โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ทรัมป์ลงนาม เปิดให้ลงทุน Private Equity-คริปโตฯ กระจายพอร์ต 9 ล้านล้าน หวังผลตอบแทนสูงขึ้น

Thairath Money

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งบริหารว่าด้วยเรื่องการเพิ่มสินทรัพย์ทางเลือก อย่างเช่น หุ้นนอกตลาด (Private Equity) และคริปโตเคอร์เรนซีในแผนเกษียณ 401(k) ของชาวอเมริกัน เพื่อให้เข้าถึงสินทรัพย์ได้ง่ายขึ้น และเปิดโอกาสให้ผู้ที่ตั้งใจเก็บออมได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่ก็จะเสี่ยงมากขึ้นเช่นกัน

401(k) สำคัญแค่ไหนกับคนอเมริกัน?

ชาวอเมริกันจำนวนมากวางแผนใช้เงินเกษียณจากกองทุนสะสมในที่ทำงาน เช่น 401(k) และ 403(b) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในหุ้นและพันธบัตรที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

แต่ในช่วงหลังมานี้ ฝั่ง Private Equity ก็ได้พยายามผลักดันให้เปิดรับสินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้น เพื่อเข้าถึงเงินกว่า 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เหล่านายจ้างใส่ไว้เพื่อแผนเกษียณ และก็มีราว 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐที่นอนอยู่ในแผน 401(k)

Private Equity คือกองทุนที่รวมเงินจากนักลงทุนไปซื้อกิจการต่าง ๆ แล้วขายทำกำไรในอนาคต ซึ่งก่อนหน้านี้โอกาสเหล่านี้แทบจำกัดอยู่ในกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่และคนรวย

ระบบเกษียณของสหรัฐฯ ทำงานอย่างไร?

คนอเมริกันที่ทำงานและจ่ายภาษีเงินเดือนเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 10 ปี จะได้สิทธิรับเงิน Social Security แบบเป็นรายเดือน โดยจะเริ่มรับได้ตั้งแต่อายุ 62 ปี จำนวนจะขึ้นกับระยะเวลาทำงาน และเงินเดือน แต่หากรับก่อนอายุครบ 67 ปีจะได้จำนวนลดลง

เดิมทีสหรัฐอเมริกาเคยมีบำนาญแบบกำหนดผลประโยชน์ (Defined Benefit Pension) ที่การันตีเงินบำนาญตามอายุเกษียณ ระยะเวลาทำงาน และเงินเดือน แต่จากรายงานของ Bloomberg พบว่า ทุกวันนี้ในภาคเอกชนเหลือเพียง 15% ของแรงงานที่เข้าถึงบำนาญนี้ได้

ดังนั้น 401(k) และแผนสะสมแบบกำหนดเงินสมทบ (Defined Contribution) จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของความมั่นคงทางการเงินยามเกษียณ โดยพนักงานสามารถกันเงินก่อนหักภาษีตามสัดส่วนเงินเดือนไปลงทุนในหุ้น พันธบัตร หรือกองทุนผสม เช่น Target-Date Fund ที่ปรับพอร์ตตามอายุเกษียณ

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลผลสำรวจของ American Retirement Association พบว่า ปัจจุบันมี Private Asset น้อยมาก ซึ่งน้อยกว่า 1 ใน 10 ของแผนเกษียณที่มีสินทรัพย์ทางเลือก และมีเพียง 2.4% เท่านั้นที่มี Private Equity ให้เลือก

ใครได้ประโยชน์จากคำสั่งนี้?

คำสั่งใหม่นี้ เรียกได้ว่าเป็นชัยชนะของวงการ Private Asset ที่เชื่อว่าการให้คนทั่วไปเข้าถึงสินทรัพย์เอกชน จะช่วยกระจายพอร์ต (Diversification) และสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าในระยะยาว แต่ฝั่งนักวิจารณ์เตือนว่า ผลตอบแทนที่สูงขึ้นมักมาพร้อมค่าธรรมเนียมที่แพงขึ้น และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

ในด้านคริปโตฯ คำสั่งนี้สอดรับกับท่าทีของรัฐบาลทรัมป์ที่สนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ผ่านมาได้ช่วยหนุนราคา Bitcoin ทำสถิติสูงสุดใหม่มาต่อเนื่อง นอกจากนี้ แผนที่ใส่คริปโตฯ ลงไปในแผนเกษียณอาจช่วยกระจายพอร์ตและเพิ่มโอกาสทำกำไร แต่ก็มีความผันผวนที่ต้องระวัง

ที่ผ่านมา กองบำนาญในสหรัฐฯ และต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ได้ทำการลงทุนใน Private Assets มานานแล้ว อีกทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีจำนวนบริษัทจดทะเบียนลดลงมากตั้งแต่จุดสูงสุดในปี 1990 ขณะที่สินทรัพย์เอกชนเติบโตเกิน 2 เท่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ในฝั่งของผู้สนับสนุนเลยมองว่าแผนนี้จะมีประโยชน์ต่อชาวอเมริกัน

และยังมองอีกว่าผลตอบแทนระยะยาวจะสูงขึ้น จากรายงานของ BlackRock เมื่อเดือนมิถุนายนชี้ว่า การเพิ่มสินทรัพย์เอกชนใน Target-Date Fund ของ 401(k) อาจเพิ่มผลตอบแทนเฉลี่ย 0.5% ต่อปี และทำให้เงินเกษียณมากขึ้น 15% ในอีก 40 ปีด้วย

ในด้านของคริปโตฯ หากเพิ่มลงไปใน 401(k) จะช่วยกระจายพอร์ต เพิ่มโอกาสทำกำไร และเนื่องจากแผนเกษียณเป็นการลงทุนระยะยาว ความผันผวนในระยะสั้นอาจไม่กระทบมาก แต่ในทางกลับกันก็มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะ Bitcoin ที่เคยร่วงแรงหลายครั้ง อีกทั้งในบางช่วงราคายังเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้น ทำให้ประสิทธิภาพการกระจายความเสี่ยงลดลง

นอกจากนี้ ก็มีฝั่งที่ทำการคัดค้านในเรื่องนี้ เพราะจะมีค่าธรรมเนียมที่แพงขึ้น ประเมินมูลค่าสินทรัพย์ยาก เพราะสินทรัพย์เอกชนมีการซื้อขายน้อยและข้อมูลไม่โปร่งใสเท่าหุ้นหรือพันธบัตรในตลาด

ที่มา: Bloomberg

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ทรัมป์ลงนาม เปิดให้ลงทุน Private Equity-คริปโตฯ กระจายพอร์ต 9 ล้านล้าน หวังผลตอบแทนสูงขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thairath Money

ลงทุนทองให้แม่ดีไหม? กูรู-นักลงทุน ฟันธง! ราคาพุ่งต่อ คาดระยะสั้นอยู่ที่ 51,000-52,350 บาท

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เศรษฐกิจไทยติดหล่ม รายได้ต่อหัวไม่โต เพื่อนบ้านไล่ทัน เมื่อ “ท่องเที่ยว-การเมือง” กลายเป็นคำสาป

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

“จตุพร” เผย 13 ส.ค.นี้ ชง นบข.ไฟเขียวแจกชาวนาไร่ละ 1,000 บาท

สยามรัฐ

IRPC เดินหน้ายกระดับผลิตภัณฑ์ – บริหารต้นทุน – เร่งจัดการทรัพย์สินท่าเรือที่ดิน ขับเคลื่อนธุรกิจยั่งยืน

เดลินิวส์

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ฉลองวันแม่ชวนแม่เที่ยวกับดีลสุดคุ้มตั๋วเริ่มต้นเพียง 12 บาท

สยามรัฐ

NT เร่งทำตลาด วันเว็บ คาดปั้นรายได้ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 5 ปี

PostToday

ธุรกิจ Sanrio ฟื้นชีพ คาแรกเตอร์ Kuromi แรงแซง Hello Kitty

TODAY Bizview

12 สิงหาคม 2568 กระทรวงวัฒนธรรม เปิดขายบัตรโขนสุดยิ่งใหญ่แห่งปี

ฐานเศรษฐกิจ

ททท. บุกตลาดเม็กซิโก ดัน “เสน่ห์ไทย” เชื่อมความสัมพันธ์ฉลอง 50 ปี

ประชาชาติธุรกิจ

Real Demand มองหา บ้าน/คอนโดฯ ไม่เกิน 2 ล้านเช่าไม่เกิน1.5 หมื่นต่อเดือน

การเงินธนาคาร

ข่าวและบทความยอดนิยม

Tether ขึ้นแท่นหนึ่งในผู้ถือ“ทองคำ”รายใหญ่ของโลก นอกเหนือจากรัฐบาลและธนาคาร เก็บไว้กว่า 80 ตัน

Thairath Money

รู้จัก “โทเคนหุ้น” ปฏิวัติวงการลงทุนด้วยบล็อกเชน เปิดทางคนทั่วไปเข้าถึงหุ้นบริษัทดังนอกตลาด

Thairath Money

ปรากฏการณ์คลั่ง Labubu ตุ๊กตาราคาพุ่ง 5 ล้าน สูตรลับสร้างมูลค่า เขย่าวงการของสะสมโลก

Thairath Money
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...