โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

KKP ชวนออกแบบชีวิต ด้วยการวางแผนทางการเงิน

ไทยพับลิก้า

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ดร. ณชา อนันต์โชติกุล หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์เงินฝาก ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP)

KKP ชี้การวางแผนการเงินไม่ใช่แค่การกดเครื่องคิดเลข แต่คือ การออกแบบชีวิต โดยเฉพาะภายใต้ความไม่แน่นอนที่มากขึ้นในโลกปัจจุบัน ทั้งสภาวะเศรษฐกิจ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้า รวมทั้งการตัดสินใจทางการเงินที่ผิดพลาด การซื้อและการใช้จ่ายตามอารมณ์ ล้วนแล้วเป็นความท้าทายที่มีผลต่อสถานะทางการเงิน มีโอกาสที่ชีวิตหันเหจากเส้นทางหากไม่วางแผนการเงิน และมีโอกาสที่แผนการเงินที่วางไว้จะเบี่ยงเบนออกเป้าหมาย ก็ยิ่งทำให้การวางแผนทางการเงินมีความสำคัญมากขึ้นไปอีก

“ยิ่งผิดแผน ยิ่งต้องวางแผน” ดร.ณชา อนันต์โชติกุล หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์เงินฝาก ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวางแผนการเงินเชิงรุกเพื่อบรรเทาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและสามารถจัดการได้เมื่อเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิด

แผนทางการเงินประกอบด้วยตัวเลข เปอร์เซ็นต์การออมและผลตอบแทนจากการลงทุนที่ชัดเจน ส่วนใหญ่จึงมักคิดว่าแผนเหล่านี้จะนำมาซึ่ง“อัตราความสำเร็จ” อันที่จริง ตัวเลขเป็นเพียงสิ่งทำให้เป้าหมายเข้าใจได้และนำไปปฏิบัติได้จริง อย่างไรอนาคตก็ยังคงเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน การวางแผนทางการเงินควรมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เราอยากเป็นในอนาคตเสมอ

ดร.ณชา อนันต์โชติกุล หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์เงินฝาก ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) กล่าวว่า…

การวางแผนทางการเงินที่แท้จริง ไม่ใช่แค่กดเครื่องคิดเลข คำนวณตัวเลขกันอย่างเดียว แต่คือการออกแบบชีวิตว่าเราอยากจะได้ชีวิตแบบไหนในช่วงอนาคต ในช่วงบั้นปลายชีวิต

ยิ่งภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่มีความไม่แน่นอนสูงมาก คนอาจจะรู้สึกว่า การวางแผนการเงินอาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญตอนนี้ ที่ต้องหากินให้พอใช้ก่อน แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งโลกมีความไม่แน่นอนมากขึ้น ยิ่งต้องมาคิดให้ดีว่า เราอยากจะได้อนาคตแบบไหน อะไรที่เป็นส่วนที่เราควบคุมได้ อะไรภายใต้ความไม่แน่นอนที่มีมากขึ้น ยิ่งทำให้ส่วนที่เราควบคุมได้ ต้องยิ่งจริงจังกับมันมากขึ้น” ดร.ณชากล่าว

ดร.ณชาได้แชร์มุมมองถึงข้อมูลความท้าทายทางเศรษฐกิจ ที่กระทบชีวิตคน รวมไปถึงข้อผิดพลาด ข้อที่มองข้ามในการวางแผนทางการเงิน ในการพูดคุยกับสำนักข่าวไทยพับลิก้าเมื่อเร็วๆนี้ พร้อมชี้ว่า “ถ้าเรารู้เร็ว ก็จะช่วยได้”

ความไม่แน่นอนสูงต้องลงมือทำในสิ่งที่เราควบคุมได้

ในด้านเศรษฐกิจ ดร.ณชากล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีความไม่แน่นอน ประเมินได้ยากขึ้น ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมาก แม้เศรษฐกิจโต 3.1% ในไตรมาสแรก แต่อาจเป็นภาวะชั่วคราวจากปัจจัยฐานต่ำ ทั้งการลงทุนและการส่งออกที่เร่งขึ้นเพื่อรับมือกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ รวมทั้งการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ในช่วงครึ่งหลังคาดการณ์ว่าปัจจัยเหล่านี้จะเริ่มทยอยลดลงไปหมดปัจจัยความเสี่ยงในครึ่งปีหลังยังเพิ่มขึ้น นักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะเป็นตัวหลักที่จะช่วยเศรษฐกิจปีนี้ก็ลดลง นักท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องจักรเดียวของเศรษฐกิจหลังพ้นช่วงการระบาดของโควิดก็ยังเพิ่มขึ้นไม่ถึง 30% ของช่วงก่อนโควิด

ส่วนการบริโภคภาคครัวชะลอตัวลง จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การลงทุนที่ชะลอลง รวมทั้งสินเชื่อที่โตช้า นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เป็นข้อจำกัดในการลงทุนในนโยบายภาครัฐ ทำให้ความไม่ชัดเจนต่างๆ ส่งผลต่อการชะลอลงทุนของภาคเอกชน การจ้างงาน

“ปัจจัยสงครามต่างๆ ก็กระทบกับเศรษฐกิจไทย เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยากมาก แล้วก็เป็นปัจจัยจากภายนอก ไทยเป็นประเทศที่เพิ่งพาปัจจัยภายนอกมากด้วย ทั้งการลงทุน ทั้งการส่งออก ที่พึ่งพาการส่งออกไปสหรัฐฯราว 20% ของการส่งออกโดยรวม ท่องเที่ยวก็พึ่งได้ยากแล้ว ฉะนั้นแทบจะไม่รู้ว่าเครื่องจักรตัวต่อไปจะดับไปอีกหรือไม่ เป็นสิ่งที่น่ากังวลมาก” ดร.ณชากล่าว

ดร.ณชากล่าวต่อว่า ความไม่แน่นอนมีในแทบทุกด้านของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรก ส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงการลงทุน โดยผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยครึ่งปีแรกลดลง 20% ขณะที่ประเทศอื่นเพิ่มขึ้น 20% ไม่ว่าเกาหลีใต้ สหรัฐฯ การลงทุนในตลาดทุนทั่วโลกคึกคัก และเมื่อมองย้อนกลับไป 20 ปีเศรษฐกิจไทยหรือตลาดทุนเป็นขาลงมาตลอด

“ในช่วง 10 ปีแรกของรอบ 20 ปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยโตเฉลี่ยปีละ 10%-15% ก็เป็นความหวังของคนที่ลงทุน แต่ในช่วง 10 ปีหลังของ 20 ปีที่เราพูดถึงโตแค่ 0%-5% เท่านั้นเอง แล้วปีสุดท้ายล่าสุด แต่ครึ่งปีก็ติดลบ 20% ไปแล้ว ส่งผลกระทบผู้ที่ลงทุน และคาดหวังว่าจะพึ่งพาการลงทุนในช่วงวัยเกษียณ” ดร.ณชากล่าว

ตลาดหุ้นไทยยังประสบกับกระแสเงินไหลออกที่ต่อเนื่อง นักลงทุนต่างชาติก็ทยอยถอนการลงทุนออกจากตลาดหุ้นไทย โดยมียอดขายสุทธิเริ่มตั้งแต่ปี 2556 แม้ไม่ได้ต่อเนื่องทุกปีตั้งแต่ปี 2560 ถึงล่าสุด 8 ปีที่ผ่านมาเงินไหลออกไป 800 ล้านบาท สะท้อนว่าโครงสร้างหรือปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน

ดร.ณชากล่าวว่า สถานการณ์โลก ภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ภายในประเทศของไทย ซึ่งกระทบการลงทุน สุดท้ายกระทบต่อชีวิตคน จากสถิติกรมธุรกิจพบว่าโรงงานปิดตัวมากขึ้นกว่า 100 แห่งต่อเดือน ซึ่งเป็นภาวะที่ติดต่อกันมา 2 ปีแล้ว ส่วนใหญ่เป็นโรงงานขนาดเล็ก SME ด้านสถิติของการเลิกจ้าง ผู้ถูกเลิกจ้างในระบบประกันสังคมสูงมากขึ้นในอัตราเลขสองหลัก 16% เมื่อเทียบรายปีและมีการเลิกจ้างติดต่อกัน 7 เดือนแล้ว คาดการณ์ว่าสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังการเลิกจ้างจะเลวร้ายลงไปอีก ส่วนในกลุ่มผู้เสมือนว่างงาน ชั่วโมงทำงานยิ่งลดลงอีก

ขณะเดียวกันเด็กจบใหม่ก็หางานยากขึ้น อัตราการว่างงานในกลุ่มเด็กที่จบใหม่สูงที่สุด เพราะผู้จ้างก็อาจจะรักษาคนที่มีประสบการณ์ทำงานสูงเอาไว้ก่อน หรือยังไม่จ้าง ฉะนั้นผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน โอกาสในการหางานช่วงนี้ก็ค่อนข้างจะยาก กระทบกับความคาดหวังของครอบครัวที่ว่าจะเป็นคนที่หารายได้มาจุนเจือครอบครัว

“ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทั้งในเชิงนโยบายหลายด้านของรัฐ ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนทั้งนั้น เนื่องจากเขามีรายจ่าย มีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่าย แต่ว่าในเมื่อรายได้ไม่เหมือนเดิม แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร ต้องมีการคิดแล้วก็วางแผน แผนที่เคยตั้งไว้ก็อาจจะไม่ได้ตามแผน ภายใต้สิ่งที่หลายอย่างเป็นความเสี่ยงมากขึ้น มันยากมากขึ้นถ้าเราไม่ได้วางแผนดี ไม่ได้คิดว่าสิ่งเหล่านี้มันจะเกิดขึ้นกับธุรกิจเรา บางอย่างสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ยิ่งจำเป็นที่เราต้องวางแผนและลงมือทำในสิ่งที่เราควบคุมได้” ดร.ณชากล่าว

การวางแผนทางการเงิน=การสร้างอนาคตด้วยมือเราเอง

ดร.ณชากล่าวว่า สิ่งที่สามารถควบคุมได้ในการวางแผนการเงิน ได้แก่ ควบคุมรายจ่าย การออม การกระจายการลงทุน การความคุ้มครอง ที่ยังทำได้หรือแม้แต่การดูแลสุขภาพ “ในสิ่งที่เราทำได้ในวันนี้ เราควรจะเริ่มวางแผนและทำกันก่อนภายใต้สถานการณ์ที่ความไม่แน่นอนของรายได้จากปัญหาเศรษฐกิจ”

ดร.ณชากล่าวว่า การออกแบบชีวิตหรือการออกแบบอนาคต อาจจะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องของอนาคต ก็เก็บไว้เป็นเรื่องของอนาคต แต่ “การวางแผนทางการเงิน คือ การที่เราดึงอนาคตมาลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เราไม่ปล่อยให้อนาคตเป็นเรื่องของชะตากรรม อนาคตเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยที่เรากำหนดไม่ได้ แต่การที่เราดึงให้มาอยู่ในปัจจุบันและเราลงมือทำให้เกิดขึ้นเองได้แล้วก็เราเป็นคนสร้างอนาคตนั้นด้วยมือเราเอง เราสร้างอนาคตของเราได้ในส่วนที่เราควบคุมได้”

ดร.ณชากล่าวว่า การวางแผนการเงินที่ดี คือการออกแบบชีวิตว่าต้องการไปถึงจุดไหน ซึ่งจะช่วยให้ 1)รู้ถึงเป้าหมาย สามารถประเมินได้ว่ามีความคืบหน้าแค่ไหน 2)สามารถปรับเปลี่ยนแผนได้และมีความพร้อมรับมือในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดหรือ เหตุการณ์ฉุกเฉิน 3) ช่วยสร้างความมั่งข้างในระยะยาวได้ด้วยการที่มีวินัย มีความสม่ำเสมอในการวางแผน 4)ช่วยลดความเครียด ความกังวลเรื่องเงินได้ และ 5) ช่วยให้มีทิศทางและกรอบในการตัดสินใจทางการเงิน

“ถ้ามีเรื่องของการเงินที่ต้องตัดสินใจบางครั้งถ้าเราไม่มีกรอบ ไม่มีเป้าหมายว่าทำเพื่ออะไร ก็ตัดสินใจไปตามอารมณ์ ไปตามความรู้สึก ณ ตอนนั้น แต่ถ้าเรารู้แล้วว่าเป้าหมายเราในชีวิตคืออะไร ทำไปเพื่ออะไร จะทำให้การตัดสินใจเกี่ยวกับการเงินเรามีจุดยืน มีกรอบ มีเหตุผลมากขึ้นว่าระยะยาวคือสิ่งที่เราต้องการ จะช่วยทุกอย่างในการตัดสินใจทางการเงินไม่ว่าเป็นการใช้จ่าย การก่อหนี้”

7 ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการไม่วางแผนการเงิน

ดร.ณชากล่าวว่า จากการให้บริการและให้คำแนะนำในการวางแผนทางการเงินแก่ลูกค้าของธนาคารเกียรตินาคิน พบว่า มีหลายด้านที่ลูกค้าไม่เคยคิดถึง จึงได้รวบรวมข้อผิดพลาดในการไม่วางแผนการเงินออกมาได้ 7 ข้อด้วยกัน

ข้อแรก ไม่เคยวางแผนทางการเงิน ไม่เคยรู้ว่าการวางแผนการเงินมีความสำคัญ บางคนคิดว่าไม่สำคัญ เพราะไม่คิดว่าจะความไม่แน่นอนชีวิตเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าต้องการอะไรในชีวิต เมื่อถามคำถามว่าเป้าหมายชีวิตคืออะไร ก็ได้คำตอบว่าไม่เคยคิด

สถิติจากการสำรวจของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) พบว่าคนไทยในภาพรวมที่คิดวางแผนทางการเงินในยามเกษียณมีสัดส่วนค่อนข้างน้อย คนที่ตอบว่าคิดและวางแผนแล้วมี 66% อาจจะไม่ได้น้อยมาก แต่ที่ทำได้ตามแผนมีแค่ 16% ในภาพรวม

เมื่อแยกตามกลุ่มวัย คนรุ่น Baby Boomer กลุ่มที่มีอายุ 60 ขึ้นไปทำได้แค่ 20% เท่านั้น ทั้งๆที่วัยเกษียณควรจะทำได้ 90% ซึ่งยังน้อยมาก จนน่าตกใจ นอกจากนี้ผลการสำรวจของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบว่าเพียงแค่ 30% ของคนไทยที่มีเงินพอที่จะเกษียณ ซึ่งก็เป็นตัวเลขที่น้อยมากสำหรับการเตรียมพร้อมสำหรับการเกษียณของคนไทย

ในภาคธุรกิจก็เช่นกันมีการวางแผนธุรกิจเพื่อการเติบโตใน 5-10 ปีหน้า แต่เมื่อถามถึงแผนทางการเงินส่วนบุคคลได้คำตอบว่าไม่มี ไม่เคยคิด เพราะคิดว่าจะใช้รายได้จากธุรกิจเลี้ยงตัว และไม่ได้คำนึงถึงกรณีธุรกิจสะดุดที่จะมีผลต่อการดำรงชีวิต ดังนั้นควรจะใช้ทักษะการวางแผนธุรกิจมาวางแผนชีวิตให้กับตัวเองได้เช่นกัน

ข้อสอง วางแผนเกษียณตอนใกล้เกษียณ คนมักจะคิดว่าการวางแผนเกษียณค่อยทำตอนใกล้เกษียณ ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการรับรู้ว่าเกษียณคือ สูงวัย ดังนั้นค่อยวางแผนตอนอายุมาก ในกลุ่มคนอายุน้อยเองก็ยากที่จะมองไปที่การวางแผนเกษียณ ตั้งแต่เริ่มทำงาน แต่การเริ่มเร็วได้เปรียบ การวางแผนเกษียณไม่ได้หมายความว่าใกล้เกษียณแล้วค่อยมาทำ แต่หมายถึงการเตรียมพร้อมสำหรับวันที่จะไม่มีรายได้หลัก ความพร้อมที่รายได้ประจำหมดไป ฉะนั้นการที่เริ่มเร็ว คือ จะมีเวลาที่จะมีรายรับเข้ามาเพิ่มเติมอีกมาก การเริ่มช้าทำให้มีเวลาเหลือน้อยมากที่จะมีรายรับหลักเข้ามาล้วการที่เริ่มเร็วก็จะได้ดอกเบี้ยทบต้นที่พลังมหาศาล

ดร.ณชา อธิบายภาพด้านบน เพื่อบอกถึงผลตอบแทนที่จะได้รับจากการเริ่มวางแผนการเงินเร็ว โดยเทียบระยะเวลาการออมแค่ 5 ปี กับ 10 ปี 20 ปี ยกตัวอย่าง เริ่มต้นออมเมื่ออายุ 30 ปีจะมีระยะเวลาในการออม 30 ปีจนกระทั่งอายุ 60 ปี โดยเก็บออม 5,000 บาททุกเดือน และกำหนดอัตราผลตอบแทน 7% จะเห็นได้ว่า ระยะเวลาเก็บออม 30 ปี สัดส่วนของผลตอบแทนสูงถึง 70% ในเงินออมทั้งหมด ซึ่งมาจากผลตอบแทนจากการลงทุนที่ใส่เข้าไปเพียง 30%

“นี่คือพลังของดอกเบี้ยทบต้น ยิ่งมีเวลามากก็จะยิ่งได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้นมากเป็นทวีคูณตามระยะเวลาที่มี ฉะนั้นการเริ่มเร็วก็ได้เปรียบกว่า” ดร.ณชากล่าว

ข้อที่ 3 ไม่คำนึงถึงความไม่แน่นอนของรายได้ คนส่วนใหญ่มักไม่นึกถึงวันที่รายได้ไม่เท่าเดิมหรือหมดไป ซึ่งจะมีผลให้การใช้ชีวิตเปลี่ยน เงินส่วนมากที่พึ่งพามาจากรายได้ประจำ ถ้าเราสามารถที่จะวางแผนการลงทุนเพื่อเก็บเงินก้อนหนึ่ง ได้ผลตอบ แทนจากการลงทุนเพื่อให้มีรายได้เข้ามาทดแทนในวันที่รายได้ประจำหายไป และยังสามารถใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้ในวัยหลังเกษียณ

ข้อที่ 4 ไม่มีการคุ้มครอง Protection เพียงพอ ดร.ณชากล่าวว่า มีลูกค้าของธนาคารเกียรตินาคินบางคนที่วางแผนการลงทุนแล้ว แต่ต้อยกเลิกการวางแผนทั้งหมด เพราะประสบกับปัญหาสุขภาพและไม่ได้ซื้อประกันไว้ ต้องถอนการลงทุนเพื่อนำเงินไปใช้รักษาตัว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การไม่ได้ซื้อ protection เพียงพอ เป็นอีกส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการวางแผนทางการเงิน เพราะสุขภาพ หรือภัยต่างๆมีโอกาสเกิดขึ้นได้ และอาจจะทำลายสิ่งที่สร้างขึ้น ทำลายความมั่งคั่งที่สร้างขึ้นมาทั้งหมดได้

ดร.ณชา ยกตัวเลขจากสมาคมประกันชีวิตไทยว่า จำนวนประชากรไทยที่มีกรรมธรรม์ประกันชีวิตค่อนข้างต่ำอยู่ที่ประมาณไม่ถึง 40% ของจำนวนประชากร ส่วนหนึ่งมาจากการที่บางคนซื้อหลายกรมธรรม์ไม่ได้หมายความว่า 40% ของประชากรมีกรรมธรรม์ ซึ่งสัดส่วนนี้น้อยเมื่อเทียบกับต่างประเทศอย่างญี่ปุ่น เกาหลี

“ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ทุกคนซื้อทุกปี ยังทำได้เลย โอกาสในการที่จะใช้ประกันรถยนต์น้อยกว่า 20% ต่อปี แต่ประกันสุขภาพมีโอกาสที่ทุกคนต้องใช้สักวันหนึ่งมากกว่า 70% แต่บางทีเราเลือกที่จะไม่ซื้อเพราะว่าคิดว่าคงไม่เกิดปัญหาหรอก”

ข้อที่ 5 ไม่คำนึงถึงเงินเฟ้อไม่เผื่อค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด ดร.ณชา ขยายความว่า ไม่ได้หมายเงินเฟ้อหน่วยงานรัฐมีการเผยแพร่แต่หมายถึงมูลค่าของค่าใช้จ่ายต่างๆที่แพงขึ้นทุกปี ตัวเลขเงินเฟ้อโดยรวมอาจจะดูต่ำ แต่ค่าครองชีพสูงมากๆทุกปี โดยเฉพาะคนที่อยู่ในเมือง โดยเฉพาะค่ารักษาสุขภาพแพงเร็วขึ้นกว่ารายได้ ค่ารักษาพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มขึ้น 8-9% ทุกปีหรือค่าเล่าเรียนในโรงเรียนนานาชาติที่เพิ่มขึ้น 3-5% ทุกปี

“ค่ารักษาพยาบาลค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกปี ถ้าต้องใช้เงินส่วนตัวจ่ายเองแพงมาก แล้วยิ่งอายุมากขึ้นสัดส่วนของรายจ่ายที่ต้องจ่ายไปกับสุขภาพเพิ่มขึ้นมากกว่าเรื่องอื่นๆ ฉะนั้นก็ต้องเตรียมเผื่อไว้ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลสุขภาพ เช่นเดียวกับผู้ที่ให้ลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติ แล้วก็ส่งไปเมืองนอก ต้องวางแผนให้ดี คำนวณว่าต้องใช้เงินทั้งหมดเท่าไหร่”

นอกจากนี้ในวันเกษียณอาจจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าซ่อมบ้าน ค่าจ้างพยาบาลดูแล ค่าภาษีสังคม เป็นค่าใช้จ่ายที่ควรจะต้องเผื่อไว้ การวางแผนค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนในช่วงเกษียณต้องคำนึง เงินเฟ้อ และค่าใช้จ่ายอื่นๆเผื่อไว้ด้วย

ดร.ณชายังได้ตัวอย่างเงินเฟ้อที่มีผลกระทบต่อเงินที่วางแผนจะใช้ในยามเกษียณ ที่แสดงให้เห็นถึงการที่ค่าของเงินลดลงไปเรื่อยๆ โดยสมมุติว่าวันนี้เราอายุ 35 ปี ตั้งใจจะเกษียณอายุ 60 ปี และมีเป้าหมายจะใช้เงินประหยัดมากแค่ 20,000 บาทต่อเดือนหรือ 30,000 บาท

กรณีที่ไม่คิดเงินเฟ้อในอนาคตที่จะใช้เงิน 20,000 บาทต่อเดือนในวันที่เกษียณ และมีชีวิตอยู่ไปอีก 25 ปี จะต้องมีเงินเก็บ 6 ล้านบาท แต่หากมีเงินเฟ้อ 2% หรือ 3% หมายความการดำรงชีวิตด้วยเงิน 20,000 บาทในวันที่เกษียณก็ไม่พอ เพราะราคาปรับเพิ่มขึ้น เงินที่จะต้องเก็บจะกลายเป็น 12.6 ล้าน ต้องเก็บเงินมากกว่า 2 เท่าของเงินที่จะคิดว่าจะเก็บในวันนี้ และหากต้องการที่ใช้เงินต่อเดือนมากกว่า 20.,000 บาทก็ต้องเก็บเพิ่มมากกว่านี้มาก

“ดังนั้นต้องเก็บเผื่อไว้สำหรับมูลค่าเงินถ้าต้องการจะรักษาไลฟ์สไตล์ในช่วงที่ต้องใช้เงิน และถ้าเก็บเงิน รู้จักการลงทุนที่จะทำให้เงินงอกเงยเอาตั้งแต่วันนี้ ก็สามารถที่จะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนเอาชนะเงินเฟ้อได้ และผลตอบแทนอาจจะมากพอที่จะใช้จ่ายโดยที่ไม่ต้องใช้เงินต้น แล้วก็รักษากำลังซื้อของเงินต้นไว้ นี่คือประโยชน์ของการวางแผนการเงิน” ดร.ณชากล่าว

ดร.ณชา ยังได้ยกตัวอย่างการสำรวจชาวอเมริกันของ JP Morgan ถึงปัจจัยอื่นที่ต้องคำนึงถึงนอกจากเงินเฟ้อ เพื่อเก็บเงินมากกว่าที่ต้องเตรียมเกษียณ ซึ่งได้แก่ การที่อาจจะอายุยืนยาวกว่าที่คาดไว้ เช่น อาจจะมีชีวิตหลังเกษียณอีก 25 ปี แต่อาจจะมีชีวิตถึง 100 ปีได้ ผลสำรวจพบคนที่มีโอกาสอายุยืนยาวไปถึง 100 ปีมีถึง 10% ถือว่าไม่น้อย โดยเฉพาะผู้หญิง ดังนั้นการวางแผนไม่ใช่แค่ถึงอายุถึง 85 ปี ต้องเผื่อไว้ในกรณีที่มีอายุถึง 99 ปี 100 ปี

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ต้องเกษียณก่อนอายุ 60 ปี เช่น โดนให้ออกจากงาน บริษัทปลดพนักงานซึ่งมีโอกาส 32% เกษียณก่อนกำหนดเพราะปัญหาสุขภาพ 31% หรือทักษะความรู้ที่มีไม่เหมาะดับโลกปัจจุบันอีกแล้ว 8% ทั้งหมดเป็นเหตุที่ไม่ได้วางแผนไว้

ข้อที่ 6 ไม่ลงทุนเลยเพราะคิดว่าไม่ลงทุนคือไม่เสี่ยง หลายคนเก็บเงินเพื่อเกษียณทุกเม็ดแต่ไม่ลงทุนเลย เพราะไม่อยากรับความเสี่ยง นำเงินไปฝากอย่างเดียว แต่การที่ไม่ลงทุนเลยและคิดว่าไม่เสี่ยง อันที่จริงมมีความเสี่ยง เพราะการฝากเงินอย่างเดียวโดยที่ไม่ลงทุนเลย ในระยะยาวมูลค่าของที่แพงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กำลังซื้อของเงินลดลงไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่เกษียณ เงินที่มีน้อยลงไปกว่าเงินที่เก็บมาสะสมมาทั้งชีวิต

“ฉะนั้นมันจึงจำเป็นที่จะต้องบริหารเงินหรือว่าลงทุนเพื่อที่จะเอาชนะเงินเฟ้อให้ได้ แล้วก็ให้เงินที่เก็บสะสมมางอกเงยขึ้นมา จนสามารถที่จะเลี้ยงดูชีวิตไปหลังเกษียณ โดยที่ได้ผลตอบแทนที่มากกว่าเงินเฟ้อ และกระจายการลงทุนโดยที่ก็ยังดูแลในเรื่องของความเสี่ยงที่จำกัดได้ด้วย” ดร.ณชากล่าว

ข้อที่ 7 ไม่กระจายความเสี่ยง บางคนต้องการที่จะลงทุนอย่างเดียว อยากจะได้ผลตอบแทนที่สูงๆ แล้วก็เน้นผลตอบแทนแบบระยะสั้น เสี่ยงมากๆ ไม่กระจายความเสี่ยงเลย ลงทุนที่เสี่ยงเกินไป ดังนั้นโอกาสขาดทุนก็จะสูงมากแล้ว บางครั้งก็ทำลายแผนระยะยาวไปเลย หรือบางครั้งเจอภาวะตลาดผันผวนมากๆ ก็หยุดลงทุนไปเลย ทำให้การวางแผนการเงินหยุดชะงัก

กระจายการลงทุนเปิดโอกาสเพิ่มผลตอบแทน

ดร.ณชากล่าวว่า การกระจายการลงทุน และการวางแผนการเงิน ทำให้รองรับกับความผันผวนของตลาดได้ ผลตอบแทนไม่เหวี่ยงไปตามสภาวะของตลาดไม่ว่าตลาดจะแปรผันแค่ไหน

โดยเปรียบเทียบให้เห็นถึงการลงทุนที่กระจายความเสี่ยงและลงทุนระยะยาว โอกาสขาดทุนยิ่งน้อย เมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้น หรือบอนด์ อย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว การลงทุนในหุ้นอย่างเดียว เสี่ยงขาดทุนสูงหากตลาดเป็นขาลง ขณะที่การลงทุนในบอนด์เสียโอกาสรับผลตอบแทนสูงขึ้นจากการลงทุน

“การลงทุนในหุ้นระยะสั้นๆโอกาสที่ได้กำไรเยอะๆก็มีมาก แต่โอกาสที่จะขาดทุนเยอะก็มีมากเช่นกันถึง 50% ส่วนการลงทุนแค่ในบอนด์อย่างเดียวโอกาสที่จะพลาดจากการได้กำไรสูงๆขึ้นไปก็เยอะ เป็นการจำกัดโอกาสตัวเอง แต่ถ้ากระจายความเสี่ยงทั้ง 2 อย่าง ก็จะได้โอกาสทั้งผลตอบแทนที่สูงขึ้นรวมถึงจำกัดความเสี่ยงในขาต่ำด้วยเหมือนกัน และยิ่งลงทุนยาวขึ้น ความเสี่ยงน้อยลงเรื่อยๆ” ดร.ณชากล่าว

EDGE ช่วยวางแผนครบวงจร

ด้วยประสบการณ์ด้านบริหารความมั่งคั่ง การลงทุน และการวางแผนทางการเงินแบบองค์รวม KKP พร้อมสนับสนุนทั้งบุคคล ครอบครัว และเจ้าของธุรกิจ ให้เปลี่ยนความฝันให้เป็นจริงผ่านบริการที่รอบด้าน เช่น

  • บริการ EDGE by KKP บริการวางแผนการเงินด้วยกลยุทธ์การจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation) เพื่อเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว เช่น การวางแผนศึกษาบุตร การเตรียมความพร้อมเพื่อเกษียณ การสะสมเงินทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ
  • แอปพลิเคชัน Dime! บริการเริ่มต้นลงทุนสำหรับคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ทองคำ ตลอดจนกองทุนรวม พร้อมการสนับสนุนบทวิเคราะห์และความรู้การเงินที่เข้าถึงง่าย
  • ผลิตภัณฑ์เงินฝาก ประกัน และสินเชื่อ เพื่อรองรับวิถีชีวิตและเป้าหมายตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงวัย

“เรอยากจะให้คนที่สนใจ ไม่ใช่เฉพาะลูกค้า คนที่อยากจะเริ่มต้น แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรให้มาพูดคุยกันได้ แต่เราอยากจะเริ่มจากให้เขารู้จักตัวเองก่อนว่าเป้าหมายเขาอยากจะทำอะไร เป้าหมายระยะสั้นระยะยาว ทีม EDGE เป็นทีมที่ดูแล การวางแผนการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน เป้าหมายชีวิต เป้าหมายเกษียณหรือการวางแผนการศึกษา” ดร.ณชากล่าว

EDGE เป็นบริการด้านการลงทุนครบวงจรที่ไม่ใช่แค่การลงทุนอย่างเดียว แต่มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งเงินฝาก ประกันชีวิตตอบโจทย์ลูกค้า รวมไปถึงการบริหารความเสี่ยง และให้คำแนะนำการวางแผนการเงินที่เหมาะสมกับความต้องการลูกค้าแต่ละราย นอกเหนือจากแผนการเงินทั่วไปภายใต้กรอบมาตรฐานผ่านสาขา หรือ KKP Mobile

ผู้ที่มีเงินฝาก เงินลงทุนรวมกัน 2 ล้านบาทขึ้นไปสามารถใช้บริการ EDGE ได้ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมในการใช้บริการ

การให้คำแนะนำในการวางแผนทางการเงินของ EDGE จะมีการพูดคุยกันตั้งแต่เริ่มต้นถึงเป้าหมาย ความต้องการลงทุน การรับความเสี่ยง ความจำเป็นในการใช้เงิน และอื่นๆ รวมทั้งอยู่บนพื้นฐานงานวิจัย เพื่อไม่ให้ยกเลิกแผนหรือถอนการลงทุนในภายหลัง

ในกรณีที่ลูกค้าต้องการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใหม่ เช่น สินทรัพย์ดิจิทัล จากการที่ได้เห็นได้ฟังการชี้นำถึงผลตอบแทนที่สูงในสื่อโซเชียล โดยที่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจดีนัก ก็จะแนะนำให้จัดสรรเงินไปลงทุนในสัดส่วนที่ไม่มากเมื่อเทียบกับพอร์ตโดยรวม เช่น 5% หรือ 2% รวมทั้งชี้ให้เห็นว่า การวางแผนชีวิตในองค์รวมมีความสำคัญมาก และไม่ควรไปฟังคำแนะนำที่เป็นส่วนๆ หรือเป็นท่อนๆ จากผู้ที่ไม่ใช่ที่ปรึกษาทางการเงิน เพราะแต่ละคนจะหยิบเฉพาะบางมุมมานำเสนอ ซึ่งอาจจะดีมากในช่วงนั้นๆและไม่ใช่เป้าหมายชีวิตที่ต้องการ

“ภาพใหญ่ เป้าหมายใหญ่การวางแผนที่เป็นองค์รวมสำคัญมากไม่ใช่ไปหยิบบางคำแนะนำหรือ ลอกแผนชีวิตของคนอื่นมาแล้วคิดว่าเราน่าจะประสบความสำเร็จ ชีวิตเราที่เราต้องการ เราก็ต้องออกแบบเอง การวางแผนการเงินส่วนบุคคลคือเรื่องของบุคคลจริงๆ” ดร.ณชากล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยพับลิก้า

ปลัดคลังชู ‘data Lake’ เพิ่มประสิทธิภาพเก็บภาษี – ใช้ Negative Income Tax ช่วย ‘ฐานราก’ ตรงเป้า

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘ภูมิธรรม’สั่ง ศบ.ทก.-คค.-กสทช. แก้ “โดรน” ปริศนา-ครม.ควักเงิน ธ.ก.ส. 4.5 หมื่นล้าน แจกชาวนาไร่ละพัน

23 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

รถบัสรับ-ส่งพนักงาน ชนกับรถกระบะ กลางถนนสายตลาดบางบ่อ - แยกบางคล้า คุณลุงขับกระบะเสียชีวิต จ.ฉะเชิงเทรา

สวพ.FM91

อิสราเอลระดมกำลังสำรอง 60,000 นาย เตรียมพร้อมขยายปฏิบัติการในกาซาซิตี้

JS100

หนุ่มวัย 27 ปีขี่รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำกลางถนนปู่เจ้าสมิงพราย ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต จ.สมุทรปราการ

สวพ.FM91
วิดีโอ

จับตา! ทนายอั๋น เผย หลวงพ่อคนดัง ส่งเงินให้นักการเมืองสีน้ำเงิน เพราะไม่อยากให้เงินอยู่ในระบบวัด

BRIGHTTV.CO.TH

สุดเศร้า! “เจ้ากระทิง” สุนัขแสนรู้แห่งภูมะเขือ สิ้นใจตายแล้วหลังสงครามชายแดนไทย-กัมพูชา

เดลินิวส์

ทรัมป์เรียกร้องกรรมการเฟดฉ้อโกงเงินกู้ซื้อบ้าน ลาออก

JS100

รถบัสรับ-ส่งพนักงาน ชนอัดก็อปปี้กระบะดับ 1 เจ็บ 1

Khaosod

กลาโหมยิวอนุมัติแผนยึดครองกาซาซิตี้ สั่งระดมกองหนุนเพิ่มขึ้นอีก60,000นาย

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...