ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเล็กน้อย นักลงทุนจับตาภาษีทรัมป์
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เพิ่มความตึงเครียดทางการค้าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการประกาศเตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปและเม็กซิโก ในอัตรา 30% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากมาตรการกดดันรอบใหม่ โดยให้เวลาจำกัดสำหรับการเจรจาทางการค้าฉุกเฉิน
ทั้งนี้ สหภาพยุโรปได้ขยายเวลาการชะลอมาตรการตอบโต้ไปจนถึงต้นเดือนสิงหาคม เพื่อเปิดทางให้มีการเจรจา ขณะที่ทำเนียบขาวระบุว่า การหารือกับสหภาพยุโรป แคนาดา และเม็กซิโก ยังคงดำเนินอยู่
นักลงทุนในตลาดตอบสนองต่อข่าวต่างๆอย่างระมัดระวัง โดยหลายฝ่ายมองว่าความเคลื่อนไหวของทรัมป์อาจไม่แน่นอน และอาจกลับลำได้ในช่วงนาทีสุดท้ายเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา
ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 88.14 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 44,459.65 จุด
ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 8.81 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 6,268.56 จุด
ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 54.80 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 20,640.33 จุด
ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 15.43 พันล้านหุ้น ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 20 วันล่าสุดที่ 17.62 พันล้านหุ้น
ราคาน้ำมันลดลงจากแรงกดดันความไม่แน่นอนทางการเมือง
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลงมากกว่า 1 ดอลลาร์ โดยนักลงทุนจับตาผลกระทบจากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเตรียมคว่ำบาตรผู้ซื้อพลังงานจากรัสเซีย หากมอสโกไม่ยอมตกลงสันติภาพภายใน 50 วัน ขณะเดียวกัน ตลาดยังคงวิตกต่อสงครามการค้ารอบใหม่ที่อาจกระทบอุปทานทั่วโลก
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 69.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลง 1.47 ดอลลาร์ หรือ 2.15% ปิดที่ 66.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำอ่อนตัวจากจุดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์
ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยนักลงทุนยังคงให้ความสนใจต่อการเจรจาการค้าและข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะประกาศเร็ว ๆ นี้
ราคาทองสปอตลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 3,350.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเคยแตะระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน
ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าสหรัฐฯ ลดลง 0.1% ปิดที่ 3,359.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์