“ภูมิธรรม” งานเข้า! ปธ.องค์กรต้านโกงขอนแก่น แจ้งความ ชี้ เข้าข้างเขมร ทำชาติเสียเอกราช
ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความ “ภูมิธรรม” มาตรา 119 อ้างว่า ปล่อยชาติเสียอธิปไตยและให้สัมภาษณ์เข้าข้างกัมพูชา
นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหลายมาตรา โดยเฉพาะมาตรา 119 ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต โดยกล่าวหาว่านายภูมิธรรมมีพฤติกรรมปล่อยปะละเลยจนทำให้ชาติเสียอธิปไตย และให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่เป็นการเข้าข้างประเทศกัมพูชา
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ได้เดินทางเข้ายื่นเอกสารต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายภูมิธรรม เวชยชัย โดยอ้างอิงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119, 120, 124 ซึ่งเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร และมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษในครั้งนี้เป็นเพราะเอกราชและอธิปไตยของชาติคือสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีกลับไม่ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ มีการปล่อยปะละเลยจนทำให้ต่างชาติสามารถรุกรานประเทศไทยได้
“ถ้ามองดูการทำงานฝ่ายทหารจะเห็นว่าฝ่ายไทยเข้าไปยึดพื้นที่กลับมา นั่นแปลว่าเราเสียเอกราชไปแล้ว แต่ว่าทหารได้ไปยึดกลับมา 11 แห่ง ยืนยันโดยทหาร การรักษาการนายกรัฐมนตรีต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตาย ทรัพย์สินเสียหาย นั่นคือความร้ายแรงของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี”
ประเด็นที่ทางองค์กรฯ หยิบยกขึ้นมาเป็นหลักฐานสำคัญ คือบทสัมภาษณ์ของนายภูมิธรรมที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดน โดยเฉพาะประเด็นที่นายภูมิธรรมกล่าวถึงกรณีที่โรงพยาบาลในฝั่งไทยถูกยิงด้วยจรวด BM-21 ว่าเป็นการยิงแบบกระจาย ไม่ได้ล็อกเป้า และไม่ได้ตั้งใจยิงใส่โรงพยาบาล
นายตุลย์กล่าวว่า “คนที่จะตอบแบบนี้คือฝั่งเขมร แต่นายภูมิธรรมตอบแบบนี้เสมือนว่าไปตอบแทนฝั่งกัมพูชาแล้ว และมีบางส่วนจะนำนายกภูมิธรรมเข้าสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ ถ้าสมเด็จฮุนเซนเอาบทสัมภาษณ์นี้ไปบอกศาลว่า รักษาการนายกรัฐมนตรีไทยตอบแล้วว่าไม่ได้ตั้งใจ ศาลจะฟังใคร เพราะเราไปตอบเองซะแล้ว” ซึ่งทางองค์กรฯ มองว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการเข้าข้างศัตรูอย่างร้ายแรง เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 119 ที่มีโทษถึงประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรมพูดถึงทหารที่ขาขาดจากการเหยียบทุ่นระเบิดว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นคำพูดที่กระทบกระเทือนจิตใจคนไทยและทหารที่เสียสละอย่างมาก
ทางองค์กรฯ ยืนยันว่าการมายื่นเรื่องในครั้งนี้ เป็นการทำหน้าที่ของปวงชนชาวไทยตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 50 บัญญัติไว้ และต้องการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง