เร่งฟื้นฟูสุขภาพสัตว์แนวชายแดนไทย–กัมพูชา ดูแลเกษตรกรเกือบ 20,000 ราย

เผยแพร่ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งด่วนกรมปศุสัตว์ระดมทีมช่วยเกษตรกรชายแดนไทย–กัมพูชา หลังเหตุปะทะส่งผลกระทบสัตว์เลี้ยงเกือบล้านตัวใน 5 จังหวัด พร้อมแจกอาหารสัตว์และเปิดศูนย์อพยพสัตว์เคลื่อนที่

นายอรรถกร ศิริลัทยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการกรมปศุสัตว์เร่งช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ โดยระดมทีมสัตวแพทย์ลงพื้นที่ดูแลสัตว์เลี้ยงจำนวนเกือบ 1 ล้านตัว พร้อมจัดส่งเสบียงหญ้า อาหารสัตว์ และวางแผนจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัยตามระเบียบราชการ

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า พื้นที่ได้รับผลกระทบครอบคลุม 5 จังหวัดชายแดน ได้แก่ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี และสระแก้ว รวม 8 อำเภอ 32 ตำบล 40 หมู่บ้าน มีเกษตรกรได้รับผลกระทบรวม 19,716 ราย สัตว์เลี้ยงรวมกว่า 997,000 ตัว ได้แก่

โค 61,172 ตัว

กระบือ 17,517 ตัว

สุกร 22,613 ตัว

แพะ-แกะ 3,128 ตัว

สัตว์ปีก 892,838 ตัว

รวมถึงแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ 233 ไร่

ล่าสุด พบสัตว์เสียชีวิตรวม 48 ตัว โดยจังหวัดสุรินทร์มากที่สุด 38 ตัว ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ในบุรีรัมย์และศรีสะเกษ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการฝังกลบซากสัตว์ตามมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว

แจกอาหารสัตว์พระราชทานกว่า 52,000 กก. เปิดศูนย์อพยพสัตว์และหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร กรมปศุสัตว์ได้จัดตั้ง ศูนย์อพยพสัตว์ และ หน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ พร้อมแจกจ่ายเสบียงหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานแล้วรวม 52,730 กิโลกรัม แบ่งตามพื้นที่ ดังนี้:

• สุรินทร์ 17,130 กก.

• บุรีรัมย์ 16,600 กก.

• ศรีสะเกษ 10,000 กก.

• อุบลราชธานี 5,000 กก.

• สระแก้ว 4,000 กก.

นอกจากนี้ ยังสนับสนุน ชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ เช่น แร่ธาตุ ยาปฏิชีวนะ และวิตามิน จำนวน 140 ชุด มีการ อพยพสัตว์แล้ว 1,112 ตัว และให้บริการ ตรวจสุขภาพ–รักษาสัตว์อีก 78 ตัว โดยทีมสัตวแพทย์

เร่งเยียวยา–แนะนำเกษตรกรลงทะเบียนขอความช่วยเหลือ

กรมปศุสัตว์ได้เน้นย้ำให้สำนักงานในพื้นที่ให้คำแนะนำเกษตรกรในการลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือตามเกณฑ์ทางราชการ พร้อมยืนยันว่าหน่วยงานพร้อมรับมือทุกสถานการณ์และจะดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อให้เกษตรกรสามารถกลับมาเลี้ยงสัตว์และประกอบอาชีพได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด หรือผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง