทยยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงร่วมกันจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee - GBC) อย่างเคร่งครัด ภายใต้แนวทางการใช้สันติวิธีและความมุ่งมั่นที่จะรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคง และอธิปไตยของประเทศเป็นหลัก
ในส่วนของประชาชนที่เคยอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงใน 4 จังหวัดชายแดน ขณะนี้ได้ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเข้าร่วมอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยระหว่างการเดินทางกลับ พร้อมกันนี้ โฆษกฯ ยังได้ฝากความห่วงใยไปยังพี่น้องประชาชนที่กลับเข้าสู่พื้นที่ว่า หากพบสิ่งของต้องสงสัยหรือพื้นที่ที่อาจยังไม่ปลอดภัย ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันทีผ่านสายด่วนหมายเลข 191 เพื่อให้หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) เข้าตรวจสอบและดำเนินการอย่างเหมาะสม
รัฐบาลโดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลาม และรักษาความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่ชายแดน ขณะเดียวกันก็เดินหน้าให้การดูแล เยียวยา และฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งในมิติของเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด นายจิรายุกล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้โดยรวมสถานการณ์ชายแดนจะยังไม่มีเหตุปะทะ แต่เมื่อเวลาประมาณ 09.10 น. ของวันเดียวกัน กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานว่า ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในพื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ขณะเจ้าหน้าที่จาก ร้อย ทพ.2610 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยในพื้นที่แนวชายแดน ได้เกิดเหตุ กับระเบิด ขึ้น ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสาหัส สูญเสียขาข้างหนึ่ง
ภายหลังเกิดเหตุ หน่วยแพทย์ทหารได้เข้าดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บส่งต่อยังโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาทันที ขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ และรอประเมินอาการอย่างใกล้ชิด
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่ายังมีความเสี่ยงจากวัตถุระเบิดตกค้างในพื้นที่ชายแดนบางส่วน แม้สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย