"บิ๊กเต่า"เผยคดี "ทิดสฤษดิ์" พบทุจริตเงินวัดเข้าข่ายอาญา'สีกา'เอี่ยวหลายรายส่วนพุทธอุทยานร้อยล้านค้างคา
วันที่ 21 ก.ค. 68 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนคดี "ทิดสฤษดิ์" หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเศรษฐีนีปากน้ำโพ และอยู่กินด้วยกันนานกว่า 15 ปี พร้อมขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า จากการประชุมชุดทำงาน ได้พบพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ และอาจมีความผิดทางอาญา โดยเฉพาะการใช้เงินวัดผิดวัตถุประสงค์ พัวพันบุคคลภายนอก และเส้นทางการเงินที่ผิดปกติ กรณีนี้เริ่มเห็นโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้น มีทั้งเงินบริจาคจำนวนมาก โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ และความสัมพันธ์กับสีกาหลายราย ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนเชิงลึก
โดยประเด็นหลักที่กำลังตรวจสอบคือ โครงการสร้างพุทธอุทยาน ที่ประชาชนร้องเรียนว่าใช้งบประมาณนับร้อยล้านบาทมาแล้วกว่า 10 ปี แต่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะที่ วัดห้วยด้วน ที่มีการระดมทุนถึง 30 ล้านบาทจากผู้มีจิตศรัทธา รวมถึงการมอบที่ดินและเงินจากวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ
ขณะที่การตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า มีการโอนเงินจากทั้งพระลูกวัดและประชาชนทั่วไปที่อาจเป็น "ลูกน้องของตัวละครหลัก" ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเรียกมาสอบปากคำทั้งหมด เพื่อหาความเกี่ยวข้องกับเงินวัดและการเบิกจ่ายที่ผิดปกติ นอกจากนี้ ยังพบเส้นเงินบางเส้นโยงไปถึงพระรูปหนึ่งที่มีความใกล้ชิดกับสีกาหลายราย โดยบางคนไม่มีอาชีพแต่กลับมีทรัพย์สินมากผิดปกติ ซึ่งต้องตรวจสอบว่าได้มาจากแหล่งใด
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตั้งข้อสังเกตว่า พฤติกรรมผิดปกติเหล่านี้คาดว่าเริ่มต้นขึ้นราว 2–3 ปีก่อน และแม้จะยังอยู่ในขั้นตรวจสอบเบื้องต้น แต่ก็มีข้อมูลที่เริ่มชัดเจนเพียงพอในการตั้งข้อสังเกตหลักฐานเกือบครบ – ดำเนินการรอบคอบ
เมื่อถูกถามว่าข้อมูลขณะนี้เพียงพอให้ขอศาลอนุมัติหมายจับหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ข้อมูลเกือบครบแล้ว เหลือเพียงจุดเล็กๆ ที่ยังต้องเติมเต็ม แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ ขอให้เวลาทีมสืบสวนทำงานต่ออีกเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะไม่เร่งรีบแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ การดำเนินคดีต้องใช้ความรอบคอบสูง และเมื่อถึงเวลาที่หลักฐานครบถ้วนก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ขณะนี้ได้เริ่มตรวจสอบบัญชีและเอกสารทางการเงินต่าง ๆ เพื่อดูว่าเงินที่เข้ามาในวัดถูกใช้จ่ายไปในทิศทางใด และมีความโปร่งใสมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะบทบาทของเจ้าอาวาสในการบริหารเงินดังกล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าไวยาวัจกรในวัดอาจไม่มีอำนาจเพียงพอในการตรวจสอบหรือบริหารจัดการงบประมาณ "เจ้าอาวาสจะต้องรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ เพราะมีรายงานว่าการจัดการบางส่วนเกิดความล่าช้า หรืออาจมีการละเลยในบางกรณี"
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แยกงานเป็นส่วน ๆ เพื่อให้ครอบคลุมทุกประเด็นที่ต้องตรวจสอบ และยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยใช้ข้อมูลจากผู้ให้เบาะแสต่าง ๆ เป็นเพียงแนวทางประกอบเท่านั้น ไม่ใช่ข้อยุติ ซึ่งยินดีรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย แต่ข้อมูลเหล่านั้นจะนำมาใช้ในการตรวจสอบเพิ่มเติมเท่านั้น ไม่ได้ตัดสินทันทีว่าต้องดำเนินการตามนั้น อีกทั้งการตรวจสอบในครั้งนี้ช่วยเปิดเผยให้เห็นเส้นทางการเงินหลายส่วนที่ต้องติดตามต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในเร็ววันนี้