นายกฯ คุยตรง “มาครง” หวังฝรั่งเศสประสานเอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 28 มิถุนายน 2568 เวลา 4.08 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทกรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” หารือ “ปธน.มาครง” ทางโทรศัพท์ กระชับความสัมพันธ์ ยันให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ-ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ย้ำ ไทยหนุนกลไกล JBC ทำงานเดินหน้าด้วยดี หวัง ฝรั่งเศส ประสานความร่วมมือ เอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา
เมื่อเวลา 16.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง (H.E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส
โดยนายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีมาครง แสดงความยินดีที่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรับตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรี ยืนยันความตั้งใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไทย–ฝรั่งเศส สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยเร็ว พร้อมแสดงความยินดีหากประธานาธิบดีมาครง จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในห้วงที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Organisation Internationale de la Francophonie : OIF) ที่กัมพูชาในปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ รวมถึงเชิญเข้าร่วมการประชุม Paris Peace Forum ที่ฝรั่งเศส เช่นกัน
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีมาครง มองว่าสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่การเมืองและเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ทำให้ต้องร่วมมือกันมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการค้าและ การลงทุน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นในความร่วมมือระหว่างกันที่วางอยู่บนกฎระเบียบระหว่างประเทศ และฝรั่งเศสมุ่งหวังขยายความร่วมมือกับไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านความมั่นคงและเทคโนโลยีอวกาศ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีมาครง ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก โดยไทยยืนยันจุดยืนรักษาสมดุลระหว่างประเทศมหาอำนาจ พร้อมสนับสนุนระเบียบโลกที่ตั้งอยู่บนกฎระเบียบสากล
นอกจากนี้ ไทยแสดงความขอบคุณฝรั่งเศสที่สนับสนุนการเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD และหวังว่าฝรั่งเศสจะสนับสนุนการเจรจา FTA ไทย–สหภาพยุโรปต่อไป ซึ่งฝรั่งเศสยินดีสนับสนุนไทยในเรื่องนี้ และมุ่งหวังให้กระบวนการเข้าสู่ OECD ของไทยเป็นไปอย่างราบรื่น
ในมิติอาเซียน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนในการรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ และรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมไซเบอร์ ยืนยันความพร้อมในการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศเพื่อนบ้านและหุ้นส่วนระหว่างประเทศอื่น ๆ รวมถึงฝรั่งเศสด้วย โดยฝรั่งเศสพร้อมสนับสนุนนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้
สำหรับประเด็นสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ประเทศไทยยึดมั่นในหลักการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ ด้วยความสุจริตใจ บนพื้นฐานของความเป็นมิตรที่ดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในอาเซียน และหลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเห็นว่าการเจรจาในกรอบทวิภาคีคือแนวทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการหาทางออกที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ร่วมกัน
นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำว่า ประเทศไทยยังคงสนับสนุนให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC) ซึ่งได้มีการประชุมที่กรุงพนมเปญ เดินหน้าทำงานต่อไปด้วยดี และหวังว่าฝรั่งเศสในฐานะหุ้นส่วนระหว่างประเทศที่ใกล้ชิด จะมีบทบาทสนับสนุนบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจรจาทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ให้กลับมาดำเนินต่อไปด้วยดี ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส รับทราบเจตนารมณ์ของไทย และจะพิจารณานำไปประสานความร่วมมือกับกัมพูชาต่อไป
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และสถานการณ์ในเมียนมา โดยนายกรัฐมนตรี แสดงจุดยืนสนับสนุนการหยุดยิงและการงดใช้ความรุนแรงจากทุกฝ่าย
สำหรับเมียนมา ไทยพร้อมมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสนับสนุนกระบวนการสันติภาพและการเมืองในเมียนมาและสนับสนุนบทบาทของมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน และความพยายามทั้งหมดภายใต้กรอบอาเซียน รวมถึงเน้นการเปิดพื้นที่สำหรับการหารือและการมีส่วนร่วม และนายกรัฐมนตรีเชื่อว่าสันติภาพที่ยั่งยืนต้องขับเคลื่อนโดยประชาชนเมียนมา และควรพิจารณาทุกทางเลือกที่นำไปสู่สันติภาพ.-316 -สำนักข่าวไทย