คดีชั้น14ใกล้น็อก! ซัก6บิ๊กราชทัณฑ์มัดทักษิณ/หนูปัดปั่นวาทกรรมขายชาติ

ศาลไต่สวนนัดที่ 4 ซัก 6 ผู้บริหารราชทัณฑ์พยานคดีทักษิณชั้น 14 นัดหน้าถึงคิวแพทย์ใหญ่ ตร. "หมอวรงค์" ชี้ยิ่งเบิกความยิ่งมัด เชื่อแทบจะน็อกแล้ว "วิญญัติ" ลั่นไม่หนักใจยันป่วยจริง ลุ้นศาลอนุญาตพยานสำคัญ 1 ปากเบิกความ "กกต." แจงข่าวพิจารณายุบพรรคไม่เป็นความจริง "สรวงศ์” ยัน “ทักษิณ” ไม่ได้ครอบงำพรรค ระบุหลายพรรคเข้าพบแค่เคารพขอคำปรึกษา ศึกเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษเดือด! พท.วางคิว "อิ๊งค์" ลงช่วยหาเสียง "อนุทิน" บอกใช้เรื่องปากท้องหาเสียง ไม่สร้างวาทกรรมโจมตีคู่แข่ง

ที่ศาลฎีกา วันที่ 15 ก.ค.2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นนัดที่ 4

โดยวันนี้เป็นการไต่สวนพยานรวม 6 ปาก ประกอบด้วย นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์, นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายนัสที ทองปลาด อดีตผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้บัญชาการในช่วงเวลาที่นายทักษิณถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ ส่วนอีก 2 ปาก ไต่สวนช่วงบ่าย คือ นพ.พงศ์ภัค อารียาภินันท์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และ นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข อดีตผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลยังอนุญาตให้ผู้ที่สนใจรวมทั้งสื่อมวลชนเข้ารับฟัง แต่ในส่วนของสื่อมวลชนไม่อนุญาตให้มีการนำอุปกรณ์เข้าไปจดบันทึก โดยให้ฟังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี และ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเสื้อหลากสี ก็ยังเดินทางมารับฟังการไต่สวนเช่นทุกครั้ง

ทั้งนี้ ศาลไต่สวนผู้บริหารกรมราชทัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องการรับตัวนายทักษิณเข้ามาที่เรือนจำ การตรวจร่างกายของพยาบาลเรือนจำ การส่งตัวนายทักษิณไปรักษายังโรงพยาบาลตำรวจ อาการป่วยของนายทักษิณ โดยมีความเห็นของแพทย์ที่จะต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดเร่งด่วน และมีการขยายเวลาการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในช่วงเวลา 30 วัน และช่วงเวลา 60 วัน โดยพยานระบุว่า มีการเซ็นคำสั่งไปตามความเห็นของแพทย์ โดยในการพิจารณาดังกล่าวเป็นไปตามกฎกระทรวงและพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ รวมถึงเรื่องการพักโทษนายทักษิณ

ต่อมาช่วงบ่าย มีการไต่พยานรายที่ 5 คือ นพ.พงศ์ภัค ซึ่งในขณะที่มีการส่งตัวจำเลยไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ พยานดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการฯ ส่วนการแพทย์ ทำให้พยานมีส่วนเกี่ยวข้องกับจำเลยเฉพาะช่วงที่มีการพิจารณารักษาโรงพยาบาลภายนอกเกิน 120 วัน

จากนั้นไต่สวนพยานรายที่ 6 นพ.วัฒน์ชัย ซึ่งดำรงตำแหน่งในช่วงที่มีการส่งตัวจำเลยไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยเป็นผู้มอบหมายแพทย์เวรให้เข้าไปตรวจร่างกายจำเลยในช่วงที่รับตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้ทำการรักษาด้วยตนเอง เนื่องจากมีหน้าที่ในส่วนงานบริหารเท่านั้น

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ร้อง ให้สัมภาษณ์หลังฟังการไต่สวนว่า วันนี้ตนได้ยื่นขอให้ศาลอนุญาตเปิดเผยข้อเท็จจริง ที่ทนายความของนายทักษิณขอศาลมีคำสั่งไม่ให้เปิดเผยรายละเอียดการไต่สวน เนื่องจากขัดรัฐธรรมนูญ เเต่ศาลฎีกายกคำร้อง แต่ก็ไม่ถึงขนาดไม่อนุญาตให้เข้าฟังเพียง แต่ให้อยู่ในภาพรวม ถ้าตนเป็นทนายความของนายทักษิณ จะอนุญาตให้เปิดเผยความจริงทั้งหมด

'วรงค์'มั่นใจชั้น 14 ใกล้น็อก

"ขณะนี้ความจริงเปิดออกมา ก็เสียวไส้กับคนที่ไปช่วยกระบวนการที่อาจจะต้องไปติดคุกแทน เพราะได้พานายทักษิณไปนอนโรงพยาบาล ในวันที่ 18 ก.ค.นี้ ผมจะนำใบเสร็จมาเเสดงว่าทำไมนายทักษิณจะต้องจ่ายเงินทั้งที่น่าจะไม่ได้ป่วย เมื่อความจริงจะปรากฏ จะได้รู้ว่านายทักษิณโกหกประชาชนอย่างไร และเป็นต้นตอที่ต้องมาเสียเวลากับเหตุนี้ทั้งหมด ที่ผ่านมาศาลก็ระมัดระวังเพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ไม่อยากให้สื่อลงรายละเอียดคำไต่สวนทั้งหมด ทำให้พยานที้ยังไม่ได้สืบรู้ว่าพยานก่อนหน้านี้เบิกความอย่างไร ก็ต้องเข้าใจศาล" นายชาญชัยกล่าว

ส่วน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวว่า พยานเบิกความแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรกเกี่ยวกับราชทัณฑ์ ชุดที่สองเป็นโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถ้าพูดภาษาชาวบ้านเรียกว่าแทบจะน็อกแล้ว หรือ End game เพราะทุกอย่างได้รับการเปิดเผยว่านักโทษที่ถูกส่งตัวและอ้างว่าป่วยวิกฤต ประเมินแล้วประมาณ 2 วันก็อาการทุเลาแล้ว โรงพยาบาลราชทัณฑ์มีศักยภาพในการรักษา

นพ.วรงค์กล่าวว่า ในส่วนผู้บริหารกรมราชทัณฑ์นั้น ศาลได้ซักถามเกี่ยวกับใบรับรองแพทย์ที่ทำการรักษาระหว่างวันที่ 30-120 วัน เป็นอำนาจของใคร ฝ่ายแพทย์อ้างว่าเป็นอำนาจของราชทัณฑ์ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อ้างว่าเป็นอำนาจของแพทย์ วันที่ 22 ส.ค.2566 ก่อนที่จะส่งตัวนายทักษิณ ศาลก็ได้ซักจนมีเอกสารออกมาว่าให้มีการเตรียมพร้อม นั่นแสดงว่ามีการรู้แล้วว่าเตรียมพร้อมจะส่งไปโรงพยาบาลภายนอก และยังซักต่อประเด็นที่ไม่รับตัวนักโทษกลับเรือนจำ เพราะอาการหนักใช่หรือไม่

"ศาลก็ซักต่อว่าทำไมป่วยหนักต่อเนื่องกัน 181 วัน และวันที่ 18 ก.พ.2567 ที่ได้ปล่อยตัวจึงมีอาการหายป่วยทันที" นพ.วรงค์กล่าว

ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ กล่าวว่า กระบวนการไต่สวนวันนี้เป็นไปตามข้อสงสัยของศาล โดยให้ทั้งฝ่ายจำเลยและฝ่ายโจทก์มีโอกาสซักถามอย่างเต็มที่ ศาลยังได้ออกหมายเรียกให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์มาให้การเกี่ยวกับกรณีการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาเกินกว่า 120 วัน พร้อมรายงานสถิติที่เกี่ยวข้อง และอ้างอิงมาตรฐานขั้นต่ำของสหประชาชาติ (Mandela Rules) ในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ควรได้รับโอกาสในการรักษาอย่างเหมาะสม

"ศาลอนุญาตให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์และผู้เกี่ยวข้องส่งเอกสารเพิ่มเติมภายใน 7 วัน ก่อนจะมีการไต่สวนครั้งถัดไปในวันที่ 18 ก.ค.2568 ซึ่งจะเป็นการไต่สวนแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจและทีมแพทย์ที่ดูแลอาการป่วยของนายทักษิณ รวมทั้งสิ้นประมาณ 6 ปาก" นายวิญญัติกล่าว

ถามถึงพยานฝ่ายจำเลยที่เหลือ ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณกล่าวว่า ได้ยื่นขอเบิกพยานเพิ่มอีก 3 ปาก โดยในจำนวนนี้ 2 รายเป็นแพทย์ที่ศาลมีคำสั่งเรียกมาไต่สวนแล้ว และได้ยื่นคำถามล่วงหน้าสำหรับใช้ในการซักถามไว้เรียบร้อย ส่วนพยานอีก 1 ปาก ศาลยังไม่มีคำสั่งรับหรือปฏิเสธ แต่ได้ยื่นบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงไว้แล้ว พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าเพื่อความเป็นธรรม ศาลควรพิจารณาอนุญาตให้เบิกพยานรายนี้ด้วย

ซักว่ามีความกังวลหรือไม่ นายวิญญัติกล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกหนักใจ เนื่องจากนายทักษิณมีอาการป่วยจริง ทั้งในขณะพำนักอยู่ต่างประเทศและขณะถูกคุมขังในเรือนจำ โดยเฉพาะในวัยกว่า 70 ปี และมีโรคประจำตัวหลายโรค ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งศาลได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างรอบคอบ และเชื่อว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมในที่สุด

ถามถึงแนวทางการต่อสู้ต่อไป นายวิญญัติยืนยันว่า ได้ยื่นคำชี้แจงต่อศาลครบถ้วน โดยการไต่สวนยังอยู่ในกระบวนการปิดลับ ห้ามเปิดเผยถ้อยคำพยานต่อสาธารณะ ซึ่งได้มีการกำชับจากศาลแล้วเช่นกัน สำหรับคำร้องอื่นๆ ที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ได้แก่ คำร้องขอใช้สิทธิ์ตั้งคำถามล่วงหน้ากับพยาน และคำร้องให้รับบันทึกถ้อยคำของพยานปากสุดท้าย ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งชัดเจน ต้องรอการพิจารณาในนัดหน้า

ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณกล่าวว่า ขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการรายงานข่าวตามข้อเท็จจริง โดยหลีกเลี่ยงการตีความหรือให้ข้อมูลที่อาจสร้างความสับสนแก่สาธารณชน ยืนยันว่าศาลกำลังดำเนินการอย่างรอบคอบ และอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายและความยุติธรรม

อิ๊งค์จ่อช่วยหาเสียงศรีสะเกษ

พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่รพ.ตำรวจ กรณีแพทยสภาชี้มูลความผิดจริยธรรมกรณีชั้น 14 ว่า ขณะนี้ต้องรอให้กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นก่อน ซึ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนของวินัยตำรวจ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะมีการชงเรื่องให้นายทะเบียนพรรคการเมืองยุบพรรค พท.และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม กรณีเข้าพบนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเข้าข่ายครอบงำพรรคว่า มันไม่มีอะไรไปครอบงำได้ ประสบการณ์การเป็นผู้นำและประสบการณ์ทำงานของนายทักษิณ ทุกคนก็เห็นอยู่ ท่านมีประสบการณ์นอกประเทศถึง 17 ปี หลายคนจึงมีความเคารพและให้เกียรติในการขอคำปรึกษาหารือ แต่ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งที่นายทักษิณพูดแล้วจะมาครอบงำพรรคร่วมรัฐบาล เป็นไปไม่ได้เลย

ถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. จะลงช่วยผู้สมัครหาเสียงหรือไม่ นายสรวงค์กล่าวว่า เดี๋ยวจะมีการจัดทั้งตัว สส.ในพื้นที่ใกล้เคียงลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง และ น.ส.แพทองธารก็จะเดินทางลงพื้นที่ด้วย แต่กำลังดูคิวอยู่ เพราะเหลือเวลาหาเสียงอยู่เพียงไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 10 ส.ค.

ซักว่านายทักษิณจะลงไปช่วยผู้สมัครหาเสียงหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า เดี๋ยวต้องรอดู ทางผู้สมัครเองก็ได้ร้องขอให้ตั้งนายทักษิณเป็นผู้ช่วยหาเสียง

ขณะที่ สำนักงาน กกต. ออกเอกสารชี้แจงข่าวการพิจารณายุบพรรคดังกล่าวว่า ข่าวไม่เป็นความจริง ขณะนี้คำร้องดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของสำนักงาน กกต. ยังไม่ได้เสนอ กกต.พิจารณาตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด โดยสำนักงาน กกต.ขอความร่วมมือสื่อมวลชนและผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ก่อนเผยแพร่ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพื่อป้องกันความสับสนของประชาชน

มีรายงานว่า พรรคร่วมรัฐบาลได้นัดรับประทานอาหารเย็นร่วมกันในวันที่ 22 ก.ค.นี้ โดยมีพรรค พท.เป็นเจ้าภาพ ซึ่งพรรค พท.ได้แจ้ง สส.ในที่ประชุมพรรค จะจัดที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ซึ่งช่วงบ่ายพรรค พท.จะมีการประชุมบริหารพรรคก่อน

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงลงพื้นที่หาเสียงการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ที่ทางแกนนำพรรค พท.ออกมาโจมตีใช้วาทกรรมการเมืองแบบเก่าว่า การปราศรัยของตนไม่ได้เป็นเรื่องวาทกรรม แต่สไตล์การปราศรัยของพรรค ภท.คือการพูดกับประชาชนให้เข้าใจสถานการณ์ เข้าใจในพรรค ภท. สร้างความมั่นใจให้ผู้สมัคร เราไม่ได้พูดถึงคนอื่น

ถามว่า จากที่ลงพื้นที่ศรีสะเกษมา ชาวบ้านติดใจปมคลิปเสียงหลุดหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตนไม่ได้พูดรายละเอียดกับชาวบ้านเรื่องนี้ ให้ความสำคัญเรื่องปากท้องชาวบ้าน และเรื่องคลิปเสียงหลุดก็อยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ไม่ควรไปก้าวล่วง

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.จำนวน 32 คน โดยว่าที่ผู้สมัคร สส. 32 คนที่เปิดตัวในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นอดีต สส. อดีตผู้สมัคร สส.ของพรรคเพื่อไทย อาทิ นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต สส.เชียงใหม่ พรรค พท. อดีตที่ปรึกษา รมว.วัฒนธรรมในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และนายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต สส.ลพบุรี พรรค พท. เป็นต้น.