ตร.สอบสวนกลาง จับอดีตเจ้าอาวาส–อดีต ผอ.วิทยาลัยสงฆ์ พัวพันคดีทุจริตเงินวัด
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) สำนักงาน ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมกันขยายผลสืบสวนสอบสวน ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คดี ประกอบด้วย
คดีกรณีวัดใหญ่จอมปราสาท คือ นายทิวากรฯ อายุ 59 ปีอดีตเจ้าอาวาส ตามข้อกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ทุจริต เบียดบังทรัพย์ และละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และ 157 รวมถึงผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และ นายสันติชัยฯ อายุ 38 ปี คนรับใช้ของอดีตเจ้าอาวาส ในข้อหาสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐในคดีทุจริต เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147/ 157 และ 86 รวมถึงผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
อีกคดีคือ คดีกรณีวิทยาลัยสงฆ์พิจิตร จับกุม นายวิรัติฯ อายุ 60 ปี อดีตผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พิจิตร ในข้อหาทุจริต-ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2505 มาตรา 4 และ 11 รวมถึงผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ในกรณีของอดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท เป็นเรื่องเกี่ยวกับสีกากอล์ฟ ที่รู้จักกันตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งนำไปสู่การให้เงินหลายครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 7 ล้านบาท
ขณะที่นายสันติชัย มีส่วนในการร่วมทุจริตโดยอดีตเจ้าอาวาสที่โอนเงินของวัดไปให้บุคคลภายนอก คือ น.ส.วิลาวัลย์ และ นายสันติชัย โดยไม่มีหลักฐานว่าใช้ในกิจการของวัด
ส่วนกรณีของ อดีตผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พิจิตร เกี่ยวกับการรับเงินบริจาคซึ่งมีการออกใบอนุโมทนาบัตรให้ แต่ไม่มีการโอนเงินเข้าบัญชีของวิทยาลัยฯ ที่มีอยู่ 14 บัญชี และไม่พบหลักฐานการนำเงินเข้าในบัญชีที่ใช้รับบริจาค เมื่อสอบเส้นทางการเงิน พบว่ามีการนำเงินไปใช้ส่วนตัวหรือให้บุคคลอื่น ซึ่งเข้าข่ายพฤติกรรมทุจริต
จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
….
#ทุจริตเงินวัด
#ตำรวจสอบสวนกลาง