คลับเมดสร้างสถิติผลประกอบการสูงสุดในปี 2567 พร้อมเดินหน้าสู่ปี 2568 ด้วยโครงการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
คลับเมด (Club Med) ผู้นำด้านการพักผ่อนในวันหยุดระดับพรีเมียม แบบจ่ายครั้งเดียวจบ ปิดตัวเลขของปี 2567 ด้วยความสำเร็จสูงสุด ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตและความสำเร็จเชิงกลยุทธ์โดยในปี 2568 เนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปีคลับเมด พร้อมสานต่อความสำเร็จในการยกระดับแบรนด์สู่ตลาดพรีเมียม และตั้งเป้าตอบรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่มองหาวันหยุดแบบออลอินคลูซีฟ หรือจ่ายครั้งเดียวจบ ในระดับลักซ์ชูรี
ผลประกอบการของคลับเมดในปี 2567 มีปริมาณธุรกิจ (Business Volume) หรือมูลค่ารวมของการดำเนินธุรกิจรวมมูลค่า 2.09 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2566 โดยรีสอร์ตบนภูเขาในช่วงฤดูหนาวเติบโตถึง 20% เป็นสัดส่วนมากกว่า 35% ของปริมาณธุรกิจทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์การเล่นสกีสูง นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านสู่รีสอร์ตระดับพรีเมียมและอยู่ในกลุ่ม Exclusive Collection อย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้แบรนด์ได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดการท่องเที่ยวระดับบน
ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของ คลับเมด ทั่วโลก ในปี 2567 มีดังนี้
• ปริมาณธุรกิจรวม 2,090 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 7% เมื่อคิดในอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566
• รายได้จากรีสอร์ต กำไรสุทธิ (ก่อนภาษี) หรือ EBITDA และอัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ในระดับเดียวกับปี 2566
• ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 รีสอร์ตทั้งหมดได้รับการยกระดับเป็นประเภทพรีเมียมและ Exclusive Collection โดยมีจำนวนเตียงเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปี 2566
• ลูกค้าเข้าพักมากกว่า 1.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1% จากปี 2566
• อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 75% เพิ่มขึ้น 2 จุดสำหรับรีสอร์ตพรีเมียมและ Exclusive Collection เมื่อเทียบกับปี 2566
• ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 232 ยูโร เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2566 (ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากัน)
• รีสอร์ตบนภูเขาขยายตัวขึ้นในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อน โดยมีปริมาณธุรกิจเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งคิดเป็น 35% ของรายได้รวมของบริษัท
• การจองสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 5.7% จากปี 2567 โดยจุดหมายปลายทางประเภทสกีและชายหาดทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเชียแปซิฟิก ได้รับความนิยมสูง
สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และแปซิฟิก (ESAP) คลับเมดประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในรีสอร์ตพรีเมียมจ่ายครั้งเดียวจบ
• ธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และแปซิฟิก (ESAP) เติบโต 24% จากปีก่อนหน้า โดยมีลูกค้ากว่า 260,000 คน เพิ่มขึ้น 5.5% จากปี 2566 การเติบโตนี้ มาจากผลประกอบการอันโดดเด่นของรีสอร์ตบนภูเขาในญี่ปุ่น จีน และเทือกเขาแอลป์ของยุโรป ซึ่งเติบโตขึ้นถึง 57% เมื่อเทียบกับปี 2566 รวมถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่ม Exclusive Collection ซึ่งประกอบด้วยรีสอร์ต ชาเลต์ วิลล่า และเรือยอชต์สุดหรู Club Med 2 โดยมีปริมาณธุรกิจเพิ่มขึ้น 23%
• ประเทศไทยเติบโตโดดเด่น โดยมีปริมาณธุรกิจเพิ่มขึ้น 9.2% จากปีก่อนหน้า ในขณะที่สกีญี่ปุ่นยังคงเป็นแหล่งรายได้หลัก คิดเป็น 64% ของยอดขายทั้งหมด จุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างมัลดีฟส์และภูเก็ตก็ยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่การขยายสู่ตลาดจีน โดยเฉพาะรีสอร์ตบนภูเขา เช่น ลี่เจียงและสกีรีสอร์ตอื่น ๆ เติบโตได้ดีจากนโยบายวีซ่าที่เอื้ออำนวยและการเชื่อมต่อทางอากาศที่สะดวกยิ่งขึ้น เช่น เที่ยวบินเช่าเหมาลำของ Ruili Airlines
เรเชล ฮาร์ดิง ประธานกรรมการบริหาร ประจำภูมิภาค เอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และแปซิฟิก กล่าวว่า “ผลประกอบการของปี 2568 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของโมเดลพรีเมียมออลอินคลูซีฟของเรา ในวาระครบรอบ 75 ปี ในปี 2568 นี้ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์วันหยุดแบบเหนือระดับ ด้วยพื้นที่ที่ออกแบบมาอย่างดี กิจกรรมที่คัดสรรมาอย่างใส่ใจ ทีมงาน G.O (Gentle Organizer) ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการขยายตัวทั่วโลก เราพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคใหม่”
บรูโน คูร์เบต์ Country Director คลับเมดประจำประเทศไทย อินโดนีเซีย อินเดีย และตลาดใหม่ กล่าวว่า “ในประเทศไทย เราเห็นเทรนด์ใหม่ที่นักท่องเที่ยวมองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงความต้องการพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ และการท่องเที่ยวแบบครอบครัวระดับพรีเมียม จุดหมายปลายทางอย่างลี่เจียงในจีนได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักท่องเที่ยวไทยที่มองหาประสบการณ์ใหม่ที่น่าจดจำ เราจึงเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ ๆ เช่น โซน Family Oasis ที่ คลับเมดภูเก็ต พร้อมห้องพักใหม่ 32 ห้อง สวนน้ำ และห้องอาหารตลอดวันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ นอกจากนี้ ความนิยมในจุดหมายปลายทางเพื่อเล่นสกีเพิ่มมากขึ้นทั้งในญี่ปุ่น จีน และยุโรป โดยเฉพาะเทือกเขาแอลป์ในฝรั่งเศส รวมถึงเทรนด์สกีปลายฤดูกาลที่ขยายไปถึงช่วงสงกรานต์กำลังมาแรงเช่นเดียวกัน”
เป้าหมายสำคัญ 3 ประการที่คลับเมดมุ่งเน้นในปี 2568
1. การตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดพรีเมียมแบบจ่ายครั้งเดียวจบ แม้จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่ความต้องการในการท่องเที่ยวเชิงคุณค่ายังคงเติบโต โมเดลออลอินคลูซีฟของคลับเมดตอบโจทย์ความสบายใจ ด้วยราคาที่รวมทุกอย่างไว้ล่วงหน้า ทั้งอาหาร กิจกรรม การดูแลเด็ก และความบันเทิง สร้างประสบการณ์วันหยุดแบบไร้กังวล ตามคำมั่นสัญญาของแบรนด์ ‘L’Esprit Libre’ หรือการมีจิตวิญญาณอันอิสระ
2. ความต้องการวันหยุดบนภูเขาฤดูร้อนและเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ยังคงขับเคลื่อนความนิยมในรีสอร์ตภูเขาช่วงฤดูร้อน ปัจจุบัน คลับเมดเปิดให้บริการรีสอร์ตบนภูเขาจำนวน 11 แห่งในฤดูร้อนทั่วโลกรวมถึงเทือกเขา แอลป์ ฮอกไกโด และควิเบก เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำทั้งการเดินป่า เวลเนส และกิจกรรมผจญภัยท่ามกลางธรรมชาติ
3. ความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน คลับเมดยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์ ‘Happy to Care’ ซึ่งเน้นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่ การพัฒนารีสอร์ตอย่างยั่งยืน การมอบประสบการณ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม โดยรีสอร์ตใหม่จะได้รับการรับรองมาตรฐาน BREEAM ซึ่งเป็นมาตรฐานการประเมินความยั่งยืนของอาคารและโครงการก่อสร้าง ส่วนรีสอร์ตที่เปิดแล้วได้รับใบรับรองจาก Green Globe อีกทั้งยังเน้นการออกแบบที่ยั่งยืน เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานหมุนเวียน และการใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นกว่า 60% ของวัตถุดิบสดทั้งหมด นอกจากนี้ ยังสนับสนุนชุมชนในพื้นที่ผ่านโครงการ Green Farmer Program และ Club Med Foundation อย่างต่อเนื่อง
ในปี 2568 เป็นต้นไป คลับเมดเดินหน้าขยายแบรนด์ทั่วโลกด้วยกลุยุทธ์การเปิดรีสอร์ตใหม่ การปรับปรุงรีสอร์ตเดิม และการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยมีแผนปรับปรุงและเปิดรีสอร์ตใหม่ ดังนี้
• Club Med Borneo ในซาบาห์ มาเลเซีย (เปิดปี 2569) รีสอร์ตแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิกที่สร้างตามมาตรฐาน BREEAM (Building Research Establishment Energy and Environmental Assessment Method) มีพื้นที่ 104.75 ไร่ ห้องพักพรีเมียม 361 ห้อง และห้องสวีทสุดหรู 39 ห้อง
• Club Med South Africa Beach & Safari Resort (เปิดปี 2569) รีสอร์ตแห่งแรกของคลับเมดในแอฟริกาใต้ บนพื้นที่ 200 ไร่ มอบประสบการณ์เล่นเซิร์ฟและท่องซาฟารี
• Club Med Gramado ประเทศบราซิล (เปิดปี 2569) รีสอร์ตในกลุ่ม Exclusive Collection แห่งแรกของคลับเมดในอเมริกาใต้ ตั้งอยู่ที่รัฐรีโอ กรันดีโดซูล
• Club Med Musandam ในโอมาน (เปิดปี 2571) ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Musandam มีห้องพักหรู 300 ห้อง และได้รับการออกแบบอย่างยั่งยืนด้วยมาตรฐาน BREEAM และ Green Globe
• Club Med ภูเก็ต (ปรับปรุงแล้วเสร็จในปี 2568) พื้นที่ใจกลางรีสอร์ตได้รับการออกแบบใหม่พร้อมวิวทะเล พร้อมด้วยสโซน Family Oasis
• Club Med Bintan (ปรับปรุงเสร็จในปี 2569) รีสอร์ตได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อยกระดับประสบการณ์วันหยุดของครอบครัวแบบออลอินคลูซีฟ