ดาบพิฆาตอสูร ภาคปราสาทไร้ขอบเขต ปรากฏการณ์อนิเมะญี่ปุ่น

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • The Bangkok Insight

ดาบพิฆาตอสูร ภาคปราสาทไร้ขอบเขต ปรากฏการณ์อนิเมะญี่ปุ่น ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า อนิเมะญี่ปุ่นไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป แต่มันคือ “พลังทางวัฒนธรรม” ที่ทั้งโลกจับตาก็ว่าได้

ยิ่งใหญ่สมการรอคอยจริง ๆ สำหรับ ดาบพิฆาตอสูร ภาคปราสาทไร้ขอบเขต Demon Slayer: Infinity Castle แอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ แอ็คชั่นแฟนตาซีระทึกขวัญ ดำดิ่งสู่ปราสาทไร้ขอบเขต ในปฐมบทแห่งการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเหล่านักล่าอสูร

ดาบพิฆาตอสูร ภาคปราสาทไร้ขอบเขต

เป็นการประสบความสำเร็จที่แฟน ๆ จำนวนมากต่างใจฟู และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังจริง ๆ สำหรับ ดาบพิฆาตอสูร (Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba) กับ ภาคปราสาทไร้ขอบเขต (Infinity Castle) ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า อนิเมะญี่ปุ่นไม่ได้เป็นเพียงคอนเทนต์เฉพาะกลุ่มอีกต่อไป แต่มันคือ “พลังทางวัฒนธรรม” ที่ทั้งโลกจับตาก็ว่าได้

สำหรับ Demon Slayer: Infinity Castle หรือ ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ ศึกปราสาทไร้ขอบเขต องก์ที่ 1 การกลับมาของอาคาสะ ได้เปิดตัวเข้าฉายในประเทศญี่ปุ่น ที่มาพร้อมกับการสร้างสถิติใหม่ในเรื่องของรายได้ในบ็อกซ์ออฟฟิศมากมาย

โดยในวันแรกของการเข้าฉาย ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ ศึกปราสาทไร้ขอบเขต องก์ที่ 1 การกลับมาของอาคาสะ สามารถทำรายได้ไปได้ถึง 1,650 ล้านเยน จากการจำหน่ายตั๋วกว่า 1.15 ล้านใบ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขรายได้ที่สูงที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ ของการเข้าฉายในระยะเวลาหนึ่งวันของภาพยนตร์ในประเทศญี่ปุ่น

ส่วนรายได้จากการเข้าฉายในช่วงสุดสัปดาห์ของการหยุดยาวสี่วัน อยู่ที่ 7,241 ล้านเยน จากการจำหน่ายตั๋ว 5.16 ล้านใบ ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งในสถิติใหม่เช่นเดียวกัน และคาดว่าหากทิศทางของรายได้ยังคงสูงเช่นนี้ต่อไป มันจะสามารถทำลายสถิตรายได้ตลอดโปรแกรมการฉาย 50,000 ล้านเยนของ Demon Slayer: Mugen Train หรือ ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ได้ไม่ยาก

ดาบพิฆาตอสูร ภาคปราสาทไร้ขอบเขต

ปราสาทไร้ขอบเขตจึงไม่ได้เป็นเพียง “บทสรุปครั้งใหญ่” ของเรื่องราวดาบพิฆาตอสูร แต่มันกำลังกลายเป็น สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม ของญี่ปุ่น ที่แสดงให้เห็นว่าอนิเมะสามารถยืนบนเวทีโลกได้ทัดเทียมกับหนังฟอร์มยักษ์จากตะวันตก และยังสามารถสร้างกระแสที่เชื่อมโยงผู้ชมต่างชาติพันธุ์ให้มาร่วมอินไปกับเรื่องเดียวกันได้

ขณะเดียวกันในประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ได้มีการเปิดเผยข้อมูลว่า ตัวเลขรายได้ของ “ดาบพิฆาตอสูร : ปราสาทไร้ขอบเขต” ผ่าน 100 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยการฉายไม่ถีง 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2568 เรียกได้ว่าได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามเลยทีเดียว

นอกจากนี้“Infinity Castle” ยังสร้างสถิติใหม่เป็นภาพยนตร์เปิดตัววันแรกสูงสุดแห่งปี2025 และรั้งอันดับ2 ของภาพยนตร์เปิดตัวสูงสุดในไทยยุคหลังโควิด-19 อีกด้วย ขณะที่ในฝั่งของโซนี่ พิคเจอร์ส ประเทศไทย รายได้วันแรกของภาคนี้ยังแซงหน้าSpider-Man: No Way Home ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์เปิดตัววันแรกสูงสุดอันดับ3 ของค่ายในไทย