เกษตรฯเข้มปราบสินค้าเถื่อนทะลัก เพิ่มโทษหนัก-สแกนถี่ยิบสต๊อกกักตุน
รายงาน
หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช หรือ ฉก.พญานาคราช ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ชุดดังกล่าวจะทำหน้าที่ตรวจสอบสินค้าเกษตรทุกประเภทที่เข้ามาในราชอาณาจักรแบบผิดกฎหมาย สามารถตรวจสอบค้นทุกที่โดยไม่ต้องขอหมายศาล พร้อมยึดและดำเนินคดี โดยการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2566 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ได้ประเมินเป็นมูลค่าความเสียหายทางตรงที่กระทบต่อภาคอุตสาหกรรมเกษตรไทยไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ยังไม่รวมถึงมูลค่าทางอ้อม ซึ่งสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้างอีกนับไม่ถ้วน จึงเป็นสิ่งที่เราเห็นว่าจำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลให้มากขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อเกษตรกรไทยในประเทศ
ล่าสุด นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเปิด “ฉก.พญานาคราช ปรับเกมส์รุก ปราบสินค้าเกษตรเถื่อน” ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ได้ปราบปรามของเถื่อน ไม่ว่าจะเป็นการปราบปรามหมูเถื่อน สินค้าประมง และสินค้าพืชผิดกฎหมาย ที่บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กรมศุลกากร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี จากนี้จะมีการขับเคลื่อนนโยบายด้านการเกษตร สานต่อการทำสงครามสินค้าเกษตรเถื่อน ซึ่งจะมีความเข้มข้นขึ้น ทั้งการตรวจสอบสต๊อกสินค้าเกษตรภายในประเทศและควบคุมการนำเข้า ป้องกันการกักตุนและเก็งกำไร เพื่อสร้างกลไกราคาสินค้าเกษตรอย่างเป็นธรรม และเพื่อให้การดำเนินการประสบผลสำเร็จ การยกระดับและแก้ไขเรื่องของกฎหมาย กฎระเบียบจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ปรับปรุงกฎหมาย เพิ่มบทลงโทษ
นายอรรถกรระบุว่า เพื่อให้การเดินหน้าเป็นรูปธรรมมากขึ้น จึงได้มีมาตรการระยะสั้นภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ คือการปรับปรุงและยกระดับกฎหมาย ประกาศ ระเบียบต่าง ๆ ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกับนโยบายการปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย เพื่อให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเพิ่มบทลงโทษที่หนักขึ้น อาทิ
-กรมวิชาการเกษตร ปรับปรุงกฎหมายในความรับผิดชอบ 6 ฉบับ ได้แก่ 1) พระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 2) พระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ. 2542 3) พระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. 2518 4) พระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 5) พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และ 6) พระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 รวมทั้งระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเชื่อว่าผลลัพธ์จากการดำเนินงาน มาตรการปราบปรามอย่างเข้มงวดตั้งแต่ปี 2566 ส่งผลให้การลักลอบนำเข้าและการผลิตสินค้าผิดกฎหมายลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของศัตรูพืช และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและเกษตรกรไทย
-กรมประมง ปรับปรุงกฎหมาย 3 ฉบับ ให้ทันสมัยสอดคล้องกับบริบททางการค้า และเพิ่มบทลงโทษให้มีความรุนแรงขึ้น ได้แก่ 1) พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการทำการประมงผิดกฎหมาย ควบคุมการนำเข้า ส่งออก นำผ่านสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษปรับห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่าน ปรับปรุงจากพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 ซึ่งควบคุมเฉพาะการนำเข้าสัตว์น้ำ ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
2) พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด ควบคุมการนำเข้า ส่งออก นำผ่านสัตว์หรือซากสัตว์ ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ปรับปรุงจากพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3) พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสัตว์ป่า ควบคุมการนำเข้า ส่งออก นำผ่าน สัตว์ป่า ซากสัตว์ป่าและผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่า ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ปรับปรุงจากพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-กรมปศุสัตว์ ปรับปรุง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 เพิ่มบทลงโทษของผู้กระทำความผิดในการลักลอบนำเข้า-ส่งออก นำผ่านสินค้าปศุสัตว์ผิดกฎหมายให้โทษมีความรุนแรงขึ้น ผู้กระทำความผิดรวมถึงผู้เกี่ยวข้องต้องได้รับโทษทั้งหมด เป็นต้น
-สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้แก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนภารกิจ ฉก.พญานาคราช ด้านการควบคุมการนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกษตรให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
-การยางแห่งประเทศไทย ในฐานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ. 2542 ได้จัดทำข้อมูลจำนวนเกษตรกร/พื้นที่ผลิต/ปริมาณผลผลิตยางพาราสำหรับทวนสอบปริมาณผลผลิตยางพารา จัดทำแผนที่พิกัดจุดสถานที่รวบรวม/รับซื้อยางพารา และแผนที่พิกัดเส้นทางนําเข้าสินค้าเกษตร พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง/ผู้ประกอบการในพื้นที่
ติวเข้ม จนท.ประจำด่านตรวจ
การพัฒนาศักยภาพบุคลากรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเราพร้อมที่จะจัดให้มีการจัดอบรมเสริมความรู้ ทั้งภาคทฤษฎีเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และภาคปฏิบัติ เช่น การอบรมการใช้อาวุธ และยุทธวิธีต่าง ๆ เพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย อาทิ โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช” อบรมให้ความรู้การบังคับใช้กฎหมายและการฝึกปฏิบัติที่เข้มข้น แก่เจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร สารวัตรประมง และสารวัตรปศุสัตว์ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจสินค้าเกษตรจำนวน 45 นาย ระยะเวลารวมทั้งสิ้น 8 วัน ระหว่างวันที่ 15-22 สิงหาคม 2567 ณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ จังหวัดนครปฐม เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากการเข้าอบรมไปปรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีการอบรมเชิงปฏิบัติการ ที่จัดโดยหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายโดยตรงและหน่วยงานความมั่นคง ทั้งส่วนกลางและระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
นำเทคโนโลยีเสริมการทำงาน
นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเสริมการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็พร้อมที่จะนำเข้ามายกระดับการทำงาน อาทิ กรมวิชาการเกษตร นำระบบบริการออนไลน์ NSW (NEW DOA-NSW) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลกลางที่เชื่อมโยงข้อมูลและเอกสารทางการนำเข้า-ส่งออกสินค้าทางการเกษตรระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาใช้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการสามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ได้ครบวงจร ตั้งแต่การยื่นขออนุญาต การตรวจสอบเอกสาร การอนุมัติ ไปจนถึงการรายงานผลการตรวจสอบสินค้า
-กรมประมง พัฒนาระบบ Fisheries Single Window (FSW) ตั้งแต่ปี 2555 เพื่อเป็นช่องทางในการดำเนินกระบวนการต่าง ๆ อย่างครบวงจร ทั้งการยื่นคำขออนุญาต การตรวจสอบ การอนุญาต การประเมินความเสี่ยง ในการเปิดตรวจ การตรวจปล่อย การเก็บข้อมูลสถิติ และการเชื่อมโยงข้อมูลการอนุญาตผ่านระบบ National Single Window ไปยังกรมศุลกากร ซึ่งจะช่วยให้การปฏิบัติงานมีความถูกต้อง ความรวดเร็ว โปร่งใส และเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระหว่างหน่วยงาน ต่อมากรมประมงได้พัฒนาระบบเพิ่มเติมในส่วนของการตรวจสอบ ตามมาตรการรัฐเจ้าของท่า ระบบ Port State Measure (PSM) เพื่อตรวจสอบการทำการประมงตั้งแต่เรือจับ เรือขนถ่าย และระบบ Processing Statement Endorsement (PSE) เพื่อควบคุมการผลิตและการออกหนังสือรับรองเพื่อการส่งออก ปัจจุบันกรมประมงได้เชื่อมโยงทั้งสามระบบรวมเป็นระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าสัตว์น้ำนำเข้าของกรมประมง (Processing Statement and PSM Link System : PPS)
-กรมปศุสัตว์ ปรับปรุงระบบการเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Movement) ยกระดับการให้บริการ ภาครัฐดิจิทัลเต็มรูปแบบ e-Service, e-Payment, e-Signature ซึ่งจะทำให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของสัตว์และซากสัตว์ รวมถึงการออกใบอนุญาตที่ถูกต้องแม่นยำขึ้น อีกทั้งกรมปศุสัตว์กำลังดำเนินโครงการพัฒนาระบบตรวจติดตามยานพาหนะรถบรรทุกสัตว์และซากสัตว์ผ่านระบบ GPS Tracking (DLD e-Tracking) สามารถตรวจติดตามยานพาหนะที่มีการขอใบอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ได้ตลอดเส้นทางแบบ Real-Time ถ่ายภาพหลักฐานการผ่านด่านกักกันสัตว์ การเดินทางขนย้ายเมื่อถึงปลายทาง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เกษตรฯเข้มปราบสินค้าเถื่อนทะลัก เพิ่มโทษหนัก-สแกนถี่ยิบสต๊อกกักตุน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net