โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

17 ส.ค. วันอนุรักษ์พะยูน รำลึกมาเรียม กินขยะพลาสติกตาย สะท้อนวิกฤติทะเลไทย

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันที่ 17 สิงหาคม ของทุกปี ได้รับการประกาศให้เป็น “วันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ” โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อย้ำเตือนถึงบทบาทสำคัญของพะยูนในระบบนิเวศชายฝั่งทะเล และกระตุ้นให้สังคมหันมาใส่ใจการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก รวมถึงการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทางทะเลอย่างยั่งยืน

จุดเริ่มต้นจาก “มาเรียม”

วันสำคัญนี้มีที่มาจากเรื่องราวของ “มาเรียม” ลูกพะยูนพลัดหลง ที่ถูกพบเกยตื้นในจังหวัดกระบี่เมื่อปี 2562 ก่อนจะกลายเป็นที่รักของคนไทยทั้งประเทศ ด้วยภาพความน่ารักและสายสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่กับ ลูกพะยูน ที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดในช่วงฟื้นฟูร่างกาย

แต่สุดท้าย มาเรียมต้องเสียชีวิตจาก การติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมีต้นเหตุมาจาก ขยะพลาสติก ที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกาย ไม่นานหลังจากนั้น ลูกพะยูนอีกตัวหนึ่งชื่อว่า “ยามีล” ก็เสียชีวิตในลักษณะเดียวกัน สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาวิกฤตขยะทะเล ที่กำลังคุกคามชีวิตสัตว์ทะเลหายากของไทยอย่างชัดเจน

เรื่องราวของมาเรียมและยามีลกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ทำให้เกิดกระแสตื่นตัวในสังคมเกี่ยวกับการดูแลทะเลไทยอย่างจริงจัง และนำไปสู่การกำหนดวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติอย่างเป็นทางการ

ก้าวต่อไป ศูนย์ปฏิบัติการร่วมพิทักษ์พะยูน

ภายใต้นโยบายเร่งด่วนของ "ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการร่วมพิทักษ์พะยูน ทส.” เพื่อแก้ไขวิกฤตที่กำลังคุกคามประชากรพะยูนในไทย โดยเฉพาะปัญหา การเสื่อมโทรมของแหล่งหญ้าทะเล ซึ่งเป็นแหล่งอาหารหลักของพะยูน

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) และ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ร่วมกันสำรวจและเฝ้าระวังประชากรพะยูนในพื้นที่สำคัญ เช่น หาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง และ หมู่เกาะลิบง จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นแหล่งหญ้าทะเลขนาดใหญ่

มีการจัดตั้งทีมกู้ภัยพะยูนพร้อมใช้ โดรนตรวจการณ์ทางอากาศ เพื่อเฝ้าระวังและช่วยเหลือสัตว์ที่ตกอยู่ในอันตราย ตลอดจนติดตั้งอุปกรณ์คุ้มครองบริเวณเกาะลิบง และพัฒนา แปลงหญ้าทะเลเสริม เพื่อเพิ่มแหล่งอาหาร

จำนวนพะยูนไทยดูเพิ่มขึ้น แต่การตายยังน่าห่วง

จากข้อมูลสถิติของ คลังความรู้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่า จำนวนพะยูนในประเทศไทยดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

  • ปี 2557 พบพะยูน 200 ตัว
  • ปี 2560 พบพะยูน 221 ตัว
  • ปี 2561 พบพะยูน 250 ตัว
  • ปี 2562 พบพะยูน 261 ตัว
  • ปี 2563 พบพะยูน 255 ตัว
  • ปี 2564 พบพะยูน 261 ตัว (อันดามัน 229 ตัว / อ่าวไทย 32 ตัว)*
  • ปี 2565 เพิ่มเป็น 273 ตัว (อันดามัน 242 ตัว / อ่าวไทย 31 ตัว)
  • ปี 2566 เพิ่มเป็น 282 ตัว (อันดามัน 250 ตัว / อ่าวไทย 32 ตัว)

(*หมายเหตุ: ปี 2564 ใช้วิธีประมาณจากพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ไม่สามารถบินสำรวจพื้นที่ตรังได้)

โดยแนวโน้มประชากรช่วง 2550–2557 ประชากรพะยูนลดลงจาก 240 → 200 ตัว แต่ช่วง 2559–2566: มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก 221 → 282 ตัว

แม้ดูเหมือนว่าพะยูนจะเพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าคือ อัตราการตายต่อปีของพะยูนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

  • จากเดิมในช่วงปี 2548–2561 พะยูนตายเฉลี่ย 13 ตัวต่อปี
  • แต่ตั้งแต่ปี 2562–2567 พะยูนตายเพิ่มเป็นเฉลี่ย 25 ตัวต่อปี

ในช่วง 4 ปีหลังสุด มีพะยูนตายปีละหลายสิบตัว

  • ปี 2564: 25 ตัว
  • ปี 2565: 19 ตัว
  • ปี 2566: 40 ตัว
  • ปี 2567: 48 ตัว
  • เพียงต้นปี 2568 พะยูนตายแล้วมากกว่า 13 ตัว

รวมแล้วในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พะยูนตายไปแล้ว กว่า 145 ตัว แต่ในขณะเดียวกัน จำนวนพะยูนเกิดใหม่เฉลี่ยแค่ปีละ 17.5 ตัวเท่านั้น

นั่นหมายความว่า แม้จำนวนจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่หากแนวโน้มการตายยังคงสูงกว่าการเกิดแบบนี้ พะยูนไทยอาจเสี่ยงสูญพันธุ์ในอนาคต

ส่องสถิติเกยตื้น-ตายของพะยูน ปี 2566

  • เกยตื้นทั้งหมด 36 ตัว
  • เกยตื้นแบบเสียชีวิต 32 ตัว (89%)
  • เกยตื้นแบบมีชีวิต 4 ตัว (11%)
  • ปล่อยกลับคืนธรรมชาติได้ 3 ตัว (75% ของที่รอด)
  • เกยตื้นไม่ทราบสาเหตุ (ซากเน่า) 11 ตัว (31%)
  • เกยตื้นที่ระบุสาเหตุได้ 25 ตัว (69%)

สาเหตุการเกยตื้นที่ระบุได้ (25 ตัว)

  • เจ็บป่วย 8 ตัว (32%)
  • อุบัติเหตุทางทะเล5 ตัว (20%)
  • ป่วยร่วมกับกินขยะทะเล5 ตัว (20%)
  • พลัดหลง 2 ตัว (8%)
  • สาเหตุอื่น ๆ 5 ตัว (20%)

สาเหตุการตายหลักของพะยูน

  • ขาดแคลนอาหารจาก การลดลงของหญ้าทะเล ซึ่งเป็นผลจากภาวะโลกร้อน ทำให้น้ำทะเลอุ่นขึ้นจนหญ้าทะเลเสื่อมคุณภาพ
  • การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมชายฝั่ง เช่น การถมทะเล การพังทลายของชายฝั่งมลภาวะจากกิจกรรมมนุษย์ เช่น น้ำเสียจากโรงงาน การก่อสร้างท่าเรือ และการขุดร่องน้ำ
  • การติดเครื่องมือประมง
  • การถูกเรือชน
  • การกินขยะทะเล โดยเฉพาะพลาสติก ซึ่งอุดตันในทางเดินอาหารและทำให้พะยูนตายอย่างช้าๆ จากภาวะขาดสารอาหาร

พะยูน ตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของทะเล

พะยูนไม่ใช่เพียงสัตว์ทะเลหายาก แต่ยังถือเป็นดัชนีชี้วัดสุขภาพของระบบนิเวศชายฝั่งทะเล การอนุรักษ์พะยูนจึงเท่ากับการปกป้องความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไทยให้คงอยู่สืบไป เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นหลัง

วันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ไม่ใช่แค่วันที่รำลึกถึง “มาเรียม” แต่คือ เครื่องเตือนใจ ว่า เราทุกคนมีส่วนร่วมในการปกป้องชีวิตเล็ก ๆ ใต้ผืนน้ำเหล่านี้ให้ปลอดภัยจากอันตรายที่มนุษย์สร้างขึ้น เพราะการรักษาพะยูน ก็คือการรักษาทะเลไทย และการรักษาทะเล คือการรักษาชีวิตของเราทุกคน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

ดีเดย์พรุ่งนี้! บังคับใช้ Liveness Detection กสทช.คุมเข้มลงทะเบียนซิมทั่วประเทศ

23 นาทีที่แล้ว

'สตรีมมิ่งจีน' รุกอาเซียนต่อเนื่อง จ่อทำคอนเทนต์ออริจินัล แข่งสตรีมมิ่งอเมริกัน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'ETIX' ลุยลงทุนขยายดาต้าเซ็นเตอร์รับดีมานด์ AI พุ่ง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘บัฟเฟตต์’ ชี้ดูการตัดสินใจครั้งเดียว แยกคนสำเร็จ จากผู้เพ้อฝัน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

วิดีโอ

รู้ให้ลึกเรื่องญี่ปุ่น : "คนหาย" ปัญหาอีกมุมของญี่ปุ่นที่คุณอาจไม่เคยรู้

Thai PBS

LIVE ถ่ายทอดสด ฟอเรสต์ พบ เบรนท์ฟอร์ด พรีเมียร์ลีก วันนี้ 17 ส.ค.68

PostToday

ถ่ายทอดสด เชลซี พบ คริสตัล พาเลซ พรีเมียร์ลีก วันนี้ 17 ส.ค.68

PostToday

7 THINGS WE LOVE ABOUT LINDA EVANGELISTA หนึ่งในซูเปอร์โมเดลที่สำคัญที่สุดตลอดกาล

THE STANDARD

อุ่นข้าวอย่างไรให้ปลอดภัย ลดความเสี่ยงอาหารเป็นพิษ

sanook.com

ถ่ายทอดสด แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ ระยอง เอฟซี ไทยลีก วันนี้ 17 ส.ค.68

PostToday
วิดีโอ

สูตรลับฉบับบ้านนา : อาหารไก่หมอลำยำแซ่บ

Thai PBS

ลิปสติกเนื้อแมตต์ VS เนื้อกลอส เลือกอย่างไรให้เหมาะกับลุค

sanook.com

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...