‘กูลิโกะ’ กางแผนฝ่าเศรษฐกิจ ผุดแบรนด์ใหม่-ลุยคอลแลบส์สปีดรายได้
กูลิโกะกางแผนครึ่งหลังปี’68 ชูกลยุทธ์ 3 ใหม่ ทั้งรสชาติ-แพ็กเกจจิ้ง-การตลาด ชิงสร้างเติบโตฝ่าเศรษฐกิจ เตรียมเปิดตัว 8 สินค้าใหม่เร็ว ๆ นี้ พร้อมส่งแอลฟี่-โคลลอนคอลแลบส์แบรนด์ดังสร้างรับรู้-ปั้นรายได้ B2B แย้มปี’69 ลุ้นได้เห็น 1-2 แบรนด์ใหม่ ย้ำกำแพงภาษีสหรัฐไม่กระทบโรงงานในไทยแม้เป็นฐานส่งออก
นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยว อาทิ ป๊อกกี้, เพรทซ์, แอลฟี่, โคลลอน, นมอัลมอนด์ โคกะ ฯลฯ ฉายภาพว่า ช่วงครึ่งหลังของปี 2568 นี้ ตลาดขนมในกลุ่มบิสกิตยังคงมีแนวโน้มเติบโต แต่โตในอัตราชะลอลงเมื่อเทียบกับปี 2567 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ส่งผลต่อการตัดสินใจของกลุ่มผู้บริโภคระดับแมส-กลางให้ระมัดระวังการจับจ่ายมากขึ้น
เห็นได้จากช่วง 6 เดือนแรกของปี’68 ตลาดบิสกิตโตประมาณ 7% ซึ่งต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปี’67 ที่เติบโตประมาณ 9.8% การลดลงนี้เห็นได้ชัดในช่องทางร้านสะดวกซื้อที่มีอัตราการเติบโตลดลงจากระดับ 10% ในปีที่แล้ว เหลือเพียง 5-6% แตกต่างจากช่องทางไฮเปอร์มาร์เก็ตและซูเปอร์มาร์เก็ตที่ยังเติบโตระดับเลขสองหลัก
ส่วนตลาดนมทางเลือกหรือนมจากพืชนั้นไปในทิศทางเดียวกัน โดยยังมีแนวโน้มเติบโตสูง แต่ในอัตราชะลอลง หลังช่วง 6 เดือนแรกตลาดโตถึง 33% ใกล้เคียงกับการเติบโต 35% เมื่อปี’67 สะท้อนว่าผู้บริโภคยังให้ความสนใจและพร้อมซื้อหามาบริโภค แม้นมทางเลือกจะมีระดับราคาสูงกว่านมวัวก็ตาม
ความใหม่ กุญแจสู้ปัจจัยลบ
นายเฉลิมพงษ์ย้ำว่า แม้ตลาดบิสกิตและนมทางเลือกจะมีแนวโน้มเติบโตแบบชะลอลง แต่ยังมีโอกาสสำหรับธุรกิจที่จะสร้างการเติบโตสวนทาง โดยอาศัยโอกาสจาก 2 พฤติกรรมผู้บริโภคที่กำลังมาแรง อย่างความต้องการสัมผัสความแปลกใหม่ที่มากกว่ารสชาติ แต่รวมถึงรูปแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ การนำเสนอแบบใหม่ ไปจนถึงการตลาด เช่น การจับมือกับพันธมิตร เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภค
ทั้งนี้ ผู้บริโภคยังสนใจในขนมสุขภาพเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์นั้น โฟกัสกับเรื่องสุขภาพ เห็นได้จากการอ่านฉลากโภชนาการ ดูปริมาณโปรตีน น้ำตาล และโซเดียม ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี
ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยเสริมจากภาคท่องเที่ยว หลังมีนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น โดยเฉพาะมาเลเซีย เพิ่มขึ้นมาทดแทนนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ชื่นชอบขนมรสชาติที่มีจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทย เช่น ป๊อกกี้รสทุเรียน, กล้วย, มะม่วง รวมถึงขนมรสชาติแบบไทย ๆ อย่างเพรทซ์รสลาบ, ต้มยำ, ไก่ย่าง และแกงเขียวหวาน
เปิด 8 สินค้า/1-2 แบรนด์ใหม่
ช่วงครึ่งหลังของปี’68 บริษัทจะใช้โอกาสเหล่านี้มาสร้างการเติบโต โดยเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ 8 รายการ ซึ่งจะมีจุดเด่นเป็นความใหม่ในด้านต่าง ๆ ทั้งรสชาติ, แพ็กเกจจิ้ง, การนำเสนอและการตลาด ซึ่งสอดรับกับเทรนด์ของผู้บริโภค ซึ่งบริษัทเริ่มทดลองเมื่อช่วงเดือนเมษายนปี’68 ด้วย “ป๊อกกี้โรส ลิมิเต็ด อิดิชั่น” ที่กล่องทั้ง 6 แบบสามารถนำมาต่อกันเป็นคู่ ๆ เพื่อแสดงเรื่องราว อาทิ การยื่นดอกกุหลาบ หรือของขวัญให้กัน ตามแนวคิด Pocky is connector. ไม่จำกัดเพียงคู่รัก แต่รวมถึงเพื่อนและความสัมพันธ์อื่น ๆ ด้วย
โดยสินค้าใหม่เหล่านี้จะทยอยเปิดตัวในจังหวะที่เหมาะสม อย่างเทศกาลต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับสินค้า อาทิ นมทางเลือกควรเปิดตัวในเทศกาลกินเจ ขณะที่ช่วงปลายปีเหมาะกับการเปิดตัวแพ็กเกจชุดกิฟต์เซต มากกว่าสินค้าใหม่ เพราะทั้งร้านค้าและผู้บริโภคมุ่งความสนใจกับโปรโมชั่นและการหาของขวัญ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างเตรียมการสำหรับเปิดตัวแบรนด์ใหม่อีก 1-2 แบรนด์ในปี’69 อีกด้วย
“กุญแจสำคัญในการพัฒนาสินค้าของกูลิโกะ คือ Innovation Workshop ซึ่งเป็นเวิร์กช็อปจัด 1-2 ครั้งต่อปี เพื่อพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์และวิธีการนำเสนอ โดยนอกจากฝ่ายวิจัยพัฒนาและการตลาดแล้ว ยังเชิญพันธมิตรซัพพลายเออร์ เช่น ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ และผู้ผลิตเครื่องปรุง เข้าร่วมด้วย โดยปลายปี’68 นี้จะจัดอีก 1 รอบ”
เดินสายคอลแลบส์แบบวิน-วิน
ด้านยุทธศาสตร์หลักสำหรับผลักดันรายได้ในส่วนของลูกค้าองค์กรช่วงครึ่งหลังของปี 2568 นี้ จะไปในทิศทางเดียวกัน ด้วยเน้นกลยุทธ์สร้างความแปลกใหม่แบบวิน-วิน โดยเดินสายคอลลาบอเรชั่นหรือคอลแลบส์กับผู้แปรรูปอาหารรายต่าง ๆ โดยนำสินค้าแบรนด์อื่น ๆ ในพอร์ตของกูลิโกะนอกเหนือจากป๊อกกี้ เข้าไปเป็นวัตถุดิบในการผลิต อาทิ แอลฟี่ x EZYGO, แอลฟี่ x เลอแปง รวมถึงแบรนด์โคลอน จะมีสินค้าคอลแลบส์ออกมาเร็ว ๆ นี้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้เพื่อขยาย-ย้ำการรับรู้แบรนด์เหล่านี้ไปยังผู้บริโภค ทั้งกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ ๆ พร้อมกับสร้างรายได้ หลังช่วงเดือนเมษายน ‘68 เปิดตัวร่วมมือกับอีซี่โกผลิต “ช็อกบอล ช็อกโก & สตรอว์เบอรี่ EZY-Sweet Gold” ซึ่งเป็นเค้กช็อกโกแลตและเค้กสตรอว์เบอรี่ เคลือบด้วยช็อกโกแลตแอลฟี่ และได้ผลตอบรับดี พร้อมกับพัฒนาแพ็กเกจจิ้งสำหรับการใช้งานระดับองค์กร เพื่อรองรับแผนคอลแลบส์นี้อีกด้วย
การคอลแลบส์นี้ยังรวมไปถึงด้านการตลาด อย่างการจับมือ GMM TV ผลิตรายการ Pocky Idol ที่เป็นการค้นหาศิลปินหน้าใหม่ในกลุ่มผู้มีอายุ 15-24 ปี หรือผู้ที่เกิดระหว่างปี 2544-2553 ตามเป้าหมายเข้าถึงผู้บริโภค Gen Z ด้วยการให้พื้นที่สำหรับแสดงออก
ขณะเดียวกันบริษัทจะเพิ่มความถี่ในการประสานงานกับหน่วยงานภายในและพันธมิตรภายนอกให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการจุดขายให้มั่นใจว่าสินค้าไม่ขาด และผู้บริโภคสามารถจดจำโฆษณาได้เมื่อมาถึงหน้าชั้นวาง ซึ่งเป็นจุดตัดสินใจสำคัญของตลาดขนม
เช่นเดียวกับการรับมือราคาวัตถุดิบ อาทิ โกโก้ ที่พุ่งสูงขึ้น ด้วยการประสานฝั่งโรงงานปรับสัดส่วนการผลิตให้เหมาะสม ลดต้นทุนจากของเหลือลง ชดเชยกับราคาวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้น เช่นเดียวกับการซื้อล่วงหน้าเพื่อล็อกราคา และการหาวัตถุดิบจากหลายแหล่ง
มั่นใจนโยบายภาษีไม่กระทบ
นายเฉลิมพงษ์ยืนยันว่า แม้โรงงานกูลิโกะในไทยจะเป็นหนึ่งในฐานการส่งออก ซึ่งรวมถึงการส่งไปยังตลาดสหรัฐ แต่มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐอเมริกาจะส่งผลกระทบต่อโรงงานในไทยและภาพรวมของกูลิโกะเพียงเล็กน้อย เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดสหรัฐนำเข้าสินค้ากูลิโกะจาก 3 ประเทศ คือ ไทย, อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น โดยสัดส่วนการส่งจากไทยไปสหรัฐไม่สูงนัก ทำให้หลังจากนี้สามารถปรับสัดส่วนการส่งออกโดยใช้ประเทศที่อัตราภาษีต่ำเป็นฐานผลิตหลักสำหรับตลาดสหรัฐ ส่วนโรงงานในไทยอาจเพิ่มการส่งออกไปยังประเทศอาเซียนมากขึ้นแทน
นอกจากนี้หากในอนาคตตลาดอาเซียนเติบโตดี สามารถขยายกำลังผลิตของโรงงานในไทยเพิ่มได้อีก เนื่องจากยังสามารถขยายกะงาน และมีพื้นที่เหลือขยายไลน์การผลิตได้อีกด้วย
ทั้งนี้บริษัทยังวางเป้าที่จะให้ไทยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัท เอซากิ กูลิโกะ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในญี่ปุ่นไปสู่เป้าหมายรายได้ 91,000 ล้านเยน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘กูลิโกะ’ กางแผนฝ่าเศรษฐกิจ ผุดแบรนด์ใหม่-ลุยคอลแลบส์สปีดรายได้
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net