โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“ทักษิณ” ดันแนวคิด OTOP สู่ ThaiWORKS ชี้ ก.มหาดไทย ตัวแปรสำคัญเชื่อมประชาชน

การเงินธนาคาร

อัพเดต 56 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ทักษิณ" ขึ้นเวที Soft Power Forum 2025 มองเศรษฐกิจสร้างสรรค์อีกหนึ่งจุดแข็งของไทย เผยเตรียมดันแนวคิด OTOP สู่ ThaiWORKS ชี้ ก.มหาดไทย ตัวแปรสำคัญเชื่อมประชาชน

วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.00 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ในหัวข้อ“Crafting the Future: From OTOP to ThaiWORKS and Beyond” ในงาน SPLASH – Soft Power Forum 2025 จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายปิฎก สุขสวัสดิ์ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ร่วมให้กำลังใจ

นายทักษิณ กล่าวเริ่มต้นถึงที่มาของช่วงเริ่มต้นตั้งพรรคไทยรักไทย ที่มีแนวคิดว่าอยากจะทำพรรคการเมืองแบบใหม่ พรรคการเมืองที่สร้างสรรค์ และมีคำขวัญที่ติดมาคือ คิดใหม่ ทำใหม่ และตาดูดาว เท้าติดดิน ว่า ที่มาของ"คิดใหม่ ทำใหม่" มาจากในช่วงนั้นวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นคือ ไทยตามไม่ทันโลก เพราะเราอยู่แบบเดิม ขณะที่โลกเปลี่ยนไปมาก จึงมองว่าเราหันมาคิดใหม่ทำใหม่ดีกว่า

ขณะที่ที่มาของ "ตาดูดาว เท้าติดดิน" นั้นต้องการให้รู้ว่า เราต้องฝัน ฝันบินไปให้ไกล แต่ต้องไม่รับรากเหง้าของตัวเอง ขณะที่เราปรับตัวและกำลังบินสู่โลกกว้าง เราต้องมั่นใจว่าเราแข็งแรงพอ นี่คือหลักที่ต้องการบอกกับคนไทยในขณะนั้น

โดยนโยบายที่ทำในปี 2544 นอกจากเหนือจาก 30 บาทรักษาทุกโรค และกองทุนหมู่บ้าน อีกนโยบายหนึ่งคือ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ นายทักษิณกล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ได้พูดคุยกับคนญี่ปุ่นเกี่ยวกับนโยบายหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งผลิตภัณฑ์ของญี่ปุ่น ขณะที่ตนเติบโตมาจากร้านชินวัตรไหมไทย เห็นงาน handy craft มาตลอด และรู้ว่าไปได้ระดับหนึ่ง จึงคิดว่าถ้ามีการออกแบบใหม่ การดีไซน์ใหม่ การตลาดดี แพคเกจจิ้งที่ดี น่าจะไปได้ไกลกว่านั้น นอกจากนี้อยากทำอะไรที่ชาวบ้านมีส่วนร่วมและมีรายได้ จึงคิดว่านโยบายของญี่ปุ่นน่าจะเหมาะกับไทย จึงเริ่มคิดอย่างจริงจัง

อีกทั้งพบว่าในไทยมีความรู้ภูมิปัญญาและงานฝีมือชาวบ้านอยู่ทุกที่ ทุกภูมิภาค และสามารถปรับได้ แต่ขณะนั้นชาวบ้านมีฝีมือจริง แต่ไม่สามารถลงทุนวัตถุดิบ อุปกรณ์ได้ ไม่สามารถหาตลาดได้ ไม่สามารถออกแบบใหม่ๆ ได้ รัฐบาลจะต้องเข้าไปช่วย โดยขณะนั้นญี่เข้ามาช่วยค่อนข้างเยอะ และทีมข้าราชการของกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์มาช่วยกัน ทำให้ประสบความสำเร็จมาก

"สินค้า OTOP ช่วงเริ่มต้นปีแรกสามารถขายได้ราว 2 หมื่นล้านบาท ปีต่อมาได้ 4 หมื่นล้านบาท รวมถึงส่งออกไปญี่ปุ่น เราจัดงานขายสินค้าในเคเบิลทีวีของญี่ปุ่น จัดครั้งหนึ่งขายได้หลายร้อยล้านบาท ช่วงนั้นปรับปรุงได้ระดับหนึ่ง แต่ยังติดใจว่าโลกข้างหน้าเราจะสู้กับคนอื่นยังไง เพราะต้องยอมรับว่าการศึกษาของเรามีปัญหา ระบบบริหารมีปัญหา เพราะยังมีแนวคิดแบบไซโล เราตามเค้าไม่ทันแน่นอน จึงคิดใจว่าครีเอทีฟอีโคโนมี หรือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ น่าจะเป็นจุดแข็งที่ยังหากินได้อีกยาว เพราะโลกยิ่งเปลี่ยน โลกก็อยากจะมีสิ่งที่มนุษย์ทำเพราะทุกอย่างเป็นเครื่องจักรหมดแล้ว อยากจะรักษาไว้"

ดังนั้นมองว่าครีเอทีฟอีโคโนมี หรือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จะเป็นจุดแข็งอีกจุกหนึ่งของประเทศไทย นอกเหนือการตามไม่ทันเศรษฐกิจทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งไทยเองก็ต้องตามให้ทัน โดยครีเอทีฟอีโคโนมีมีหลายอย่างที่ไทยยังพัฒนาได้ พร้อมเสนอให้ยกระดับโครงการ OTOP สู่ระดับสากลภายใต้แบรนด์ ThaiWORKS

"ผมมองสินค้าไทยมีภาพรวม มี OTOP เป็นสินค้าฐาน และมีสินค้า SMEs เป็นสินค้าส่งออก ผมรู้ว่าโลกยุคนั้นต้องสร้างแบรนด์ แต่แต่ละบริษัทเล็ก หากสร้างแบรนด์ต้องใช้เงินจำนวนมาก ดังนั้นจึงสร้างแบรนด์ไทยแลนด์ขึ้นมาก่อน เพราะให้บริษัทเล็กได้ใช้ชื่อ ทำให้แบรนด์นั้นเมื่อแข็งแรงแล้ว ก็สามารถสร้างแบรนด์ของตัวเองได้ จึงมีแนวคิดที่จะไปทำร้านในเมืองใหญ่ๆ ศูนย์ช้อปปิ้งต่างๆ เป็นเหมือนโชว์รูมของประเทศไทย ปรากฏว่าช่วงปลายปี 2548 การเมืองเริ่มยุุ่ง ซึ่งไทยมักจะเสียเวลาเรื่องการเมืองที่ไร้สาระ มากกว่าเรื่องที่มีสาระ จึงทำให้เรื่องสาระถูกละเลยเป็นประจำ เป็นช่วงๆ โดยในช่วงปี 2548 จะดำเนินการโครงการนี้ แต่เกิดการปฏิวัติ จึงหยุดไป"

นายทักษิณ กล่าวว่า ขณะนี้เองเตรียมนำแนวคิดนี้มาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง โดยระบุว่า "ถึงผมจะเป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็นรัฐบาล ไม่ได้มีฤกษ์ ที่ทำทั้งหมดนี้ออกเงินเอง เพราะต้องการเก็บไว้ให้เป็น Social Enterprise ของคนไทย ไม่ใช่ของการเมือง จะได้ทำให้การพัฒนาประเทศด้านครีเอทีฟต่อเนื่อง"

ทั้งนี้ทรัพย์สินทางปัญญาจะเป็นของ Social Enterprise หากชาวบ้านต้องการนำไปผลิตต่อจะได้สิทธิ์ไปผลิตต่อได้ทันที ไม่มีค่าใช้จ่าย หากเป็นบริษัทอาจะมีรูปแบบการบริจาคเงินบางส่วนเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการพัฒนาชาวบ้าน นอกจากนี้อยากให้ทุกหมู่บ้านเป็นหนึ่งโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อผลิตสินค้าที่ดีไซน์จากส่วนกลาง และเป็นทักษะส่วนตัว ผสมผสานกับแนวคิดครีเอทีฟของท้องถิ่น และปรับต่อเนื่องเป็นสองทางตลอดเวลา

"วันนี้อยู่ที่การเอาจริงเองจัง ข้าราชการก็จะร่วมมือ กระทรวงมหาดไทยเป็นตัวสำคัญที่จะนำนโยบายไปสู่ประชาชน นั่นคือผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยซอฟต์พาวเวอร์เป็น movement ดังนั้นจึงต้องมีคนช่วย move ซึ่งก็คือกระทรวงมหาดไทย"

เมื่อถามถึงแนวทางของ ThaiWORKS นายทักษิณกล่าวว่า "ผมจะแยกว่าอะไรจะลงหมู่บ้าน ลงชุมชน จะฝาก รมว.มหาดไทย รมว.อุตสาหกรรม ช่วยกัน โดย movement จะลงใน 2 ระดับ ระดับสู่ตลาดโลกจะใช้ทีมของปีเตอร์ เพราะกว้างขวาง ซึ่งรอให้นายกฯ ได้กลับไปทำงานก่อน"

อ่านข่าว เศรษฐกิจทั่วไทย ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

“ทักษิณ” ยอมรับช็อกฮุนเซนปล่อยคลิปเสียง มองไทย-กัมพูชา ไม่อยู่ในสถานะประกาศสงครามต่อกัน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รมว.คลังให้การบ้านเอกชน ช่วยหามาตรการรับมือภาษีทรัมป์ คาดสรุปได้ก่อน 31 ก.ค. 68

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ลุ้นเสนอชื่อ ผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ เข้าครม. 15 ก.ค.68

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“เฟด” ชั่งน้ำหนักผลกระทบ “ภาษีทรัมป์” ยังไม่รีบลดดอกเบี้ย จับตาเงินเฟ้อไตรมาส 3

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

“TSO-รีซัลท์เบส-PMG” ผนึกกำลัง จัด SPORTECดันไทยฮับงานกีฬา

Manager Online

“กัชคลาวด์” ปิดดีลซื้อ “Wizdeo” สร้างเครือข่ายครีเอเตอร์ EU-APAC

Manager Online

ดั่งต้องมนต์เมืองอุบลฯ ททท.จัดงานวิจิตร หนุนไทยเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวภูมิภาค

MATICHON ONLINE

Broker ranking 9 Jul 2025

Manager Online

Charles House Flow น้ำแร่ขวดหรู ดูแพงแต่แฝงความประหยัด แถมเมดอินสุรินทร์

SMART SME

“ทักษิณ’ ชี้คุยภาษีสหรัฐฯ เวลายังไม่หมด หาทางต่อได้ ลั่นเราขอความแฟร์ แนะใจเย็นๆ

สยามรัฐ

“ทักษิณ” ยอมรับช็อกฮุนเซนปล่อยคลิปเสียง มองไทย-กัมพูชา ไม่อยู่ในสถานะประกาศสงครามต่อกัน

การเงินธนาคาร

"รมว.คลัง" สั่งเอกชนทำการบ้าน เจาะผลกระทบภาษีสหรัฐ พร้อมมาตรการรองรับ ส่ง 11 ก.ค.นี้

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...