โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สรุป 4 วิธีใช้จ่ายเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ "บัตรเครดิต - QR Code - Travel Card - เงินสด"

Thairath Money

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

“จะไปเที่ยวต่างประเทศ แลกเงินหรือใช้จ่ายด้วยวิธีไหนดีนะ?”

หลายคนคงมีคำถามนี้ในใจเมื่อต้องเตรียมตัวก่อนบิน ทั้งคนที่จะเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกหรือไปมาหลายครั้งอาจเจอปัญหาจากระบบการจ่ายเงินที่มีหลากหลาย หรือต้องมานั่งคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนว่าที่ช็อปไปเท่ากับกี่บาท และที่ยากที่สุดคือจะควบคุมการช็อปไม่ให้เกินงบอย่างไร

วันนี้ Thairath Money จะพาทุกคนไปรู้จัก 4 ตัวเลือกเมื่อต้องช็อปหรือใช้จ่ายในต่างประเทศ ซึ่งแต่ละตัวเลือกมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน เชื่อว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยให้ทุกคนเลือกการชำระเงินแบบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และทริปของตัวเองได้ ดังนี้

1. เงินสด

เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ การพกเงินสดในสกุลเงินท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ ถือเป็นทางเลือกที่ดี แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นกัน

ข้อดี:

  • คล่องตัวในการใช้งาน เช่น ใช้ซื้อของในร้านค้าขนาดเล็ก หรือร้านที่ไม่รับบัตรได้
  • อัตราแลกเปลี่ยนที่คงที่ เพราะเมื่อแลกมาในอัตราใดก็สามารถคำนวณได้เลยว่าซื้อของครั้งนี้กี่บาท
  • อาจควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่ายกว่าการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต หรือบัญชีธนาคาร

ข้อเสีย:

  • บางประเทศเริ่มใช้เงินสดน้อยลง เช่น จีน ถ้าเราแลกแบงก์ใหญ่อย่าง 100 หยวนไปใช้จ่ายบางร้านอาจไม่มีทอน, หาที่แลกเงินได้ยาก เป็นต้น
  • เหรียญสกุลต่างประเทศมักแลกกลับเป็นบาทไม่ได้ ส่วนใหญ่ในร้านแลกเงินรวมถึงธนาคารในไทยจะรับแลกธนบัตรไม่รับแลกเปลี่ยนเหรียญ และอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับแบงก์ย่อยอาจได้เรทที่ไม่ดีเท่ากับแบงก์ใหญ่
  • เสี่ยงสูญหาย
  • อัตราแลกเปลี่ยนที่ได้ ขึ้นอยู่กับว่าแลกกับร้านแลกเงินเจ้าไหน ซึ่งส่วนใหญ่เรทของสาขาธนาคารมักสูงกว่าร้านแลกเงิน

เทคนิคสำคัญของการแลกเงินคือ เราสามารถเช็กบนเว็บไซต์ของร้านแลกเงิน รวมถึงธนาคารต่างๆ ว่าของค่ายไหนให้เรทที่ดีที่สุด หลายที่ยังสามารถโทรจองเงินไว้ก่อนได้เพราะบางสาขาอาจมีสกุลเงินต่างประเทศที่เราต้องการไม่เพียงพอ

2. QR Payment

เรื่องระบบการชำระเงินไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก โดยเฉพาะระบบพร้อมเพย์ที่ใช้กันอย่างล้นหลาม ส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขยายและต่อยอดให้คนไทยใช้ระบบ QR Payment ได้ในหลายประเทศโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ผ่านแอปพลิเคชันธนาคารของประเทศไทย เช่น ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นต้น

ข้อมูลล่าสุดจากธปท. ณ มิถุนายน 2568 พบว่าคนไทยสามารถใช้บริการชำระเงินด้วย QR code ได้กับ 8 ประเทศ ซึ่งเป็นที่รู้จักและประเทศที่นักท่องเที่ยวไทยหลายคนชื่นชอบ ได้แก่

  • ญี่ปุ่น
  • ฮ่องกง (และสาธารณรัฐประชาชนจีน)
  • สปป. ลาว
  • อินโดนีเซีย
  • มาเลเซีย
  • กัมพูชา
  • เวียดนาม
  • สิงคโปร์

รูปแบบคือ คนไทยใช้ QR Payment ในร้านค้าที่ต่างประเทศได้เลย เช่น เปิดแอปฯ ธนาคารเลือกสแกน QR code ที่ร้านค้าในญี่ปุ่น หรือเปิด QR code ในแอปฯ ให้ร้านค้าสแกนเพื่อจ่ายเงิน (บางประเทศ) เป็นต้น ทว่าแต่ละธนาคารอาจเงื่อนไขต่างกัน เช่น วิธีการสแกน, จำกัดวงเงิน/วัน (ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ) ฯลฯ

ข้อดี:

  • เช็กอัตราแลกเปลี่ยนได้ทันทีเมื่อจะใช้จ่าย เช่น เปิดแอปฯ ขึ้นมาในหน้าการใช้จ่ายจะมีอัตราแลกเปลี่ยน ณ ขณะนั้นแสดงอยู่
  • ใช้งานสะดวกเพราะผ่านแอปฯ ธนาคารของไทย ไม่ต้องลงทะเบียนผ่านแอปฯ ของบริษัทในต่างประเทศเพิ่ม

ข้อเสีย:

  • ถ้าอินเตอร์เน็ตไม่เสถียร อาจทำให้ใช้งานแอปฯ ธนาคารติดขัด
  • ไม่ใช่ทุกธนาคารในไทยที่สามารถใช้ QR code ในต่างประเทศได้ ต้องตรวจสอบก่อนเสมอ
  • อาจต้องเช็กกับธนาคารก่อนใช้งาน เพราะแต่ละแอปฯ Mobile Banking มีวิธีกดใช้งาน และเงื่อนไขที่ต่างกัน

3. Travel Card

หลายปีมานี้บัตร Travel Card ถือว่ามาแรงมาก เพราะเป็นบัตรที่ทำให้เราใช้จ่ายในต่างประเทศหรือซื้อของในต่างประเทศได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม (ส่วนใหญ่ราว 2.5% ของยอดการใช้จ่าย) รวมถึงมักจะแลกเงินสกุลต่างประเทศเก็บไว้ก่อนก็ได้ อาจมาในรูปแบบของบัตรเดบิต หรือบัตรเติมเงิน (Prepaid Card) ซึ่งจะแตกต่างจากบัตรเครดิตที่เป็นสินเชื่อประเภทหนึ่ง

ปัจจุบัน Travel Card มีหลายเจ้าให้เลือก แต่จะอาจมีจำนวนสกุลเงินที่แลกเก็บไว้ได้ไม่เท่ากัน เช่น Planet SCB จากธนาคารไทยพาณิชย์ (13 สกุลเงิน), Krungthai Travel Card จากธนาคารกรุงไทย (20 สกุลเงิน), บัตรเดบิต JOURNEY Travel Card ของธนาคารกสิกรไทย (แลกเงินเก็บไว้ไม่ได้), YouTrip ซึ่งร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย (10 สกุล), Krungsri Boarding Card จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา (17 สกุลเงิน)

ข้อดี:

  • เลือก “จังหวะ” ในการแลกเงินเรทที่ต้องการได้
  • ใช้เงินได้เท่าที่เติมไป อาจช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายเราได้
  • ตัวไม่ต้องไปต่างประเทศก็สามารถใช้บัตรนี้ช็อปออนไลน์ได้เรทที่ดีกว่าบัตรเครดิต
  • กดเงินสดจากตู้ ATM ในต่างประเทศได้ แต่ต้องเช็กค่าธรรมเนียมการถอนเงินทั้งจากตัวบัตรที่เรามี และตู้ ATM ปลายทางเสมอ
  • แม้บัตรนั้นๆ อาจแลกสกุลเงินต่างประเทศบางสกุลเก็บไว้ไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่สามารถตัดเงินบาทจากบัญชีเมื่อใช้จ่ายสกุลเงินต่างประเทศอื่นๆ ได้เลย
  • บางบัตรมีส่วนลดหรือ Cash Back ให้เมื่อใช้จ่ายในร้านค้าเครือข่าย

ข้อเสีย:

  • ส่วนใหญ่จะมีค่าธรรมเนียมการเปิดบัตร หรือรายปี เช่น 150-700 บาท
  • แต่ละบัตรกำหนด สกุลเงินที่แลก/ใช้จ่าย ได้ไม่เท่ากันอาจทำให้สับสนขณะใช้งาน
  • ถ้าอินเตอร์เน็ตไม่เสถียร เมื่อต้องการเติมเงินหรือเช็กยอดการใช้จ่ายอาจ อาจใช้งานไม่สะดวก

4. บัตรเครดิต

และสุดท้าย บัตรเครดิตเป็นอีกตัวเลือกที่ดีในการใช้จ่ายในต่างประเทศ เพราะเป็นระบบที่วางรากฐานมานานทำให้เครือข่ายที่รับชำระเงินก็มากขึ้นไปด้วย

ข้อดี:

  • มีจุดรับชำระเงินและจุดกด ATM มากมายและใช้บริการได้ทั่วโลก (แต่ค่าธรรมเนียมการกดเงินสดขึ้นอยู่กับธนาคารผู้ให้บริการบัตร และธนาคารที่เป็นเจ้าของตู้ ATM ปลายทาง)
  • มีแต้มสะสม และสิทธิประโยชน์หลากหลาย เช่น ส่วนลดตั๋วเครื่องบินฟรี, อัพเกรดที่นั่ง, แลกส่วนลดห้องพักโรงแรม เป็นต้น
  • มีระบบการผ่อนชำระ หรือจะใช้ก่อน จ่ายคืนทีหลังก็ได้ หากชำระไม่ตรงกำหนดอาจคิดดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ควรเช็กก่อนเสมอ

ข้อเสีย:

  • มักคิดค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยน 2.5% ในทุกการใช้จ่าย
  • เรทอัตราแลกเปลี่ยนตั้งต้นของบัตรเครดิต มักสูงกว่าบัตร Travel Card
  • อาจมีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน Dynamic Currency Conversion (DCC) Fee เป็นค่าธรรมเนียมที่จะเกิดขึ้นเมื่อร้านค้าในต่างประเทศเสนอให้เราจ่ายเป็นเงินบาท ทำให้เราต้องจ่ายแพงขึ้นทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 3-7% ของยอดจ่าย ดังนั้นไปประเทศไหนควรรูดจ่ายเงินในสกุลเงินท้องถิ่น
  • บัตรเครดิตมักมีค่าธรรมเนียมรายปี หากไม่ได้ใช้จ่ายตามยอดที่ผู้ออกบัตรกำหนด ซึ่งเป็นหลัก 2,000 - 4,500 บาท (หรืออาจแพงกว่านั้น) บางบัตรอาจให้เราโทรขอยกเว้นค่าธรรมเนียมส่วนนี้ได้แต่ต้องเช็กก่อนเช่นกัน

โดยสรุปแล้ว การใช้จ่ายในต่างประเทศทั้ง 4 ตัวเลือกเป็นตัวช่วยที่ทำให้ทริปของเราง่ายขึ้น แต่วิธีไหนจะดีที่สุด อาจขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของแต่ละคน

ดังนั้น ก่อนจะเดินทางไปต่างประเทศ อย่าลืมศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมการเงินที่เหมาะกับตัวเองและสถานที่นั้นๆ เพื่อให้กลายทริปที่สนุกสนานได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องคอยกังวลเรื่องเงิน

รู้หรือไม่ ?

นอกจากระบบ QR payment ให้ใช้จ่ายกับร้านค้าในต่างประเทศ ทุกวันนี้ยังมีระบบโอนเงินข้ามพรมแดนที่ค่าใช้จ่ายถูกลง เช่น การเชื่อมระหว่างระบบ PromptPay และ PayNow (ของสิงคโปร์ ) ทำให้เราใช้แค่เบอร์มือถือของผู้รับโอน ก็โอนเงินไปได้เลยภายใน 1-2 นาที (จากเดิม 1-2 วัน)แต่จำกัดในวงเงินไม่เกิน 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 25,000 บาท ต่อวัน ผ่านธนาคารที่ร่วมให้บริการ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ ตอนนี้ธปท.กำลังขยายความร่วมมือกับจีนผ่าน Project Nexus

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธนาคารกรุงศรี [1] [2] [3], KTC [1][2] [3]

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ “การเงินดีชีวิตดี” ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สรุป 4 วิธีใช้จ่ายเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ "บัตรเครดิต - QR Code - Travel Card - เงินสด"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thairath Money

ทรัมป์ลงนาม เปิดให้ลงทุน Private Equity-คริปโตฯ กระจายพอร์ต 9 ล้านล้าน หวังผลตอบแทนสูงขึ้น

10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ลงทุนทองให้แม่ดีไหม? กูรู-นักลงทุน ฟันธง! ราคาพุ่งต่อ คาดระยะสั้นอยู่ที่ 51,000-52,350 บาท

12 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ห้างโรบินสันจัดหนักรับวันแม่ อัดอีเวนต์เน้นโปรฯดันยอด12%

Manager Online

‘เบทาโกร เวนเจอร์ส’ ร่วมกับ BiomEdit พัฒนาโซลูชันลดการสูญเสียในอุตสาหกรรมไก่

เดลินิวส์

AWC โชว์Q2 กำไรพุ่ง 1,404 ล้าน โต 12.7% ครึ่งปีหลังลุยเปิด 'ลานนาทีค กาแล' แลนด์มาร์กศิลปวัฒนธรรม

MATICHON ONLINE

ททท. สานต่อความสำเร็จ Jurassic World: Rebirth จ่อฉาย Alien: Earth หลังถ่ายทำในไทยกว่า 2 ปี

MATICHON ONLINE

“คริสตัล” ชูนวัตกรรมการผลิต เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยั่งยืน

Manager Online

KFC คอลแลป Butterbear ดันยอดขายไก่ทอดโต 49%

Manager Online

จะมีคนใจบุญตกเป็นเหยื่อเสมอ เพราะมันคือการตลาด

Amarin TV

บิ๊กธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ ลุ้น กนง.ลดดอกเบี้ย พยุงเศรษฐกิจ-จีดีพีโตเกิน 2% ชี้ถึงเวลาแล้ว

MATICHON ONLINE

ข่าวและบทความยอดนิยม

ไทยเบฟลุยขยายตลาดส่งออกอาหาร ส่ง “โอโยชิ อีทโตะ” เจาะอาเซียน–ยุโรป

Thairath Money

ชาวนาร้องราคาข้าวเปลือกดิ่งหนัก

Thairath Money

ปรากฏการณ์คลั่ง Labubu ตุ๊กตาราคาพุ่ง 5 ล้าน สูตรลับสร้างมูลค่า เขย่าวงการของสะสมโลก

Thairath Money
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...