ไทยหอบคลิปแจ้งคกก.อนุสัญญาออตตาวา หลักฐานมัดกัมพูชาวางกับระเบิด
วันนี้ (21 สิงหาคม 2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องการปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวาเป็นการเฉพาะ (Committee on Cooperative Compliance) ณ นครเจนีวา วันที่ 22 ส.ค. นี้ผู้แทนของไทยจะร่วมเสนอข้อเท็จจริงจากหลักฐานคลิปวิดีโอที่ตรวจพบในโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ตกอยู่ในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ที่แสดงให้เห็นการถือและสาธิตวิธีใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงและอนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศจะนำหลักฐานคลิปวิดีโอดังกล่าว ไปประกอบการชี้แจงฟ้องกัมพูชาในกรอบอนุสัญญาออตตาวาด้วย
"คลิปที่พบเป็นทหารกัมพูชา 100% จะอ้างว่าไม่เคยมีระเบิดสังหารบุคคลไม่ได้ ขณะที่ปรากฏในภาพก็ยืนยันชัดเจน 100% ว่าเป็นทหารกัมพูชา ส่วนทะเบียนมอเตอร์ไซค์ที่เห็นในคลิป ไม่ใช่ทะเบียนของประเทศไทย 100% เพราะทะเบียนของกัมพูชาเป็นแนวนอนแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีภาษาอังกฤษประกอบ แต่ของไทยเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมจตุรัส มีภาษาไทยกำกับจังหวัดชัดเจน ซึ่งตรวจสอบเลขทะเบียนดังกล่าวแล้ว พบว่าเป็นของกัมพูชา 100%"
ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา 7 จังหวัด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันพุธที่ 20 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 06.00 น. วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568) เหตุการณ์ปกติ ไม่ปรากฎเหตุการณ์ที่สำคัญ กองทัพไทยยังคงตรึงกำลังตามแนวที่มั่นทั้ง 11 จุด พร้อมเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและป้องกันไม่ให้ใครล่วงล้ำ
ขณะที่ ศบ.ทก.ยังคงตรวจพบการบินอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลขอย้ำว่า แม้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จะออกประกาศผ่อนปรนอนุญาตให้สามารถทำการบินหรือปล่อยโดรนทุกประเภทได้
แต่ยังคงยกเว้นพื้นที่ตามประกาศฉบับที่ 4 ของ กพท. อาทิ จังหวัดสระแก้ว ตราด บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ จันทบุรี สุรินทร์ และอุบลราชธานี ฯลฯ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
นายจิรายุ กล่าวว่า ในช่วง 18 -20 สิงหาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลโดยกองบัญชาการกองทัพไทยได้นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ลงพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นการปฏิบัติตาม GBC เมื่อ 7 ส.ค. 68 ซึ่งคณะได้เข้าสังเกตการณ์ทั้งในพื้นที่พลเรือนที่ไทยได้รับความเสียหายจากการโจมตีจากกัมพูชา รวมถึงพื้นที่ที่กัมพูชาได้ลอบวางกับระเบิดในดินแดนของไทย ซึ่งเป็นการละเมิดมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
โดยรัฐบาลขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้ ช่วยเปิดเผยความจริงให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อให้คณะผู้สังเกตการณ์ได้นำข้อมูลดังกล่าวแจ้งไปยังประเทศของตนต่อไป และยังคงเดินหน้าแสดงหลักฐานเชิงประจักษ์แก่ประชาคมระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้