โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ภาษีสหรัฐ 19% หุ้นกลุ่มไหนได้ประโยชน์

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

*** หลังจาก สหรัฐอเมริกา และ ไทย สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ซึ่งสหรัฐ จะเรียกเก็บจากไทยในอัตรา 19% โดยที่ไทยก็จะตอบแทนด้วยการลดภาษี และกฎระเบียบการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดภาษี 0% ให้สินค้าสหรัฐ กว่า 10,000 รายการ เช่น เครื่องมือแพทย์-ชิ้นส่วนยานยนต์ การเปิดทางลงทุน EEC โดยให้ fast-track และสิทธิ BOI

การดึงบริษัทสหรัฐ ลงทุนพลังงานสะอาด-เซมิคอนดักเตอร์-โลจิสติกส์ การเตรียมซื้อ LNG และ เครื่องบิน Boeing การลดเกินดุลการค้า 70% ภายในปี 2573 การรับเกณฑ์การคำนวณมูลค่าในประเทศ (Regional Value Content : RVC ใหม่ โดยใช้กฎถิ่นกำเนิดสินค้าที่เข้มขึ้น เพื่อป้องกันจีนใช้ไทยหลบภาษี การลดภาษีบริการดิจิทัลชั่วคราว

นอกจากนี้ ยังมีการผ่อนคลายขั้นตอนสุขอนามัย-ศุลกากร ซึ่งจะเป็นการเปิดทางให้สามารถนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐ และการขยายโควตาพืชเกษตรสหรัฐ เช่น การนำเข้าข้าวโพด–บาร์เลย์–ถั่วเหลืองเพิ่ม สนับสนุนอาหารสัตว์ไทย และเกษตรกรสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเกษตรกรของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทั้งนี้ภายหลังการรับรู้อัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ ที่แม้ว่าจะใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่ง แต่ก็ทำให้ตลาดหุ้นไทย เกิดภาวะ Sell On Fact จนดัชนีหุ้นไทยปรับร่วงลงไปถึง 24 จุด ในวันแรก ที่รับรู้ข่าว แต่หากมองตลาดหุ้นไทยในภาพรวม จะพบว่า มีนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จากหลายสำนัก แสดงความเห็นตรงกันว่า ดัชนีหุ้นไทยจะได้ไปต่อ
ว่าแต่นักวิเคราะห์แต่ละสำนักมองกันอย่างไรบ้าง….

เริ่มจาก บล.กรุงศรี ซึ่งระบุว่าอัตราภาษี 19% ของไทยนั้นต่ำกว่าคู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนาม (20%) และ ไต้หวัน (25%) ทำให้สินค้าไทยมีต้นทุนที่แข่งขันได้ดีกว่า แม้จะมีภาระต้นทุนทางภาษีที่เพิ่มสูงขึ้นจากในอดีตมาอยู่ที่ระดับ 19% แต่ผลกระทบเชิงลบดังกล่าว ได้ถูกสะท้อนเข้าไปในราคาหุ้นของผู้ประกอบการส่วนใหญ่แล้ว

ขณะเดียวกัน ภาคการส่งออกของไทยกลับได้รับประโยชน์ในเชิงเปรียบเทียบ โดยเฉพาะสินค้าที่ประเทศไทยไม่ได้ผลิตเอง จะมีต้นทุนการนำเข้าที่ลดลงอย่างชัดเจน โดยกลุ่มพลังงาน และ ปิโตรเคมี เช่น PTTGC และ GPSC จะได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซธรรมชาติ และพลังงานที่นำเข้าในราคาที่ต่ำลง

ขณะที่กลุ่มอาหารและเกษตร ผู้ผลิตอาหารสัตว์และผู้ส่งออกเนื้อสัตว์ เช่น GFPT และ CPF จะมีต้นทุนที่ลดลงจากการนำเข้าถั่วเหลืองและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในราคาที่ถูกลง

ส่วนทาง บล.บัวหลวง ประเมินผลกระทบทางตรงจำกัด สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ ที่ส่งออกไปสหรัฐฯ ราว 0.9% ของรายได้รวม ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มส่งออกอาหาร (TU ราว 39% ของรายได้ส่งออกไปสหรัฐ) / อาหารเลี้ยงสัตว์ (ITC ราว 50%) กลุ่มส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA ราว 25%, KCE ราว 23%, HANA ราว 25%) และกลุ่มส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง (STA ราว 15%)/ถุงมือยาง (STGT ราว 20%)

ทั้งนี้ประเมินว่า กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีทรัมป์ ที่มีสัดส่วนส่งออกไปสหรัฐ สูงๆ แต่มีความสามารถในการแข่งขันที่ดี เช่น กลุ่มอาหารTU (ส่งออกไปสหรัฐฯ ราว 39%), อาหารสัตว์ ITC (ราว 50%) มองเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ บล.เอเซีย พลัส ปรับกลยุทธ์การลงทนในวันที่รู้ตัวเลขภาษีของไทย อยู่ระดับ 19% ถือว่า ไทยไม่ได้เสียเปรียบประเทศอื่น โดยคาดว่า SET Index ระดับปัจจุบัน น่าทยอยสะสมหุ้น โดยแนะนำแบ่งกลยุทธ์การลงทุน เป็น 2 ธีม ได้แก่ หุ้น SET100 กลุ่ม Tariff Play ที่ราคาปรับฐานลงมาลึกตั้งแต่ต้นปี

เช่น นิคมอุตสาหกรรม (AMATA, WHA) กลุ่มส่งออก ITC, STGT, STA, TU, CPF, BTG, TFG หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า และการลดดอกเบี้ย เช่น BH, BDMS, ERW, CENTEL, MTC, SAWAD

อย่างไรก็ตาม แม้ภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ที่ไทยถูกเก็บจะอยู่ในอัตรา 19% แต่ก็มีความชัดเจนอีกเช่นกันว่า ไม่ใช่แค่ประเทศไทยที่ถูกเรียกเก็บภาษีที่ว่า เนื่องจากสหรัฐ ได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐ เพียงใด

นอกจากนี้สหรัฐ ยังประกาศว่า จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 40% สำหรับสินค้าสวมสิทธิผ่านทาง (transshipment) ซึ่งทางสหรัฐ มีความกังวล โดยเฉพาะสินค้าที่แหล่งผลิตที่มาจาก “จีน” จากทุกประเทศที่เข้าข่าย “สวมสิทธิ” ตามเกณฑ์การพิจารณาของสหรัฐฯ

เจ๊เมาธ์บอกเลยว่า ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้น …งานนี้เรื่องไม่จบง่ายๆ ถึงตอนนี้ระเบียบโลกได้เปลี่ยนไปแล้วนะคะ โลกในวันนี้ “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร” ทุกอย่างเปลี่ยนไป ประเทศไทยก็ถึงเวลาที่จะต้อง “คิดใหม่ทำใหม่” ต้องเตรียมตัวเอาไว้แล้วเช่นกันค่ะ

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย…เจ๊เมาธ์ ฐานเศรษฐกิจออนไลน์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

ราคาทองวันนี้ 6 สิงหาคม 2568 เปิดตลาดราคาทองปรับเพิ่มขึ้น 150 บาท

41 นาทีที่แล้ว

'ดร.ยุ้ย-เกษรา' เปิดสูตร พา SENA ก้าวข้ามกับดักเศรษฐกิจ

46 นาทีที่แล้ว

“รฟม.” สแกนแผนคืบหน้า “รถไฟฟ้าสายสีส้ม” ลุยจัดหารถ 30 ขบวนให้บริการ

48 นาทีที่แล้ว

ไฟดับสะพานควายล่าสุด กฟน.แจงไม่ใช่ก่อการร้าย-ภัยคุกคามไซเบอร์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่นๆ

เงินบาทเช้านี้ “แข็งค่า” เปิดตลาด 32.35 บ./ดอลลาร์

ข่าวหุ้นธุรกิจ

กฟน. เคลียร์! ไฟดับ “สะพานควาย-พญาไท” ไม่ใช่ก่อการร้ายหรือโจมตีไซเบอร์

ข่าวหุ้นธุรกิจ

SCB Financial Markets คาดกรอบเงินบาท 32.30-32.55 บ./ดอลลาร์

ข่าวหุ้นธุรกิจ

หุ้นเวียดนามพุ่งแรงสุดในรอบ 4 ปี แซงทุกตลาดในเอเชีย รับอานิสงส์สหรัฐฯ ลดภาษี–เงินดอลลาร์อ่อนค่า

Finnomena

“ทองคำ” เปิดเช้าปรับขึ้น 150 บ. “รูปพรรณ” ขายออก 52,550 บาท

ข่าวหุ้นธุรกิจ

“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ นักลงทุนกังวล “ทรัมป์” ขู่เก็บภาษีนำเข้าชิป-ภาคบริการสหรัฐอ่อนตัว

ข่าวหุ้นธุรกิจ

Technical Brief – บล.คิงส์ฟอร์ด

ข่าวหุ้นธุรกิจ

KTB ประเมินค่าเงินบาทวันนี้

ทันหุ้น

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...