แม่ตกใจ เปิดกล้องดูลูกนอน "ที่บ้านยาย" เห็นชายปริศนานั่งข้างเตียง เฉลยเป็นใครยิ่งช็อก!
สาวสุดช็อก เปิดกล้องเจอพบพ่อแท้ๆ ที่คิดว่าตายไปแล้ว โผล่นั่งข้างเตียงหลานสาว สารภาพความลับปกปิดกว่า 30 ปี
เหตุการณ์สะเทือนใจของครอบครัวเวียดนามกลายเป็นที่สนใจของโลกโซเชียล หลังลูกสาววัย 30 กว่าปี ซึ่งเดินทางไปทำงานต่างเมือง และมักเปิดกล้องวงจรปิดในลูกสาววัย 3 ขวบเพื่อดูตามปกติ แต่คืนหนี่งกลับพบชายปริศนานั่งอยู่ข้างเตียงลูก ซึ่งทำให้เธอรู้สึกตกใจและหวาดกลัวอย่างมาก
เจ้าของเรื่องเล่าว่า เธอกับสามีทำงานประจำทั้งคู่ ดังนั้นเมื่อแม่ของเธอเสนอให้ส่งลูกสาวชื่อ"น้องนา" อายุแค่ 3 ขวบ กลับไปอยู่ต่างจังหวัดช่วงปิดเทอม 2 สัปดาห์ เธอจึงตอบตกลงทันที โดยสามีของเธอได้ซื้อกล้องวงจรปิดขนาดเล็กติดไว้ในห้องนอนของลูกด้วย เพื่อจะได้ใช้ดูแลจากระยะไกลเวลาคิดถึง ซึ่งเธอมักจะเปิดดูผ่านแอปในมือถือช่วงประมาณ 2–3 ทุ่ม เห็นลูกสาวนอนหลับอยู่ใต้ผ้าห่ม ไฟในห้องปิด เหลือแต่ไฟสลัวๆ จากโคมไฟ
แต่คืนที่ 4 เมื่อเปิดกล้องขึ้นมาก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะเห็นมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนเตียงข้างลูกสาว ตอนแรกคิดว่าเป็นเงาสะท้อน แต่ยิ่งดูยิ่งชัดว่ามีผู้ชายใส่เสื้อขาว นั่งอยู่ข้างลูกจริงๆ พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้เหมือนจะเช็ดหน้าหรือกล่อมลูกนอน ภาพที่เห็นทำเอาถึงกับตัวแข็ง เธอรีบโทรหาแม่ แต่แม่ไม่รับสาย ทำให้เธอยิ่งตกใจมาก คิดกังวลสารพัดว่าจะเกิดเรื่องร้าย รีบโทรหาสามี แล้วเขาก็ตกใจไม่แพ้กัน
ประมาณ 5 นาทีต่อมา เมื่อแม่โทรกลับมา เธอจึงถามทันทีว่า“แม่คะ ใครเข้าไปในห้องหลาน? หนูจะกลับไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!” แม่เงียบไปนิด ก่อนตอบเบาๆ ว่า“…พ่อของลูกเอง”
คำตอบที่ไม่คาดคิดทำให้เธอยิ่งช็อก เพราะตั้งแต่จำความได้เธออยู่กับแม่ตลอด และแม่เคยบอกว่าพ่อเสียไปตั้งแต่เธอยังเล็ก จึงไม่เคยรู้จักหน้า ไม่เคยมีความทรงจำใดๆ สำหรับเรื่องนี้แม่อธิบายว่า จริงๆ แล้วพ่อยังมีชีวิตอยู่ แต่ทิ้งไปนานตั้งแต่เธอเป็นทารก ตอนหลังกลับมาอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และเพิ่งถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคความจำเสื่อมบางส่วน พ่อมักจะพูดถึงน้องนา เรียกว่านี่คือ“หลานสาว” ของเขา
แม่บอกว่า พ่ออยากมา“กล่อมหลานนอน” เพราะจำว่าครั้งหนึ่งเคยมีกันเป็นครอบครัว แม่ก็เลยยอม เพราะไม่คิดว่าเธอจะเปิดกล้องในจังหวะนั้นพอดี คำอธิบานนี้ทำให้ยิ่งรู้สึกเจ็บลึกๆ เพราะเหมือนถูกหลอกมาตลอด 30 ปี ความจริงคือพ่อเคยทอดทิ้งแม่กับเธอไปอยู่กับผู้หญิงอีกคน ก่อนจะถูกทิ้งเพราะป่วยและหมดหนทางทำงาน
แม้สามีจะแนะนำให้เธอ “ให้อภัย” แต่ความทรงจำของความลำบาก ความขาดแคลน และความเจ็บปวดในวัยเด็กมันยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่มาก ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าควรจะโกรธ หรือควรจะสงสาร สิ่งเดียวที่รู้คือในใจมันยุ่งเหยิงไปหมด ตั้งแต่นั้นมาเธอไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้กับแม่อีกเลย แต่ใบหน้าของ “ผู้ชายแปลกหน้า” คนนั้นกลับยังตามหลอนทุกครั้งที่คิดถึงวัยเด็ก
กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าควรจะเดินเข้าไปหา "พ่อ" ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเคยทิ้งไป แต่วันนี้มากล่อมหลานนอน หรือควรปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปเหมือนตลอด 30 ปีที่ผ่านมา?